วันจันทร์, กุมภาพันธ์ 20, 2560

การกระชับพื้นที่วัดธรรมกาย ดูแล้วคงไม่ลงเอยง่ายๆ





ยังไม่ถึงขั้นมิคสัญญีหรือกาลียุคแหละนะ ปฏิบัติการณ์ ‘จับพระ’ ของลิ่วล้อ คสช. สายตำรวจ-ทหาร เข้าวันที่สี่ (๒๐ ก.พ.) มีกระแทกกระทั้งบ้างเล็กน้อย

เมื่อ ๐๐.๑๐ น.“เตรียมการเข้าขอคืนพื้นที่ที่ถนนเลียบคลองแอน บริเวณด้านหน้าประตู ๕ และประตู ๖ ที่มีพระและศิษยานุศิษย์ตั้งเต็นท์ปักหลักอยู่เป็นจำนวนมาก และเข้าไปเคลียร์พื้นที่ในวัดพระธรรมกายด้วย

ซึ่งการปฏิบัติการครั้งนี้จะเป็นการสนธิกำลังระหว่างตำรวจภูธรจาก ๓ ภาค คือ ภาค ๑, ๒, ๓ จำนวนหลายกองร้อยและเจ้าหน้าที่ทหารหลายพันนาย”

(http://www.komchadluek.net/news/regional/261059)

เห็นแว่บๆ บนเว็บเมื่อกี้ ใครไม่รู้บอกว่าบรรยากาศคล้ายปี ๕๓ ต่างแต่นอกจาก ‘กระชับพื้นที่แล้ว’ มี ‘ปิดประตูตีแมว’ คนในไล่ออก คนนอกไม่ให้เข้าด้วย






ดังที่ Atukkit Sawangsuk เล่าว่า “ตำรวจมีหมายจับหมายค้นบ้านผู้ต้องหา บุกไปค้นแล้วไม่เจอตัว ยังเฝ้าอยู่ในบ้าน ออกคำสั่งให้คนออกจากบ้าน เรียกญาติไปควบคุมตัว ชื่อยาวเป็นหางว่าว ใครไม่ไปมีความผิด” (http://www.matichon.co.th/news/469395)

จากนั้นเหตุการณ์ก็กระชับคล้ายกับจะเคลื่อนคล้อยลงสู่ความวุ่นวาย ‘descends into chaos’

๐๘.๐๕ น. บริเวณสะพานข้ามคลอง ๓ ทางเชื่อมประตู ๔ “มีการนำแท่งปูนมาวางปิดบนสะพานเพื่อป้องกัน จนท.บุกเข้ามาทางถนนมอเตอร์เวย์หรือทางหลวงพิเศษหมายเลข ๙ ขณะที่บริเวณหน้าประตูก็มีการนำมวลชนมานั่งสวดมนต์เพื่อยึดพื้นที่ทางเข้า...

๐๘.๑๐ น. เกิดการกระทบกระทั่งผลักดันกันระหว่างเจ้าหน้าที่และศิษย์วัดพระธรรมกาย บริเวณประตู ๕ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยบางส่วน”

(http://www.thairath.co.th/content/862166)

๐๘.๑๖ น. “การไฟฟ้าแจ้งทางวัดพระธรรมกายว่า วันนี้เวลา ๑๐.๐๐ น. กระแสไฟฟ้าภายในวัดและเมืองแก้วมณีจะถูกตัด ตามคำสั่งของมาตรา ๔๔ #ไทยรัฐ

๐๘.๒๐ น. มีเหตุชุลมุนที่ประตู ๕-๖ เมื่อพระสงฆ์และศิษย์วัดธรรมกายจำนวนหนึ่งออกมายังจุดตรวจคัดกรองของเจ้าหน้าที่ และเกิดการเผชิญหน้าและปะทะกันเล็กน้อย ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแผลที่เกิดจากการผลักดันแล้วหกล้ม และผู้สูงอายุบางคนก็เป็นลม”

๐๙.๐๕ น. “พระสนิทวงศ์ชี้แจงว่า แค่อยากให้เจ้าหน้าที่เปิดทางให้ลูกศิษย์เข้ามา อ้างว่าไม่ได้ต้องการปะทะหรือขอคืนพื้นที่ #pptvhd36

“พ.ต.ต.สุริยา รองอธิบดี DSI ยืนยัน จนท. พยายามเลี่ยงการปะทะ ไร้อาวุธพกพา ไม่ใช้ความรุนแรง เผยพระทำร้าย จนท.หญิง DSI วานนี้เป็นพระจริง”





ประเด็นนี้มีคอมเม้นต์จาก ‘นป. อยากเป็น สนช. ‏@iiDudes’ บอก “กลยุทธ์ที่เอาตำรวจหญิงไปล้อมพระภิกษุสงฆ์วัดธรรมกาย อันนี้นับว่าเหี้ยเกินไปป่ะชาวพุทธ 555 ใช้ จนท.ชายไม่ได้? ไม่จ้างโคโยตี้มาเต้นเลยล่ะ 555”

แต่ที่สุดแล้วก็มีคนจับภาพเหตุการณ์นั้นได้ พบว่าที่จริงเป็นเจ้าหน้าที่ชาย ไม่ใช่หญิง (โดยที่ข่าวไทยพีบีเอสให้ข้อคิดไว้น่าฟัง “ทั้งทางวัดพระธรรมกาย และดีเอสไอต่างก็ใช้ในโซเชียลมีเดียเผยแพร่ข้อมูลเพื่อจะลดความน่าเชื่อถือของอีกฝ่าย #ThaiPBSnews”)

ที่จริงถึงจะมีพระและเจ้าหน้าที่เจ็บกายกันแค่นิดหน่อย แต่ที่ ‘เจ็บลึก’ ในจิตใจจะเกาะกินความรู้สึกในสังคมไทยต่อไปอีกนานแสนนาน ในเมื่อ





ฝ่ายรังเกียจวัดธรรมกายรายหนึ่งเป็นคนในเครื่องแบบ โพสต์ข้อความ ‘hate crime’ แสดงเจตนาก่ออาชญากรรม “ใครพอมีระเบิดขอยืมบ้าง กำลังเดินทางไปวัดธรรมกาย”

ส่วนฝ่ายไม่เข้าข้างใคร แต่ไม่ยอมทนดูความลำเอียง

“ถ้าเกิดเรื่องอย่างนี้กับคนธรรมดา พวกคนดีมีศีลธรรม ก็จะเห็นว่าไม่ยุติธรรม

แต่พอเป็น ม.๔๔ กับธรรมกาย พวกอ่านหนังสือพุทธทาส ท่านปัญญา พระปยุต ฯลฯ กลับกรี๊ดสนั่น สะใจ ‘กำจัดมารศาสนา’ ต้องใช้อำนาจศักดิ์สิทธิ์ เหมือนธรณีสูบพระเทวทัตลัทธิแก้”

มันสะท้อนเลยเถิดไปถึงปฏิบัติการณ์สร้างปรองดองตามพระบรมราชโองการของรัชกาลใหม่ด้วย

คำพูดของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหมู่จัดการปรองดอง ที่ออกมาจวกแกนนำ นปช. จตุพร พรหมพันธุ์ ฟังแล้วยิ่งไร้ทั้งน้ำหนักและความหมาย

“อย่าขู่ผม จะสร้างม็อบเมิ้บอะไร พอแล้วครับ...มาช่วยกันดีกว่า ช่วยกันปฎิรูปประเทศ และก็วางยุทธศาสตร์บ้านเมืองต่อไปในอนาคต ๒๐ ปี”

เอาประเด็นหลังก่อน ไม่มีรัฐชาติร่วมสมัยที่ไหนเขาทำกันแล้วเดี๋ยวนี้ ที่จะวางยุทธศาสตร์ประเทศระยะยาวยี่สิบปี ยุคนี้โลกาภิวัฒน์สภาพการณ์เปลี่ยนแปลงรวดเร็วตามการเติบโตของระบบดิจิทัล ตั้งเป้าอะไรไว้ ๕ ปี บางทียังใช้ไม่ได้

สำหรับประเด็นแรกบิ๊กตือพูดเยอะแยะเรื่องจตุพรจะแยกวงปรองดอง ทั้งที่คนที่โดนหลายคดีขัดขืน คสช. และถูกถอนประกันต้องนอนคุกหลายครั้ง เขียนไว้ชัด “ยินดีจะไปตามนัดในวันที่ ๑๓ มีนาคม” ดังคำเชิญสนทนาปรองดอง

(http://www.matichon.co.th/news/469183)





จตุพรให้เหตุผลว่า “ซึ่งก็เป็นการตอบรับทั้งที่ยังไม่ได้เห็นเนื้อหาอะไร” เพราะ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้นำความพระกระแสรับสั่งเรื่องสร้างความสมัครสมานสามัคคี แก้ไขความขัดแย้ง...”

(https://www.facebook.com/Jatuporn.UDD/videos/1070723449706415/?hc_ref=NEWSFEED)

อภิโธ่ นี่ไงล่ะ ปรองดองจะเกิดได้อย่างไร ในเมื่อเอาแต่ตั้งแง่ให้ร้ายฝ่ายหนึ่งไว้เสียก่อน โดยไม่ฟังอีร้าค่าอีรม

ด้วยอาการอันส่อถึงเจตนาเช่นนี้ ย้อนไปที่การกระชับพื้นที่วัดธรรมกาย ดูแล้วคงไม่ลงเอยง่ายๆ อย่างม็อบต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ แน่นอน