ที่มา FB
Anurak Jeantawanich
สำหรับสื่อมวลชน (For press)
ผมถูกจับวันนี้จากการที่นำข้าวไปถวายพระและแจกเสื้อกิจกรรมสีขาว มีภาพเณรน้อยนั่งสมาธิสกรีนข้อความ "อย่ารังแกพระ" ให้แก่บรรดาผู้ที่ไปประกอบอาหารที่โรงทานของตลาดกลาง เยื้องวัดธรรมกาย เมื่อเวลาราว 15.30 น.ท่ามกลางสายตาของประชาชนนับพันและผู้สื่อข่าวจำนวนมาก
ทหารนำตัวผมไปส่งที่ค่ายตชด.ในพื้นที่จ.ปทุมที่เป็นศูนย์ปฏิบัติการ DSI และถูกนำตัวไปพบพ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล ผู้บัญชาการ DSI ที่รับมอบอำนาจตามมาตรา 44 ของคสช. เขาบอกผมว่าพฤติการณ์การถวายข้าวพระแจกเสื้อกิจกรรมสีขาวนี้เป็นการยุยง ส่งเสริม สนับสนุน ุผู้ชุมนุมที่ตลาดคลองหลวง และออกคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรห้ามผมกลับเข้าไปในพื้นที่ควบคุมธรรมกาย และขู่ว่าหากผมกลับเข้าไปอีกจะถูกดำเนินคดีในข้อหาขัดคำสั่ง มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และบังคับให้ผมลงนามรับทราบในคำสั่ง
ขอเรียนว่าผมไปถวายข้าวและแจกเสื้อสีขาวสกรีนคำว่า "อย่ารังแกพระ" ในฐานะพุทธศาสนิกชนที่ศรัทธาในพระพุทธศาสนา ผมมิได้ไปในฐานะนักกิจกรรมหรือคนเสื้อแดง จริงอยู่ว่าผมเคยทำกิจกรรมในนามฟอร์ด เส้นทางสีแดงช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้พิการ เด็กกำพร้า ช่วยเหลือผู้ถูกน้ำท่วมระหว่างปี 2553-2556 มอบเงินและสิ่งของไปหลายแสนบาท ต่อมาหลังรัฐประหารผมได้จัดทำเสื้อกิจกรรมมอบเงินช่วยเหลือผู้ต้องขังระหว่างปี 2558-2559 เป็นเงินสี่แสนกว่าบาท แต่ผมก็ได้ประกาศยุติการทำกิจกรรมเมื่อเดือนที่แล้ว และการไปถวายข้าวพระในครั้งนี้ผมก็ได้กระทำในนามประชาชนธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่ต้องการนำปัญหาการเมืองไปผูกโยงกับปัญหาของวัดธรรมกาย
ขอเรียนว่าผมมิใช้ศิษย์ของวัดธรรมกาย ไม่เคยเข้าวัดธรรมกายตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน แต่ผมทนเห็นสิ่งที่วัดธรรมกายถูกกระทำมาหลายวันนี้ไม่ได้ วันที่ผมเห็นภาพของพระบาดเจ็บและมีเลือดออกจากการปะทะกับทหารเมื่อสัปดาห์ที่แล้วทำให้ผมสะเทือนใจอย่างยิ่งและตั้งคำถามว่ากำลังเกิดอะไรกับพุทธศาสนาในประเทศนี้ วันที่ผมตัดสินใจที่จะมาถวายข้าวพระธรรมกายคือวันที่ผมเห็นทางวัดขึ้นป้ายข้อความ "We need food" พร้อมกับมีข่าวว่าวัดธรรมกายถูกปิดล้อม ระงับการส่งอาหารให้กับพระและประชาชนที่อยู่ในวัดนับหมื่นคน
วันศุกร์ที่ 3 มีค.ผมได้มาถวายข้าวพระครั้งแรก ได้นำข้าวกล่องจำนวน 100 กล่องและเสื้อจำนวน 70 กว่าตัวมาถวาย อาหารผมทำด้วยตัวเอง จัดซื้อ ปรุงสำเร็จ มีลูกๆช่วยกันแพ้กไม่ต่างจากการเตรียมอาหารไปถวายพระทั่วไป เสื้อสีขาวที่ผมนำมาจากผมได้เลือกเฉพาะสีขาวซึ่งเป็นสีของผู้ปฏิบัติธรรม และสกรีนภาพเณรน้อยนั่งสมาธิข้อความ "อย่ารังแกพระ" ซึ่งผมได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วว่าไม่ส่งสัญญาณใดๆเกี่ยวกับสีเสื้อ เพราะไม่ต้องการนำปัญหาสีเสื้อใดไปเกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา กรรมย่อมชี้เจตนา เงินที่ผมได้รับล้วนเป็นเงินสนับสนุนจากมิตรสหายในเฟสบุ้คซึ่งให้การสนับสนุนเพราะเห็นถึงความตั้งใจ ทุกบาททุกสตางค์ที่ผมได้รับผมโพสขอบคุณและให้พรทางหน้าเฟสบุ้คว่า "ขอให้ผู้บริจาคเจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ" ตามประสานักกิจกรรมที่เคยบวชเป็นพระมาก่อน ผมไม่เคยได้รับเงินจากนักการเมือง หรือวัดธรรมกาย ตั้งแต่ต้นที่ผมออกทำกิจกรรมจนถึงวันนี้รวมเป็นเวลาเกือบ 7 ปี ผมยินดีให้สอบถามทุกอย่าง สามารถเปิดเผยตรวจสอบได้ กิจกรรมที่ผมทำล้วนมาจากเงินส่วนตัวของผม และเพื่อนเฟสบุ้คที่ให้การสนับสนุนทุกสาขาอาชีพที่เห็นคุณค่าในกิจกรรมเพื่อมนุษยธรรมที่ผมทำ
ในวันนี้ผมได้กลับไปอีกครั้ง นำสิ่งของที่จะถวายนั่งแท้กซี่ไปคนเดียว ผ่านด่านทหารทุกด่านตามปกติ เมื่อถึงวัดได้นำอาหารไปถวายพระ แจกจ่ายเสื้อกิจกรรมให้กับบรรดาพ่อครัว แม่ครัวที่อยู่ในโรงทาน มิได้แจกจ่ายให้กับประชาชนที่มาฟังธรรม หรือแสดงให้เห็นว่ามีการยุยง ส่งเสริม สนับสนุน ผู้ชุมนุมแต่อย่างใด เมื่อเสร็จกิจผมได้ถ่ายรุปและโพสหน้าเฟสเป็นหลักฐานเช่นที่เคยทำทุกครั้ง
ผมเป็นอดีตนักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตยและมนุษยธรรม ขอตั้งคำถามถึง DSI ว่าการที่ประชาชนไปถวายอาหารพระนี่ผิดกฏหมายข้อไหน? ผิดศีลธรรมข้อใด? การที่ประชาชนจัดทำเสื้อสีขาวสกรีนภาพและข้อความเช่นนี้เป็นการปลุกระดม ยั่วยุ ส่งเสริมสนับสนุน ผู้ชุมนุมตรงไหน? ข่าวการที่พุทธศาสนิกชนถูกจับเพียงเพราะนำอาหารไปถวายพระแจกเสื้อขาวให้กับผู้ปฏิบัติธรรมจะสร้างความเสือมเสียให้กับประเทศไทยไหมครับ? จะทำให้ประชาชนทั่วไปที่ทราบข่าวนี้เลื่อมใสศรัทธาในวัดธรรมกายเพิ่มขึ้นไหมครับ? พวกเขาจะมีความรู้สึกว่าคสช.รังแกประชาชนเกินไปไหมครับ?
ผมตั้งคำถามถึงผู้บัญชาการ DSI ว่า หากเจ้าอาวาสวัดธรรมกายผิดจริง ทำไมวัดนี้ถึงได้อยู่มาได้เกือบ 50 ปี มีผู้ศรัทธานับล้าน มีเชื้อพระวงศ์ไปทำบุญที่วัดนี้หลายพระองค์ ทำไมไม่ไปจับโจรใต้ที่วันก่อนยิงเด็กนักเรียนตายไปหลายคน? หากบอกว่าจับคนที่ผิดกฏหมาย ในทุกๆวันของประเทศนี้มีคนทำผิดกฏหมาย หากจับกันทุกคนแล้วจะเอาคุกที่ไหนมาขัง และจะเอาประชาชนที่ไหนมาทำงานเสียภาษีให้รัฐนำไปพัฒนาประเทศ? ทำไมจะต้องมารีบร้อนจับตอนนี้ในขณะที่ประเทศนี้ต้องการความปรองดอง?
หลังรัฐประหาร 2557 ประชาชนในประเทศนี้ไม่มีเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมือง ใครใส่เสื้อแดงต้องถูกจับ ใครพูดเรื่องประชาธิปไตยต้องถูกปรับทัศนคติ แม้แต่ตอนนี้การถวายข้าวให้พระก็กำลังกลายเป็นสิ่งต้องห้าม การแจกเสื้อสีขาวกำลังกลายเป็นสิ่งผิดกฏหมายหรือครับ?
ผมไม่เคยกลัวกฏหมายที่ออกโดยรัฐบาลที่มาจากรัฐประหาร ผมอาจจะไปหรือไม่ไปพื้นที่ตลาดคลองหลวงอีก อนาคตไม่มีใครรู้ สิ่งที่ผมกลัวคือกฏแห่งกรรมที่จะติดตัวผมไปเหมือนดั่งที่ผมเพิ่งจะโพสเฟสบุ้คเมื่อวานว่า ..
"คุณและผมและมนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้ล้วนผ่านการเกิดและตายมานับครั้งไม่ถ้วน การเกิดใหม่แต่ละชาติล้วนแต่เสวยกรรมเก่าทั้งดีและไม่ดีที่ตนได้กระทำเมื่อชาติที่แล้ว และสะสมกรรมใหม่ทั้งดีและไม่ดีเพื่อนำคุณไปสู่กำเนิดใหม่ในอีกชีวิตหนึ่ง"
หากคุณคิดว่าผมเป็นภัยความมั่นคงเช่นเดียวกับวัดธรรมกาย และศิษย์ธรรมกาย มาจับผมเถอะครับ ผมจะรออยู่ที่บ้าน
นายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์
5 มีค. 2560 21.33 น. (ที่บ้าน)
ooo
"ถ้าในหลวงร. 9 รู้ว่ามีประชาชนไปถวายข้าวให้พระแล้วถูกจับ พระองค์จะเสียใจไหมครับ ?" คำถามนี้ผมถามผู้บัญชาการ DSI ระหว่างออกคำสั่งคสช.ห้ามผมกลับเข้าไปถวายข้าวพระอีก
คิดว่ากระดาษแผ่นเดียวผมจะกลัวเหรอครับ?
Anurak Jeantawanich
6 hrs
.....
"ถ้าในหลวงร. 9 รู้ว่ามีประชาชนไปถวายข้าวให้พระแล้วถูกจับ พระองค์จะเสียใจไหมครับ ?" คำถามนี้ผมถามผู้บัญชาการ DSI ระหว่างออกคำสั่งคสช.ห้ามผมกลับเข้าไปถวายข้าวพระอีก
คิดว่ากระดาษแผ่นเดียวผมจะกลัวเหรอครับ?
Anurak Jeantawanich
6 hrs
.....