.....https://www.youtube.com/watch?v=B8ZLFsUikJ8&feature=share
อ.ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ OVERVIEW 17-2-2017
SHTV
Published on Feb 17, 2017
ม็อบค้านถ่านหิน ใต้บุกทำเนียบ ไล่หานายกฯ ระดมพลอยู่ยาว
https://www.facebook.com/VoiceTVonline/
ooo
ที่มา มติชนออนไลน์
17 ก.พ. 60
ม็อบกร้าว ปักหลักชุมนุมหน้าทำเนียบ จนกว่ารัฐบาลจะยุติโรงไฟฟ้าถ่านหิน ท้าให้จับ ไม่กลัวตาย
เวลา 12.20 น. หลังจากทราบผลการประชุมของคณะกรรมการนโยบายแห่งชาติ (กพช.) ที่ให้เดินหน้าสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ นายประสิทธิชัย หนูนวล ผู้ประสานงานเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน แถลงว่าแกนนำตัดสินใจจะปักหลักชุมนุมเช่นเดิม เพื่อรอดูว่ารัฐบาลจะทนได้นานเพียงใดกับการที่ประชาชนมารวมตัวที่หน้าทำเนียบรัฐบาลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะชุมนุมจนกว่ารัฐบาลจะสั่งยุติโครงการก่อสร้าง จากนี้แกนนำจะหารือกำหนดการเคลื่อนไหวอีกครั้ง แต่จะไม่ตั้งเวที ยืนยันไม่กลับบ้านอย่างแน่นอน ครั้งนี้แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ฟังเสียงประชาชน แต่เอื้อแก่กลุ่มทุนมาโดยตลอด
“เรามาจากกระบี่ เตรียมตัวมาหมดแล้ว การถูกจับเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับเรา การทำลายจนเสียชีวิตไม่ได้อยู่ในสายตาเรา และผมคิดว่าน่าจะมีการใช้กำลังสลายม็อบแน่นอน ซึ่งทุกคนเตรียมรับมืออยู่แล้ว เรื่องนี้เป็นที่จับตาของทั่วโลก เพราะกระบี่เป็นเมืองท่องเที่ยว การตัดสินใจของนายกฯถือว่าประจานตัวเอง เพราะล่าสุดประธานธนาคารโลกออกมาระบุว่า หากทุกประเทศสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินก็จะเจ๊งแน่นอน อยากให้ทหาร-ตำรวจใช้กำลังกับเราได้เต็มที่ จะดูว่ารัฐบาลทหารจะจับประชาชนที่มารักษาแผ่นดินตัวเองได้อย่างไร หากดำเนินการกับผู้ชุมนุมรัฐบาลต้องยอมรับในสิ่งที่ทำ ยอมรับการประณามจากโลก ซึ่งต้องดูว่ารัฐบาลจะหน้าด้านไปถึงไหน หากต้องการให้เลิกชุมนุมก็มาจับเราให้หมด จับคนทั้งจังหวัดกระบี่ หากอยากลองดีก็ทำ” นายประสิทธิชัยกล่าว
นายประสิทธิชัยกล่าวว่า การที่นายกฯให้เหตุผลในการสร้างโรงไฟฟ้าฯ เพื่อความมั่นคงทางพลังงานในภาคใต้ และอ้างว่าต่างประเทศก็ทำนั้น เป็นเหตุผลที่ไร้เดียงสา ไม่มีภาวะผู้นำ เพราะการที่ไฟฟ้าในภาคใต้ติดๆ ดับๆ นั้นเป็นปัญหาจากสายส่งที่ไฟไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะมีการระดมแนวร่วมเข้ามาชุมนุม เพราะเรื่องดังกล่าวนี้เกี่ยวกับการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรมด้วย จึงคิดว่าอายุของรัฐบาลจะอยู่ไม่นาน ส่วนจะเป็นการต่อต้านรัฐบาลเลยหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลเอง เพราะอาจมีเครือข่ายประชาชนชายแดนภาคใต้เข้ามาร่วมด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นผู้ชุมนุมทยอยรวมตัวกันบริเวณประตู 2 ทำเนียบรัฐบาล พร้อมกับตะโกน “ชาวกระบี่ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน ไม่เอาทรราช” ทั้งนี้ พ.ต.อ.เกียรติ กาบบัว ผู้กำกับการตำรวจสันติบาล 3 ได้สั่งการให้ตำรวจทำเนียบรัฐบาลเตรียมความพร้อมและปิดประตูเข้า-ออก ป้องกันเหตุ โดยมีตำรวจเตือนผ่านโทรโข่งขอให้ชุมนุมอย่างสงบ ก่อนที่ผู้ชุมนุมจะแยกย้ายกระจายไปพักภายในสำนักงาน ก.พ. ซึ่งอยู่ตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล
ooo
ค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ยันปักหลักต้านหน้าทำเนียบ หลังประยุทธ์ไฟเขียวสร้าง
Fri, 2017-02-17 19:51
ที่มา ประชาไท
มติ กพช. เดินหน้าโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ หวังเพิ่มความมั่นคงไฟฟ้าภาคใต้ ด้านเครือข่ายปกป้องอันดามัน ยังปักหลักสู้ อภิสิทธิ์ชี้ประยุทธ์พลาดเดินหน้าโรงไฟฟ้าถ่านหิน ขณะที่ศาลนัดแกนนำไต่สวนคำร้องยกเลิกชุมนุม 20 ก.พ.นี้
17 ก.พ. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ ตั้งแต่เวลา 10.30 น. ที่บริเวณประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล เครือข่ายปกป้องอันดามันและประชาชนที่มาร่วมกว่า 200 คน ส่วนมากมาจาก อ.เทพา จ.สงขลา, อ.เหนือคลอง จ.กระบี่, ร่วมด้วยเครือข่ายสลัม 4 ภาค และกลุ่มนักศึกษา เดินทางมาคัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน
ต่อมาเวลาประมาณ 11.30 น. ที่ประชุมของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้มีมติ นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งเดินหน้าโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ จ.กระบี่ โดยให้เหตุผลว่าเพื่อเพิ่มความมั่นคงทางระบบไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีที่สะอาด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าภายหลังจากทราบมติดังดล่าว ส่งผลทำให้เครือข่ายฯ และประชาชนที่ร่วมตัวที่บริเวณหน้าทำเนียบฯ แสดงความผิดหวัง และยืนยันร่วมชุมนุมต่อสู้จนกว่ารัฐบาลจะมีการยุติการสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าว พร้อมทั้งเข้าประชิดรั้วทำเนียบ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 100 นายเข้าเจรจาขอให้ชุมนุมอย่างสงบ
ประสิทธิชัย หนูนวล แกนนำ เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลา 14.27 น. เพจ หยุดถ่านหินกระบี่ เผยแพร่ ประสิทธิชัย หนูนวล แกนนำ เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน ประกาศว่าจะปักหลักเรียกร้องเพื่อยุติโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ต่อไป ยืนยันไม่กลับบ้านอย่างแน่นอน ครั้งนี้แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ฟังเสียงประชาชน แต่เอื้อแก่กลุ่มทุนมาโดยตลอด
ศาลนัดไต่สวนคำร้องยกเลิกชุมนุม 20 ก.พ.นี้
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่นำหมายเรียกจากศาลแพ่ง เพื่อนัด จินดารัตน์ เพิ่มลาภวิรุฬห์ ผู้จัดการชุมนุม ไปไต่สวนคำร้องขอยกเลิกการชุมนุม ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ วันที่ 20 ก.พ.นี้ มาติดที่บริเวณที่ชุมนุมแล้ว
ภาพจากเพจ Banrasdr Photo
กพช. ไฟเขียวสร้าง เพิ่มความมั่นคงไฟฟ้าภาคใต้
สำหรับรายละเอียดมติดังกล่าวนั้น เว็บไซต์ข่าวทำเนียบรัฐบาล รายงานว่า ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2560 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง อาทิ พล.อ.อ.ประจิน ตั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เข้าร่วมด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยภายหลังการประชุม ว่าที่ประชุม กพช. ได้มีมติเห็นชอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทคโนโลยีสะอาดกระบี่ เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวได้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2550 และอยู่ในแผน PDP โดยการดำเนินการได้มีการพิจารณาทั้งจากหลักการและเหตุผล การใช้เทคโนโลยีในปัจจุบันที่มีประสิทธิภาพสูง รวมถึงความคุ้มค่าและความปลอดภัย ขณะเดียวกันจากการศึกษาในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมารัฐบาลได้ใช้มาตรการที่เหมาะสมในการสร้างการรับรู้และทำความเข้าใจแก่ประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งได้สั่งการให้กระทรวงพลังงานส่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องชี้แจ้งข้อมูลที่ถูกต้องให้กับกลุ่มบุคคลที่ยังไม่เห็นด้วยต่อการดำเนินโครงการดังกล่าว เพื่อจะได้เกิดความเข้าใจถึงปัจจัย หลักการและเหตุผลความจำเป็นที่จะต้องดำเนินโครงการดังกล่าวในการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าของประเทศให้เพียงพอกับความต้องการใช้ในอนาคต โดยเฉพาะปัจจุบันภาคใต้มีความต้องการใช้พลังงานสูงสุดกว่าทุกภาคของประเทศ ดังนั้นจึงต้องมีการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทคโนโลยีสะอาดกระบี่ เพื่อเพิ่มความมั่นคงให้ระบบไฟฟ้าภาคใต้ โดยคำนึงถึงความคุ่มค่า ปลอดภัย และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชนในพื้นที่
อภิสิทธิ์ชี้ประยุทธ์พลาดเดินหน้าโรงไฟฟ้าถ่านหิน
เนชั่น รายงานด้วยว่า อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ สั่งเดินหน้าสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ว่า เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดไม่สอดคล้องกับทิศทางของพลังงานในอนาคตที่มีทางเลือกที่ดีกว่า และสุ่มเสี่ยงต่อการสร้างความเสียหายกับพื้นที่การท่องเที่ยว ทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งถือว่าเป็นทุนที่มีค่าสำหรับพื้นที่นั้น และกังวลว่าความขัดแย้งจะไม่ยุติ ส่วนที่ชาวบ้านมาชุมนุมกันนั้นเห็นว่าทุกคนต้องเคารพกฎหมาย แต่ความจริงมีทางเลือกที่ดีกว่านี้และไม่กระทบความมั่นคงทางพลังงาน ซึ่งพรรคได้นำเสนอไปแล้ว แต่เสียดายว่ารัฐบาลไม่ดูทางเลือกให้ครบถ้วนในการวางรากฐานสำหรับอนาคต
ผบช.น.เข้าเจรจาม็อบโรงไฟฟ้าย้ายกลับกพร.
18:43 น. สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น รายงานว่า พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลพร้อมด้วย เข้าเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม ขอให้ย้ายกลับไปชุมนุมบริเวณสำนัก กพร. ตามคำขอที่ได้ประสานงาน สถานีตำรวจนครบาล ดุสิต ไว้ตั้งแต่ต้น มิเช่นนั้นจะเป็นการขัดกับพระราชบัญญัติชุมนุมสาธารณะ รวมถึงยังเป็นขัดคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 3 เนื่องจากเป็นการชุมนุมคัดค้านเรื่องที่รัฐบาลมีมติไปแล้ว จึงถือว่าเข้าข่ายการชุมนุมทางการเมือง ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนอย่าฝ่าฝืนกฎหมาย เพราะแม้ว่าจะสิทธิชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ แต่ทุกกอย่างต้องอยู่ภายใต้กฎกติกา และร่วมมือกันแก้ไขปัญหา แต่ทางกลุ่มผู้ชุมนุมไม่มีท่าทีว่าย้ายไปชุมนุมที่สำนักงานกพร.แต่อย่างใด
กป.อพช.ประกาศค้าน
คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ออกแถลงการณ์ค้านการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ และ อ.เทพา จ.สงขลา
ooo
PERMATAMAS แถลง ยกระดับการเคลื่อนไหว หากรัฐบาลตัดสินใจสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาและกระบี่”
17 กุมภาพันธ์ 2560 นายดิเรก เหมนคร ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปกป้องสิทธิชุมชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อสันติภาพ (PERMATAMAS) และเครือข่ายภาคประชาชนในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์เรื่อง “การยกระดับการเคลื่อนไหว หากรัฐบาลตัดสินใจสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาและกระบี่” โดยมีเนื้อหาดังนี้
นโยบายการผลักดันให้เกิดโรงไฟฟ้าถ่านหินในประเทศไทย ทั้งที่กระบี่ และเทพา รวมถึงที่อื่นๆ ตามแผน PDP2015 นับเป็นนโยบายที่มีความไม่สอดคล้องต่อกระแสการพัฒนาเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน และไม่ใช่ความต้องการของประชาชน แต่เป็นนโยบายที่เกิดจากความต้องการพัฒนาประเทศไปสู่อุตสาหกรรมหนัก และมีแนวโน้มที่การผลักดันดังกล่าวมีผลระโยชน์ทับซ้อน และการคอร์รัปชันครั้งใหญ่อยู่เบื้องหลัง
ทั้งนี้ เพราะการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และกลุ่มทุนใหญ่ได้ไปซื้อ หรือลงทุนเหมืองถ่านหินในต่างประเทศ เช่น ที่อินโดนีเซียไว้แล้ว
สำหรับพื้นที่ชายแดนใต้มีลักษณะพิเศษ มีอัตลักษณ์ และอุดมคติของการพัฒนาที่แตกต่างจากระบบทุนนิยมสุดโต่ง การผลักดันโรงไฟฟ้าถ่านหิน และอุตสาหกรรมมลพิษ ย่อมกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และวิถีชีวิตอย่างที่ไม่ควรจะเป็น และยังจะเป็นภัยแทรกซ้อนที่สำคัญยิ่ง ที่จะสร้างความแตกแยก และบั่นทอนการเดินทางสู่สันติภาพของชายแดนใต้
เพราะความรู้สึกที่ประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมในการที่รัฐบาลเดินหน้าโรงไฟฟ้าถ่านหิน จะเป็นเสมือนการวางยาให้แก่สันติภาพที่กำลังงอกงาม
เครือข่ายประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ปกป้องสิทธิชุมชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อสันติภาพ (PERMATAMAS) และเครือข่ายภาคประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อื่นๆ อันประกอบด้วย กลุ่มประชาชนในจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา และสตูล ขอประกาศย้ำต่อรัฐบาอีกครั้งว่า
“หากรัฐบาลอนุมัติให้มีการเดินหน้าโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา และโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ หรือโรงไฟฟ้าถ่านหินโรงใดโรงหนึ่ง ทางเครือข่ายจะยกระดับการเคลื่อนไหวเพื่อการคัดค้านความไม่เป็นธรรม และหายนภัยที่จะมากระทำต่อพื้นที่อย่างถึงที่สุด…
“ทั้งนี้ หากทางรัฐบาลอนุมัติโครงการ ทางเครือข่ายจะนัดหมายให้มีการชุมนุมใหญ่ที่มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี ภายในหนึ่งสัปดาห์ เพื่อประกาศถึงความไม่เป็นธรรมให้แก่สาธารณชนได้รับทราบ และร่วมกันกำหนดการเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องชายแดนใต้ และอันดามันต่อไป”
ขอให้รัฐบาลอย่าประเมินความสามารถของประชาชนต่ำเกินไป โดยเฉพาะ “เราประชาชนชายแดนใต้” ซึ่งพบเจอกับเรื่องหนักๆ มามากแล้ว ขอให้รัฐบาลทบทวนการตัดสินให้ดี อย่าให้เรื่องถ่านหินที่เป็นผลประโยชน์กลุ่มทุนมาทำลายความรู้สึกดีๆ ที่ประชาชนชายแดนใต้มีต่อรัฐไทย
แถลงการณ์ประชาชนชายแดนใต้
“การยกระดับการเคลื่อนไหว หากรัฐบาลตัดสินใจสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาและกระบี่”
นโยบายการผลักดันให้เกิดโรงไฟฟ้าถ่านหินในประเทศไทยทั้งที่กระบี่และเทพา รวมถึงที่อื่นๆตามแผน PDP2015 นับเป็นนโยบายที่มีความไม่สอดคล้องกับกระแสการพัฒนาเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน และไม่ใช่ความต้องการของประชาชน แต่เป็นนโยบายที่เกิดจากความต้องการพัฒนาประเทศไปสู่อุตสาหกรรมหนัก และมีแนวโน้มที่การผลักดันดังกล่าวมีผลระโยชน์ทับซ้อนและการคอรับชั่นครั้งใหญ่อยู่เบื้องหลัง ทั้งนี้เพราะ กฟผ.และกลุ่มทุนใหญ่ได้ไปซื้อหรือลงทุนเหมืองถ่านหินในต่างประเทศอาทิอินโดนีเซียไว้แล้ว
สำหรับพื้นที่ชายแดนใต้มีลักษณะพิเศษ มีอัตลักษณ์และอุดมคติของการพัฒนาที่แตกต่างจากระบบทุนนิยมสุดโต่ง
การผลักดันโรงไฟฟ้าถ่านหินและอุตสาหกรรมมลพิษ ย่อมกระทบกับสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตอย่างที่ไม่ควรจะเป็น และยังจะเป็นภัยแทรกซ้อนที่สำคัญยิ่งที่จะสร้างความแตกแยกและบั่นทอนการเดินทางสู่สันติภาพของชายแดนใต้ เพราะความรู้สึกที่ประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมในการที่รัฐบาลเดินหน้าโรงไฟฟ้าถ่านหิน จะเป็นเสมือนการวางยาให้กับสันติภาพที่กำลังงอกงาม
เครือข่ายประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ปกป้องสิทธิชุมชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อสันติภาพ(PERMATAMAS) และเครือข่ายภาคประชาชนชายแดนใต้ อันประกอบด้วย กลุ่มประชาชนในจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลาและสตูล ขอประกาศย้ำกับรัฐบาอีกครั้งว่า
“หากรัฐบาลอนุมัติให้มีการเดินหน้าโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาและโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ หรือโรงใดโรงหนึ่ง ทางเครือข่ายจะยกระดับการเคลื่อนไหวเพื่อการคัดค้านความไม่เป็นธรรมและหายนภัยที่จะมากระทำกับพื้นที่อย่างถึงที่สุด
ทั้งนี้หากทางรัฐบาลอนุมัติโครงการ ทางเครือข่ายจะนัดหมายให้มีการชุมนุมใหญ่ที่มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานีภายในหนึ่งสัปดาห์ เพื่อประกาศถึงความไม่เป็นธรรมให้กับสาธารณชนได้รับทราบ และร่วมกันกำหนดการเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องชายแดนใต้และอันดามันต่อไป
ขอให้รัฐบาลอย่าประเมินความสามารถของประชาชนต่ำเกินไป โดยเฉพาะ “เราประชาชนชายแดนใต้” ซึ่งพบเจอกับเรื่องหนักๆมามากแล้ว ขอให้รัฐบาลทบทวนการตัดสินให้ดี อย่าให้เรื่องถ่านหินที่เป็นผลประโยชน์กลุ่มทุนมาทำลายความรู้สึกดีๆที่ประชาชนชายแดนใต้มีต่อรัฐไทย
ดิเรก เหมนคร
ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ปกป้องสิทธิชุมชน
วันที่ 17 กกุมภาพันธ์ 2560
รูปภาพ #Somboon Khamhang
#PATANISOCIETY
ที่มา FB
Patani Society
