![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjFR4n6FFHj7CamOxNK-ms0WNNl6v_nF8CQ6LFaI858F5aMh6r7Z0ddAu2_khKCSXlO39wyaVFM1T3ZIaNNX4yR1_dndbArohaGyAwWQvIEWQDntTvd6XWH7-_oQizA7THlgehsgQ/s400/olij4z12n1j3S4TbfwT-o.jpg)
รู้ไว้ใช่ว่า .... เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่ (วันหนึ่งอาจเป็นคนใกล้ตัวท่าน)
ที่มา เวปพันทิป
สวัสดีครับ หากกล่าวถึงภาวะการเจ็บป่วยฉุกเฉิน ใครไม่เคยประสบกับตัวเองก็คงไม่ทราบว่ามันเป็นภาวะที่ร้ายแรงเพียงใด
การส่งผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลมักจะมากับปัญหาเฉพาะหน้าอย่างหนึ่งคือเรื่อง "ค่ารักษา" .... จากคำว่า "ฉุกเฉิน" นั้น
ก็บอกอยู่แล้วว่ามีความจำเป็นต้องส่งผู้ป่วยเข้ารักษาที่โรงพยาบาลที่ใกล้สุดก่อนเพื่อรักษาชีวิต ซึ่งหากโรงพยาบาลนั้น
คือ รพ.เอกชนก็จะมีปัญหาเรื่องค่ารักษาตามมาทันที จากปัญหานี้ ทางสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.)
และ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ( สปสช. ) ได้จัดตั้งระบบการแพทย์ฉุกเฉินเริ่มมาตั้งแต่ปี 2555 แล้ว
โดยมีชื่อเดิมว่า เจ็บป่วยฉุกเฉิน รักษาทุกที่ ดีทุกสิทธิ และเมื่อ 3 วันที่านมาก็ได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้ง เป็น
“เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่” โดยชื่อภาษาอังกฤษยังคงเดิมคือ EMCO (Emergency Claim Online)
ตลอด 4 ปี มีผู้ป่วยฉุกเฉินได้รับการดูแลตามสิทธิดังกล่าวมากกว่า 70,000 คน
ใครจะมีสิทธิได้รับการรักษาแบบนี้บ้าง ?
ผู้ป่วยที่มีสิทธิรักษาในโครงการนี้ก็คือคนไทยทุกคนนั่นเอง โดยยึดถือตามสิทธิของ 3 กองทุน คือ
1. ข้าราชการที่เบิกค่ารักษาจากกองทุนสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ กรมบัญชีกลาง (ประมาณ 5 ล้านคน)
2. ลูกจ้างพนักงาน จากกองทุนประกันสังคม (ประมาณ 10 ล้านคน)
3. ประชาชนทั่วไปตามสิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) จากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (ประมาณ 48 ล้านคน)
สิทธิที่ได้รับเป็นอย่างไร ?
สิทธิที่ได้รับในการรักษาพยาบาลฉุกเฉินนี้ ผู้ป่วยสามารถเข้ารักษาที่โรงพยาบาลรัฐ หรือ เอกชน ทุกแห่ง
โดยไม่มีการถามสิทธิ์ก่อนการรักษา และ ไม่ต้องสำรองเงินค่ารักษาออกไปก่อน โดยทางโรงพยาบาล
จะรักษาผู้ป่วยให้ใน 72 ชั่วโมงแรก
สิทธินี้ ใช้กับผู้ป่วยฉุกเฉินขั้นใด ?
ระบบนี้ จะใช้กับผู้ป่วยที่เรียกว่า "วิกฤติระดับสีแดง" กล่าวคือผู้ที่มีภาวะดังต่อไปนี้ครับ
- หัวใจหยุดเต้น" (Cardiac arrest)
- ภาวะหยุดหายใจ
- ภาวะ ช็อก จากการเสียเลือดรุนแรง
- ชักตลอดเวลา หรือ ชักจนตัวเขียว
- อาการซึม หมดสติ ไม่รู้สึกตัว
- อาการเจ็บหน้าอกรุนแรงจากหลอดเลือดหัวใจตีบตัน
- อาการทางสมองจากหลอดเลือดสมองตีบตันเฉียบพลันมีความจำเป็นต้องได้รับยาละลายลิ่มเลือด
- การบาดเจ็บที่มีเลือดออกมากอย่างรวดเร็วและตลอดเวลา
ปัจจุบันนี้ ได้มีการพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินนี้ให้ผู้ป่วยเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว และตอบสนองต่อยุคปัจจุบัน
โดยทาง สพฉ. ได้พัฒนา Application ชื่อว่า ThaiEMS1669 (ทั้ง Android และ iOS)
โดยตัว App. สามารถแจ้งเหตุผ่าน 1669 และมีการส่งข้อมูล ชื่อ-สกุล หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล เพศ
ปีเกิด และ/หรือ ข้อมูลส่วนตัวเช่น โรคประจำตัว การแพ้ยา โดยจะระบุพิกัดที่เกิดเหตุ (latitude, longitude)
และส่งภาพถ่ายสถานที่เกิดเหตุได้ด้วย นอกจากนั้นตัว app. จะมีคำแนะนำในการปฏิบัติตัวเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
อาทิ แนวทางการช่วยเหลือผู้ป่วยบาดเจ็บที่ศีรษะ ได้รับสารเคมี ภาวะเลือดออก หมดสติกะทันหัน หัวใจวาย
แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก โรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น รวมทั้งยังมีรายชื่อโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุด้วยครับ
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgaG28DWvQHBLbbctm2aggvpIl6vsUllAKnwuAyg9f_VZf9Wx4hFCwndfYAah3guDdXnkZDTVCXTPh1zwp66faShG7fbvthBKOwaXoghyY9Nqrskm7hXdlzyGt-2AJ6K9WlspUS_w/s400/olij7gmv3VCTRL056f0-o.jpg)
ถึงแม้ว่าโครงการนี้จะมีมานานแล้ว แต่ก็มีความสำคัญยิ่งกับกรณีฉุกเฉินครับ
บางท่านก็อาจไม่ทราบว่ามีการพัฒนาเป็น App. สำหรับ Andriod - iOS แล้ว
ก็ download มาติดเครื่องใว้ จะมีประโยชน์ครับ
สวัสดีครับ
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgSt8uDiVe8iDBRpYPyamVafF2nkxh-lBXqdzZxCFSL9OewDNteA0QpsWLVoWxW0EBVSU-GkiwfKekSwLjlowYF805pE7eqg6GVWV4UR8aHWWkOLVCBIWYdD4chetvrM_C_7-lnCg/s1600/smiley17.png)
ooo
เจ็บป่วยฉุกเฉินต้องโทรสายด่วร1669 มีระบบประเมินอาการผู้ป่วย
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi8pXNCXbM66PcAfpUXiDpSglJ8xBwtDB8cXzRdTjRIcRvvA9IutUSCxmI0KQdJSX7lmyXl2fXGG9nNzYyRFxz3T7Bl7xtozGDQthZqtnr9mRYi9Rt8sM4WtkTzJCFvFl4X0YWg_w/s400/7fbj9i55hb59gadhb6aea.JPG)
ที่มา คมชัดลึก
สพฉ.ย้ำเจ็บป่วยฉุกเฉินโทรสายด่วน 1669 มีระบบรองรับช่วยประเมินอาการผู้ป่วย-จัดรถพยาบาลที่เหมาะสม แนะประชาชนหมั่นเช็คสิทธิการรักษาพยาบาลของตนเองอย่างสม่ำเสมอ
ล่าสุด นพ.ภูมินทร์ ศิลาพันธ์ รองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ(สพฉ.)กล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ในโลกออนไลน์เรื่องโรงพยาบาลเอกชนเรียกเก็บเงินค่ารักษาพยาบาลกับผู้ป่วยฉุกเฉินด้วยจำนวนเงินที่มากจนต้องถอดทองจำนำไว้ที่โรงพยาบาลว่า เท่าที่ตนติดตามข่าวทราบว่าผู้ป่วยรายดังกล่าวมีสิทธิรักษาพยาบาลในกองทุนประกันสังคม หากเป็นกรณีที่เกิดขึ้นในลักษณะนี้ เมื่อนำผู้ป่วยส่งไปรักษายังโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้แต่ไม่ใช่โรงพยาบาลในสิทธิกองทุนที่ผู้ป่วยเป็นสมาชิกอยู่ หากผู้ป่วยไม่รู้สติญาติสามารถแจ้งเรื่องไปยังโรงพยาบาลที่ผู้ป่วยขึ้นทะเบียนตามสิทธิแต่ละกองทุนเพื่อให้โรงพยาบาลเจ้าของสิทธิส่งรถพยาบาลมารับไปทำการรักษายังโรงพยาบาลที่ผู้ป่วยมีสิทธิได้ โดยในส่วนของค่าใช้จ่ายและกระบวนการต่างๆ ในการส่งตัวโรงพยาบาลที่เราขึ้นทะเบียนสิทธิไว้จะเข้ามาดูแลและอำนวยความสะดวกให้
คือ รพ.เอกชนก็จะมีปัญหาเรื่องค่ารักษาตามมาทันที จากปัญหานี้ ทางสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.)
และ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ( สปสช. ) ได้จัดตั้งระบบการแพทย์ฉุกเฉินเริ่มมาตั้งแต่ปี 2555 แล้ว
โดยมีชื่อเดิมว่า เจ็บป่วยฉุกเฉิน รักษาทุกที่ ดีทุกสิทธิ และเมื่อ 3 วันที่านมาก็ได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้ง เป็น
“เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่” โดยชื่อภาษาอังกฤษยังคงเดิมคือ EMCO (Emergency Claim Online)
ตลอด 4 ปี มีผู้ป่วยฉุกเฉินได้รับการดูแลตามสิทธิดังกล่าวมากกว่า 70,000 คน
ใครจะมีสิทธิได้รับการรักษาแบบนี้บ้าง ?
ผู้ป่วยที่มีสิทธิรักษาในโครงการนี้ก็คือคนไทยทุกคนนั่นเอง โดยยึดถือตามสิทธิของ 3 กองทุน คือ
1. ข้าราชการที่เบิกค่ารักษาจากกองทุนสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ กรมบัญชีกลาง (ประมาณ 5 ล้านคน)
2. ลูกจ้างพนักงาน จากกองทุนประกันสังคม (ประมาณ 10 ล้านคน)
3. ประชาชนทั่วไปตามสิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) จากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (ประมาณ 48 ล้านคน)
สิทธิที่ได้รับเป็นอย่างไร ?
สิทธิที่ได้รับในการรักษาพยาบาลฉุกเฉินนี้ ผู้ป่วยสามารถเข้ารักษาที่โรงพยาบาลรัฐ หรือ เอกชน ทุกแห่ง
โดยไม่มีการถามสิทธิ์ก่อนการรักษา และ ไม่ต้องสำรองเงินค่ารักษาออกไปก่อน โดยทางโรงพยาบาล
จะรักษาผู้ป่วยให้ใน 72 ชั่วโมงแรก
สิทธินี้ ใช้กับผู้ป่วยฉุกเฉินขั้นใด ?
ระบบนี้ จะใช้กับผู้ป่วยที่เรียกว่า "วิกฤติระดับสีแดง" กล่าวคือผู้ที่มีภาวะดังต่อไปนี้ครับ
- หัวใจหยุดเต้น" (Cardiac arrest)
- ภาวะหยุดหายใจ
- ภาวะ ช็อก จากการเสียเลือดรุนแรง
- ชักตลอดเวลา หรือ ชักจนตัวเขียว
- อาการซึม หมดสติ ไม่รู้สึกตัว
- อาการเจ็บหน้าอกรุนแรงจากหลอดเลือดหัวใจตีบตัน
- อาการทางสมองจากหลอดเลือดสมองตีบตันเฉียบพลันมีความจำเป็นต้องได้รับยาละลายลิ่มเลือด
- การบาดเจ็บที่มีเลือดออกมากอย่างรวดเร็วและตลอดเวลา
ปัจจุบันนี้ ได้มีการพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินนี้ให้ผู้ป่วยเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว และตอบสนองต่อยุคปัจจุบัน
โดยทาง สพฉ. ได้พัฒนา Application ชื่อว่า ThaiEMS1669 (ทั้ง Android และ iOS)
โดยตัว App. สามารถแจ้งเหตุผ่าน 1669 และมีการส่งข้อมูล ชื่อ-สกุล หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล เพศ
ปีเกิด และ/หรือ ข้อมูลส่วนตัวเช่น โรคประจำตัว การแพ้ยา โดยจะระบุพิกัดที่เกิดเหตุ (latitude, longitude)
และส่งภาพถ่ายสถานที่เกิดเหตุได้ด้วย นอกจากนั้นตัว app. จะมีคำแนะนำในการปฏิบัติตัวเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
อาทิ แนวทางการช่วยเหลือผู้ป่วยบาดเจ็บที่ศีรษะ ได้รับสารเคมี ภาวะเลือดออก หมดสติกะทันหัน หัวใจวาย
แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก โรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น รวมทั้งยังมีรายชื่อโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุด้วยครับ
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgaG28DWvQHBLbbctm2aggvpIl6vsUllAKnwuAyg9f_VZf9Wx4hFCwndfYAah3guDdXnkZDTVCXTPh1zwp66faShG7fbvthBKOwaXoghyY9Nqrskm7hXdlzyGt-2AJ6K9WlspUS_w/s400/olij7gmv3VCTRL056f0-o.jpg)
ถึงแม้ว่าโครงการนี้จะมีมานานแล้ว แต่ก็มีความสำคัญยิ่งกับกรณีฉุกเฉินครับ
บางท่านก็อาจไม่ทราบว่ามีการพัฒนาเป็น App. สำหรับ Andriod - iOS แล้ว
ก็ download มาติดเครื่องใว้ จะมีประโยชน์ครับ
สวัสดีครับ
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgSt8uDiVe8iDBRpYPyamVafF2nkxh-lBXqdzZxCFSL9OewDNteA0QpsWLVoWxW0EBVSU-GkiwfKekSwLjlowYF805pE7eqg6GVWV4UR8aHWWkOLVCBIWYdD4chetvrM_C_7-lnCg/s1600/smiley17.png)
ooo
เจ็บป่วยฉุกเฉินต้องโทรสายด่วร1669 มีระบบประเมินอาการผู้ป่วย
ที่มา คมชัดลึก
สพฉ.ย้ำเจ็บป่วยฉุกเฉินโทรสายด่วน 1669 มีระบบรองรับช่วยประเมินอาการผู้ป่วย-จัดรถพยาบาลที่เหมาะสม แนะประชาชนหมั่นเช็คสิทธิการรักษาพยาบาลของตนเองอย่างสม่ำเสมอ
ล่าสุด นพ.ภูมินทร์ ศิลาพันธ์ รองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ(สพฉ.)กล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ในโลกออนไลน์เรื่องโรงพยาบาลเอกชนเรียกเก็บเงินค่ารักษาพยาบาลกับผู้ป่วยฉุกเฉินด้วยจำนวนเงินที่มากจนต้องถอดทองจำนำไว้ที่โรงพยาบาลว่า เท่าที่ตนติดตามข่าวทราบว่าผู้ป่วยรายดังกล่าวมีสิทธิรักษาพยาบาลในกองทุนประกันสังคม หากเป็นกรณีที่เกิดขึ้นในลักษณะนี้ เมื่อนำผู้ป่วยส่งไปรักษายังโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้แต่ไม่ใช่โรงพยาบาลในสิทธิกองทุนที่ผู้ป่วยเป็นสมาชิกอยู่ หากผู้ป่วยไม่รู้สติญาติสามารถแจ้งเรื่องไปยังโรงพยาบาลที่ผู้ป่วยขึ้นทะเบียนตามสิทธิแต่ละกองทุนเพื่อให้โรงพยาบาลเจ้าของสิทธิส่งรถพยาบาลมารับไปทำการรักษายังโรงพยาบาลที่ผู้ป่วยมีสิทธิได้ โดยในส่วนของค่าใช้จ่ายและกระบวนการต่างๆ ในการส่งตัวโรงพยาบาลที่เราขึ้นทะเบียนสิทธิไว้จะเข้ามาดูแลและอำนวยความสะดวกให้
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjWqheSIUSx2Ol1B0xQDKXGdhjYvn44JvEOB4zvgY66H8M161LIiegi-okQXI5DEVPpKsYfPd42nkqYh0V0V81qpnkRJGV6r7Rc5b13EXIDrHL5d6oA4VgT1WUKJXxGecBVZ0kZ7g/s320/55j7jdkgb5ig85dcdd79k.jpg)
"จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอแนะนำประชาชนว่าหากพบเห็นผู้ป่วยฉุกเฉินทุกกรณีให้โทรสายด่วน1669เพราะในระบบสายด่วน1669จะช่วยประเมินอาการเจ็บป่วยฉุกเฉินของผู้ป่วยและจัดรถพยาบาลที่เหมาะสมกับอาการเจ็บป่วยของผู้ป่วยฉุกเฉินเพื่อรีบนำส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด เครื่องมือพร้อมที่สุดให้ทำการรักษาอย่างทันท่วงทีได้ ฉะนั้น หากประชาชนท่านใดเจ็บป่วยฉุกเฉินหรือพบผู้ป่วยฉุกเฉินควรรีบโทรแจ้งสายด่วน1669"นพ.ภูมินทร์กล่าว
นพ.ภูมินทร์ กล่าวอีกว่า ในส่วนแนวทางในการดำเนินงานตามนโนบาย“เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่”หรือucep ที่จะให้ประชาชนที่เจ็บป่วยฉุกเฉืนวิกฤติสามารถเขารับการรักษาพยาบาลในรพ.ได้ทุกแห่งนั้น สพฉ.กำลังเร่งจัดทำตารางราคาและอัตราจ่าย (Fee Schedule)เพื่อเป็นราคาการบริการการแพทย์ฉุกเฉินที่โรงพยาบาลจะเรียกเก็บจากกองทุนสุขภาพ และวางระบบการดำเนินการเพื่อให้ทันใช้ก่อนสงกรานต์
ทั้งนี้ ประชาชนทุกคนในประเทศไทยมีสิทธิในการรักษาฟรีจาก 3กองทุนดังนี้1.กองทุนสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ กรมบัญชีกลาง2.กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือที่เราเรียกว่าบัตรทอง และ3.กองทุนประกันสังคม สำนักงานประกันสังคมซึ่งประชาชนทุกคนจะต้องเข้าสู่ระบบทั้ง3กองทุนนี้ตามหน้าที่การงานของตนเอง และสำหรับประชาชนที่ประกอบอาชีพอิสระก็ต้องอย่าลืมไปขึ้นทะเบียนบัตรทองเพื่อให้มีสิทธิในการรักษาพยาบาลไว้ด้วย ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินและเรามีสิทธิตามรายละเอียดของ3กองทุนนี้ระบบของ3กองทุนจะทำงานทันที ซึ่งเราจะต้องหมั่นศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิของตนเองไว้ด้วย