ประเด็นร้อนออนไลน์สองวันมานี่ไม่มีอะไรเกิน วิศวกรสูงวัยยิงเด็กโจ๋ตายหนึ่งคน อยู่ในกะลาแลนด์ อย่าไปซีเรียสอะไรนัก ปล่อยให้กระแสสังคมจัดการกันไป ???

ประเด็นร้อนออนไลน์สองวันมานี่ไม่มีอะไรเกิน วิศวกรสูงวัยยิงเด็กโจ๋ตายหนึ่งคน ชาวเน็ตวิจารณ์แซ่ด ‘สาสมแล้ว เพราะเด็กแว้นเอง’

เหตุเกิดตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ที่ ๔ กุมภาพันธ์ บนเส้นทางอ่างศิลาสู่ชลบุรี มีการกระทบกระทั่งบนทางหลวง (แบบที่ในอเมริกาเรียก ‘road rage’) ระหว่างผู้ขับขี่รถเก๋งวัย ๕๐ ปี อาชีพวิศวกร เดินทางร่วมกับภรรยา แม่ และลูก กับวัยรุ่นกลุ่มใหญ่มากันในรถตู้หนึ่งคันและรถเก๋งอีกหนึ่งคัน

เพื่อนของผู้ตายเล่าให้รายการทุบโต๊ะข่าว ทีวีช่องอัมรินทร์ ๓๔ ว่า “วิศวกรพูดจาหยาบคาย มีการแจกกล้วยเด็กบนรถตู้” และ “เพราะลุงมาด่า ทำท่าเบรกแล้วหยุด” ทำให้กลุ่มวัยรุ่นเกิดโทสะ รถตู้จึงขับตามไปตัดขวางหน้า รถเก๋งปิดท้าย จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นก็กรูลงจากรถตู้ไปห้อมล้อมรถของวิศวกร





หญิงชราลงจากรถเดินอ้อมมาดึงคอเสื้อวัยรุ่นผู้ตาย จากนั้นวัยรุ่นคนนี้ก็เดินย้อนไปทางด้านคนขับ ซึ่งพูดเสียงหลงว่า “ทำอะไร ทำอะไร ทำอะไร” ต่อจากนี้เป็นรายงานที่เก็บมาจากผู้ใช้แฮสแท็ก #กูว่าง ถอดคำจากคลิป

วัยรุ่นตอบว่า “มึงเก๋าเหรอ ๆ ๆ ไอ้สัส” ชายวัย ๕๐ ตอบกลับ “มันผ่านไปแล้ว ผมปาดหน้า ผมทำอะไรคุณรึเปล่า”

เสียงเปิดประตู “มึงลงมาเลย มึงลง จะลงมาป่าว” เสียงปืน เสียงร้อง “เฮ้ยปอน ไอ้ปอน ดูไอ้ปอนเดะ แจ้งตำรวจเลย”

ภรรยาวิศวกรถาม “พี่ยิงเหรอ” คำตอบ “ใช่มันต่อยพี่” ถามอีก “ยิงโดนมั้ย” ตอบ “ไม่รู้ แว่นตา โอ๊ย มันต่อยพี่ แว่นตาอยู่ไหน”

หลังจากตำรวจมาถึง เด็กวัยรุ่นให้การว่า “คือผมงง ว่าเขามาถ่ายรูปผมทำไม” วิศวกรย้อนว่า “แล้วเปิดมาตีผมทำไม”







วันต่อมาผู้เป็นแม่ของวัยรุ่นที่ตายให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวโทรทัศน์อย่างฉาดฉาน “ก็ถามว่าเขาพกปืนไปทำไม ไปเที่ยวน่ะ พกปืนไปทำไม คนดีเหรอพกปืน คุณคนดีเหรอ”





จึงมีดาวตลก ‘ซูโม่กิ๊ก’ หรือนายเกียรติ กิจเจริญ ออกมาตอบทางหน้า เฟซบุ๊ก Kiat Kitcharoen ว่า “กูอายุ ๕๓ กูต้องนอนให้เด็กรุมกระทืบ ใช่ไหม เพราะมันยังเด้กอยู่ใช่ไหม ถ้ากูมีปืนแล้วกูไม่ยิง จะให้กูขว้างเหรอ”

อีกคนทางทวิตเตอร์ ‘ไบรอัน เน็ตไอดอ ‏@brian_the_lover’ คอมเม้นต์เช่นกัน “ไปเที่ยวจะพกปืนไปทำไม เป็นใคร เป็นแค่วิศวะ ถ้าวันนั้นวิศวะไม่พกปืนไป ฝ่ายที่ตายอาจเป็นวิศวะ”

ด้าน Weerapong Duangmanee ไปเสริมไว้ที่เพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ V.4 “ผมโดนมากับตัวเลยครับเคสแบบนี้ เค้าขับมาชนผม คนชนตายคาที่ แต่เพื่อนขับตามกันมาเยอะ รุมผมจะเลือดคั่งในสมอง เกือบตาย แต่รอดมาได้...

ผลสรุปของคดี คนรุมผมรอลงอาญา ไม่โดนห่าอะไรเลย เดินลอยหน้ากันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดนแค่คดีทำร้ายร่างกายสาหัสแล้วก็จ่ายเศษเงินเล็กๆ น้อยๆ มาเป็นค่าปรับและค่าเสียหาย ผมจึงสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับผมและครอบครัวคนที่ผมรักได้อีก เป็นผม ๆ ก็ยิง”

ส่วน ‘พี่ เอ็ม นิ๊ น้อง‏@EmEmmiez’ หนักหน่อย “ลุงผิดนะครับ ผิดที่ยิงไปนัดเดียว แม่ง! ตัวแบบนี้ต้องให้ยิงหมดแม็กครับ เหอะๆๆ”

ขณะที่ Myra Sangawongse ให้ความเห็นทางเฟชบุ๊คว่า “ไอ้วัยรุ่นมันไปหาเรื่องลุงวิศวะก่อน โอเค หมาหมู่ก็สมควรถึงแก่ความตาย

ประกอบกับคุณครูบอกว่าเด็กที่ถูกยิงตายเข้าห้องปกครองทุกสัปดาห์ก่อนจะลาออกจากโรงเรียนนี้ไป สรุปคือเรียนไม่จบด้วย”





ไม่แต่เท่านั้น มีคนไปขุดคำพิพากษาศาลฎีกาเมื่อปี ๒๕๓๙ มาตีแผ่ คดีที่บอกว่า “ผู้ตายเป็นนักเลงอันธพาล ใจคอดุร้าย...จำเลยอายุ ๖๘ ปี อยู่ในวัยชรา ส่วนผู้ตายวัย ๒๖ ปี เป็นชายฉกรรจ์...

การที่จำเลยยิงปืนใส่ผู้ตายเพียง ๑ นัด...ถูกผู้ตาย...ถึงแก่ความตาย ถือได้ว่าการกระทำของจำเลยพอสมควรแก่เหตุ”

เช่นเดียวกับรายงานข่าวของว้อยซ์ทีวี ที่ถามความเห็นของ อจ.สาวตรี สุขศรี ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายอาญา คณะนิติศาสตร์ มธ. ประเมินได้ว่าเข้าข่ายประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๖๘ ที่บัญญัติว่า

“ผู้ใดต้องกระทำการใดเพื่อป้องกันสิทธิของตนหรือของผู้อื่น ให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ถ้าได้กระทำพอสมควรแก่เหตุ การกระทำนั้นเป็นการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นไม่มีความผิด”

(http://news.voicetv.co.th/thailand/460275.html)

สรุปว่าสื่อสังคมจัดทำการพิจารณาคดีไปเกือบจะเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีการซักพยาน นำสืบข้อกฎหมาย มีพยานวัตถุ ทั้งคลิป ทั้งสคริป พร้อมสรรพ

ตอนนี้บรรดาผู้ที่ให้ความสนใจและใส่ใจกับเรื่องนี้ กำลังรอลุ้นกันว่าศาลจะพิพากษาออกมาอย่างไร ในขณะที่ยังไม่ปรากฏว่าผู้ตายหรือจำเลย มีคุณลักษณ์พิเศษอะไรคล้ายคลึงหรือเป็นทำนองเดียวกับคดีอื้อฉาว ‘high profile’ อื่นๆ ที่ผ่านมา

จึงน่าจะสรุปอีกทาง ดังผู้ใช้นาม สุริญา ลึ่มนอก เขียนคอมเม้นต์ตอบคอมเม้นต์ จนมีคนตามไปคอมเม้นต์อีกเกือบสองร้อย “จากคดีนี้...

ถ้าครูจอมทรัพย์ไม่ได้ชน แล้วใครชนวะ ??? ตากับยายแกก็ตกใจ ทิ้งรถทิ้งตะกร้าเห็ดไว้วิ่งหนีเข้าป่าไปโน้น

แต่...กรูว่างานนี้ไอ้เบนซ์น่าสงสัยที่สุด เพราะมันชอบขับรถเร็ว ทางที่ดีต้องเค้นเอาความจริง กับอีทรายกับอีลูกเต๋าว่าไอ้เซลล์แมนขายรถนั้น มันตายได้ไง !!!

แล้วนี้ ‘ไอ้บอล’ มันหายไปไหน ใครเจอมันบอกมันกลับบ้านด้วย แม่มันรอแฟ๊บซักผ้าอยู่”

ดราม่าเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อยู่ในกะลาแลนด์ อย่าไปซีเรียสอะไรนัก หัดตลกโปกฮา ติ๊ดแตกบ้าง ฉุนบ้าง จะได้มีชีวิตไล้ฟ์บอย ถึงอย่างไรก็จะไม่มีเลือกตั้งอีก ๑ ปีเป็นอย่างน้อย ทั่นรองฯ วิษณุ เครืองาม รับประกัน

“การแก้รัฐธรรมนูญ (ตามพระราชประสงค์ในหลวงฯ ร.๑๐) เกือบเสร็จแล้ว จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ได้ในวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ จากนั้นรอพระราชทานกลับมาภายใน ๙๐ วัน”

(http://www.channelnewsasia.com/…/thailand-s-ne…/3503030.html)

“จากนั้นก็จะเข้าสู่กระบวนการจัดทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ และส่งให้ สนช.พิจารณาเสร็จสิ้นภายใน ๒๔๐ วัน ซึ่งถ้าทุกอย่างมีการใช้เวลาเต็มตามกรอบที่กำหนดไว้ กฎหมายลูกทั้งหมดก็จะเสร็จสิ้นภายในเดือน ต.ค.๒๕๖๐

ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการจัดการเลือกตั้ง ซึ่งจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน ๑๕๐ วัน เท่ากับว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นไม่เกินเดือน มี.ค.๒๕๖๑ หรือราว ‘กลางปีหน้า’ นั่นเอง”

(http://www.newsjs.com/url.php…)

ระหว่างนี้ก่อนถึงตอนนั้น ถ้ามีเรื่องไรๆ ก็ปล่อยให้กระแสสังคมจัดการกันไป ดั่งที่นายทหารรัฐมนตรีคนหนึ่งเคยว่าไว้