วันอังคาร, กุมภาพันธ์ 28, 2560

พวกหน้าด้านหน้าทน ข่มเหงคนด้วยกฎหมายที่ตนเขียนเอง





‘หน้าด้านและดึงดัน’ นั่นคืออัปลักษณะของพวกนักการเมืองตั้งตนเองและลากตั้งคณะนี้ ทั้ง คสช.และลิ่วล้อในหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและอนุมัติกฎหมายทั้งหลาย

ด้านกว่าผังผืดเห็นจะเป็น สนช. โดยเฉพาะตัวหัวหน้าที่ถูกอดีตประธานรัฐสภา ผู้ใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ตบหน้าทางจริยธรรมฉาดใหญ่ “ถ้าผมเป็นประธาน สนช.ตอนนี้ ก็จะขอลาออก”

นายพิชัย รัตตกุล พูดถึง “ปมปล่อย ๗ สนช.โดดร่ม ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา ๙ (๕) ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว ๒๕๕๗ ที่ คสช. เขียนเองกับมือนั่นละ

“ผู้ทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติออกกฎหมายไปบังคับใช้ในสังคม ต้องมีความรับผิดชอบ ยึดหลักการทำหน้าที่ตามกฎหมายสูงสุดคือรัฐธรรมนูญเป็นหลัก ดีกว่าอยู่ทำหน้าที่ต่อไปภายใต้อาณัติของผู้มีอำนาจ แต่ไร้ศักดิ์ศรี”

(http://www.matichon.co.th/news/477944)

แล้วยังโดนนายวีระ สมความคิด เสียบให้อีกดอก “ตามข้อบังคับการประชุมสภา สนช. พ.ศ. ๒๕๕๗ ข้อ ๘๒” กำหนดว่า

“สมาชิกที่ไม่แสดงตนเพื่อลงมติในที่ประชุมสภาเกินกว่า ๑ ใน ๓ ของจำนวนครั้งที่มีการแสดงตนเพื่อลงมติทั้งหมด ในรอบระยะเวลา ๙๐ วัน ให้สมาชิกภาพสิ้นสุดลง” อันนี้เขาเจาะจงที่ “พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา
และ สนช.ที่โดดร่มอีก ๖ คน” โดยตรง

ซ้ำยังอ้างต่างประเทศ “เรื่องอื้อฉาวในทางเลวเช่นนี้ ถ้าเป็นต่างชาติ เช่นญี่ปุ่น เกาหลี นักการเมืองหรือข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ถูกเปิดโปงเรื่องชั่วเรื่องเลว เขาจะไม่ดาหน้ากันออกมาช่วยคนทำผิดเหมือนของไทย”

นายวีระเพิ่มทางเลือกให้ ไม่เพียงแต่ลาออก ถามว่าจะมีผู้ใดไปผูกคอตายบ้าง หรือถ้าเลือกอยุ่ต่อไปไม่สะทกสะท้านใดๆ เขาเรียก “ไอ้พวกหน้าด้านหน้าทน”

(https://www.facebook.com/Veera-Somkwamkid-181257625305431/)

และที่น่าจะเรียกว่า ‘ด้าน’ เหมือนกันก็ดีเอสไอและ คสช. ในกรณีปิดล้อมวัดธรรมกาย อดข้าวอดน้ำ อดไข่ อดสัญญานวายฟาย นี่ละ ทั่วโลกเขาเรียกร้อง เขาประณาม ก็ยังหน้าทนกันอยู่ได้





วานนี้ (๒๗ ก.พ.) “องค์กรผู้นำพุทธโลก ร่วมกับผู้นำชาวพุทธเกาหลีใต้ ยื่นหนังสือจากการประชุมผู้นำองค์กรพุทธ ๑๐ ประเทศ ณ เมืองพูซาน เกาหลีใต้ ในฐานะผู้แทนของผู้นำองค์กรพุทธทั้ง ๔๐ ประเทศ...

ให้รัฐบาลไทยยกเลิกกฎหมายเผด็จการ ม.๔๔, เลิกทำทารุณกรรมด้วยการปิดล้อมทางเข้าทางออกวัดพระธรรมกาย”

(http://www.matichon.co.th/news/478956)

วันนี้ “ชาวพุทธที่ประเทศแอฟริกาใต้ซึ่งเดินทางไปยื่นหนังสือคัดค้านการใช้มาตรา ๔๔ (ที่เป็นกฎหมายที่ไม่ชอบธรรม) ณ ที่ทำการองค์การสหประชาชาติ กรุงพริทอเรีย”

(http://www.matichon.co.th/news/479161)




กับ “มีการแชร์ภาพที่ระบุว่าเป็นกลุ่มชาวพุทธในเบงกอล ประเทศอินเดีย กำลังถือป้ายมีข้อความภาษาอังกฤษ สื่อความหมายถึงการยืนเคียงข้างวัดพระธรรมกาย ขอให้ธำรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา และยุติการใช้ความรุนแรง”

(http://www.matichon.co.th/news/479128)





ทาง (ด้าน) ดีเอสไอบอกว่าจะลุยค้นอีกวัน แล้วถ้ายังไม่เจอพระธัมมชโยก็อาจจะเจรจา แต่ก่อนจะลงมือทำอย่างนั้นกลับตั้งด่านไล่ตรวจพระ-เณร องค์ไหนไม่มีใบสุทธิเป็นโดนจับยัดคดีอาญาหมด (#PPTVHD36)

อ้อแล้วก็ปฏิเสธเป็นวรรคเป็นเวรว่าไม่ได้ปิดกั้นห้ามนำอาหารเข้าไปเลี้ยงพระเณรในวัดนะ (แต่ที่จริงกว่าจะเข้าได้ ยากฉิ.หา. ต้องขออนุญาตมีพิธีกรรมมากมาย)

ส่วนที่ปฏิเสธไม่ออกตรงที่พระถามว่าเข้าไปค้นแล้วฉกเอาไข่หลายพันฟอง เอาน้ำมันหลายคันรถ ของวัดไปตรวจแล้วหายต๋อม พระขอคืนไม่เห็นตอบ

เหี้ยมอย่างนี้ที่เขาเรียก ‘rule by law’ ข่มเหงด้วยกฎหมายที่ตนเองเขียน




เสร็จแล้วโฆษก คสช. ทับโบก ยังมีหน้ามาถามส่อเสียดเสียอีกว่า “วันข้างหน้าถ้าไม่มี ม.๔๔ ไม่มี คสช.เราจะอยู่กันอย่างไรและอนาคตจะเป็นอย่างไร”

(http://prachatai.com/journal/2017/02/70299)

เห็นมีคนตอบไปแล้วหลายราย แต่ทางนี้ขอบอกว่านั่นละที่เราต้องการ วันพรุ่งนี้เลยเป็นไร ดูสิว่าไพร่ฟ้าจะหน้าชื่นอกตูมแค่ไหน

แต่ก็เห็นท่าจะเป็นไปได้ยากอีกละ ในเมื่อเจ้านายของทั่นโฆษกนั่นเองแย้มพรายแล้วว่า “ถ้ามีอะไรมาขัดขวาง โรดแม็ป มันก็ขยับ ทำไม่เสร็จ เข้าใจแค่นี้พอ ไม่ต้องเรื่องมาก”

(https://www.khaosod.co.th/politics/news_235724)

ทั่นหัวหน้า คสช. อยากให้ “ทุกคนสงบสติอารมณ์...อย่าไปสนใจ มากนัก ให้เจ้าหน้าที่เขาทำงานเท่านั้นเอง”

เออ.