วันพฤหัสบดี, กุมภาพันธ์ 09, 2560

อย่างฮา ยุคนี้ สมาชิก "1 ล้านบาทรักษาทุกโรค" ยังถูกลอยแพ.... เฒ่ามีชัยก็เป็นสมาชิก อ่านข่าว BDMS ลอยแพ "มีชัย"-สมาชิกไลฟ์พริวิเลจ วอนก.ล.ต.ให้ช่วยเหลือและตรวจสอบการยกเลิกโครงการดังกล่าวสอบ





BDMS ลอยแพ "มีชัย"-สมาชิกไลฟ์พริวิเลจ วอนก.ล.ต.สอบหวั่นตุกติกทางบัญชี


2017-02-08
ที่มา ข่าวหุ้นธุรกิจ

สมาชิกไลฟ์พริวิเลจคลับ ร้องถูก BDMS ลอยแพ วอนก.ล.ต.ช่วยตรวจสอบ หวั่นมีสับขาหลอกทางบัญชี ล่าสุด พบชื่อ "มีชัย ฤชุพันธ์" เป็น 1 ในสมาชิกโครงการด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิกโครงการไลฟ์พริวิเลจคลับ (Life Privilege Club) ซึ่งจัดตั้งโดยบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ได้เดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้ช่วยเหลือและตรวจสอบการยกเลิกโครงการดังกล่าวของ BDMS ว่าก่อให้เกิดความสำคัญผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับฐานะการเงินของบริษัทหรือไม่

โดยเมื่อวันที่ 28 พ.ย.59 มีหนังสือแจ้งมายังสมาชิกเรื่องการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขค่ารักษาพยาบาลมาจากเดิม 100 บาทต่อครั้งเป็น 25% หากสมาชิกไม่ตกลงบริษัทจะคืนเงินให้พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 โดยบริษัทได้อ้างว่า หากไม่ทำเช่นนี้โครงการจะอยู่ไม่ได้เนื่องจากจะต้องสำรองค่าใช้จ่ายตามาตรฐานการบัญชีเกี่ยวกับสัญญาประกันภัย

ทั้งนี้สมาชิกจำนวนมากได้คัดค้านว่า หากข้ออ้างที่ต้องตั้งสำรองแล้วจะทำให้โครงการอยู่ไม่ได้นั้นไม่เป็นความจริงจะเท่ากับว่าบริษัทหลอกลวงให้สมาชิกถอนสิทธิได้ จึงทำให้หนังสือแจ้งฉบับนี้ยุติลง

ต่อมาเมื่อวันที่ 20 ม.ค.60 บริษัทได้มีหนังสือแจ้งมายังสมาชิกอีกครั้งว่า ที่ปรึกษากฎหมายมีความเห็นว่า ข้อตกลงที่บริษัททำไว้กับสมาชิกเข้าลักษณะเป็นสัญญาประกันภัย หากทำต่อไปจะถือว่ามีเจตนากระทำผิดกฎหมาย จึงแจ้งยุติโครงการตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.60 และจะคืนเงินพร้อมเงินชดเชยร้อยละ 10 ต่อปี โดยให้ส่วนลดตลอดชีพในอัตราร้อยละ 50 แต่อยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ที่บริษัทกำหนดไว้

ทั้งนี้ มีรายงานว่าหนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการดังกล่าว ปรากฏชื่อของ นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. เป็นสมาชิกโครงการ Life Privilege Club ด้วย

อนึ่ง โครงการไลฟ์พริวิเลจคลับ จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2544 โดยได้ระดมทุนจากสมาชิกที่ต้องชำระเงินมูลค่าเท่ากับทองคำ 100% น้ำหนัก 200 บาท เพื่อมีสิทธิใช้บริการรักษาพยาบาลไม่จำกัดจำนวนครั้งตลอดชีวิต โดยเสียค่าใช้จ่ายในอัตราสมาชิก 100 บาทต่อครั้ง พร้อมทั้งสิทธิพิเศษอื่นๆ เฉพาะผู้มีอายุ 40 ปี ขึ้นไปที่ได้รับเชิญและผ่านการตรวจสุขภาพ โดยมีการรับเป็นสมาชิกไว้ทั้งหมด 284 คน

“เมื่อปี 2544 ประเทศเรายังอยู่ในช่วงหลังวิกฤตต้มยำกุ้งใหม่ๆ โรงพยาบาลกรุงเทพ ไม่สามรถกู้เงินในระบบจากธนาคารได้ จึงมาขอให้พวกเราสมัครเป็นสมาชิกในโครงการนี้ โดยสัญญาว่าจะดูแลสุขภาพพวกเราตลอดชีวิต แลกกับทองคำมูลค่า 200 บาท ณ ขณะนั้น

ซึ่งสมาชิกทุกคนล้วนเป็นลูกค้าที่จงรักภักดีกับโรงพยาบาลมานับสิบๆปี ต่างยอมรับความเสี่ยงเพราะเชื่อในสัญญาที่ผู้บริหารของโรงพยาบาลให้ไว้กับสมาชิกด้วยมูลค่าทอง 200 บาท (ที่จ่ายเป็นเงิน) ที่เราจ่ายค่าสมาชิกในโครงการนี้ให้กับโรงพยาบาลกรุงเทพในวันนั้น โรงพยาบาลจึงสามารถเติบโตแข็งแรงมาจนถึงทุกวันนี้ มีเงินมากมายเพียงพอที่จะไปซื้อกิจการโรงพยาบาลต่างๆ เกือบทั่วทั้งประเทศ

และยังซื้อกิจการโรงแรมหรูอีกเป็นมูลค่านับหมื่นล้านบาท จนผู้ถือหุ้นใหญ่กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับต้นๆของประเทศ แต่กลับไปรักษาสัญญากับลูกค้าที่มีบุญคุณ ที่ช่วยให้โรงพยาบาลกรุงเทพมีวันนี้ได้ เราไม่ได้ฝากเงินกับโรงพยาบาลกรุงเทพ แต่เราฝากทั้งชีวิตของเราไว้กับโรงพยาบาล เราไม่ได้มาเรียกร้องอะไรไปมากกว่าการรักษาสัญญาที่โรงพยาบาลให้ไว้เมื่อ 15 ปีก่อน วันนั้นสุขภาพของโรงพยาบาลอ่อนแอ มาขอความช่วยเหลือจากเรา เรายอมเสี่ยงทรัพย์สินที่เราเก็บออมมาทั้งชีวิตเพื่อแลกกับสัญญาที่ท่านจะดูแลสุขภาพเราตลอดชีวิต เพราะเราไม่ต้องการเป็นภาระกับลูกหลานของเราในยามที่เจ็บป่วยตอนแก่

แต่วันนี้โรงพยาบาลกรุงเทพมีสุขภาพแข็งแรง กำไรปีละเกือบหมื่นล้าน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ตั้งโรงพยาบาลมา พวกเราที่เคยมีบุญคุณกับท่านกำลังอ่อนแอเพราะสุขภาพที่ททรุดโทรมตามกาลเวลา เราแค่มาขอให้ท่านช่วยรักษาสุขภาพเราตามที่ท่านสัญญาไว้เท่านั้น” ตัวแทนสมาชิกผู้ได้รับผลกระทบกล่าว