วันอาทิตย์, กุมภาพันธ์ 12, 2560

"สามปีแห่งหายนะ"





"สามปีแห่งหายนะ"

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2544 พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ชนะเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ก่อนหน้านั้นประเทศไทยเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ "ต้มยำกุ้ง" จนต้องลดค่าเงินบาทและต้องกู้เงินจำนวน 14,500 ล้านเหรียญสหรัฐจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) แต่เบิกใช้จริง 12,296 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทย 510,000 ล้านบาท รัฐบาลก่อนได้คืนหนี้ไป 10,000 ล้านบาทหรือ 2% ของหนี้ทั้งหมด จึงเหลือภาระหนี้อีก 500,000 ล้านบาท ที่ถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลต่อไปจะต้องรับผิดชอบแม้จะไม่ได้เป็นผู้ก่อหนี้ เพราะรัฐบาลใหม่มีหน้าที่ต้องแบกรับและแก้ไขปัญหาที่ตกทอดมาจากรัฐบาลเก่า นายกทักษิณก็ไม่เคยโทษหรือตำหนิใครเช่นกัน

ความสามารถของรัฐบาลวัดจากประสิทธิภาพในการบริหาร เพราะทุกรัฐบาลล้วนมีข้อจำกัดในเรื่องงบประมาณด้วยกันทั้งสิ้น ระยะแรกรัฐบาลต้องดำเนินนโยบายการคลังแบบขาดดุลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากวิกฤตทำให้รายได้ประชาชาติถดถอย งบประมาณจึงถูกนำมาใช้เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับประชาชนมากกว่าสร้างความเข้มแข็งให้รัฐบาล ด้วยการบริหารที่มีประสิทธิภาพภายใต้แนวคิด "ลดรายจ่าย สร้างรายได้ และขยายโอกาส" ทำให้เศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น เดือนกรกฎาคม 2546 รัฐบาลจึงได้คืนหนี้ที่เหลือ 500,000 ล้านบาท หรือ 98% ให้กับไอเอ็มเอฟก่อนกำหนด จากนั้นในปี 2548 รัฐบาลได้จัดทำงบประมาณแบบสมดุลเป็นครั้งแรกหลังจากวิกฤตเศรษฐกิจ

ต่อมาเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 คสช. ยึดอำนาจรัฐเข้าบริหารประเทศ มีอำนาจเบ็ดเสร็จและไม่มีฝ่ายค้าน จัดทำงบประมาณแบบขาดดุลตั้งแต่แรก จนกระทั่งปี 2560 ต้องกู้เงินเพื่อการขาดดุลสูงถึง 5.5 แสนล้านบาท ใช้เงินคงคลังจาก 500,000 ล้านบาทเหลือเพียง 75,000 ล้านบาท ผลที่ออกมาคือเศรษฐกิจแย่ประชาชนทุกข์ยาก แต่รัฐบาลยังคงให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้มแข็งให้ตัวเองมากกว่าความอยู่ดีของประชาชน เช่น ละเมิดสิทธิมนุษยชน อนุมัติวันเวลาทวีคูณและสองขั้นให้พรรคพวก หรือจัดซื้อเรือดำนำ้ในขณะที่ประชาชนทุกข์ยากเพราะพิษเศรษฐกิจ แต่ตัดงบประมาณเพื่อคนยากจน เช่น บัตรทองค่ารักษาพยาบาล หรือค่าหนังสือเรียนเด็ก สุดท้ายเลือกขึ้นภาษีผลักภาระให้ประชาชน วันมาฆบูชาทำบุญแล้วอย่าลืมช่วยกันภาวนาให้เรามีรัฐบาลที่มาจากประชาชนโดยเร็วก่อนที่ประเทศจะล้มละลายเพราะคนพวกนี้

วัฒนา เมืองสุข
พรรคเพื่อไทย
12 กุมภาพันธ์ 2560

ที่มา FB

Watana Muangsook

ooo



https://www.facebook.com/OnMeFC/photos/a.1580661622163942.1073741828.1580655492164555/1886969311533170/?type=3&theater


อดีตแม่ยก พธม. โอด!! ทำมาหากินลำบาก ถ้าย้อนเวลาได้อยากเอาเงินที่เคยบริจาคมาใช้ตอนนี้ดีกว่า เผย!! ถ้าเจอ "ทักษิณ" ตัวจริงอยากขอโทษเขา

ผู้สื่อข่าวรายการว่า จากการสอบถามไปยังประชาชนผู้ที่เคยออกไปร่วมชุมนุมกับกลุ่ม พันธมิตรฯ บังเอิญไปเจอแม่ยกแถวหน้าบริจาคเงินทุกวัน นอนที่ม็อบ เป็นเจ้าภาพนำซุ้มอาหารไปลงตั้งแต่สมัยแรก ๆ ตอนนั้นทักษิณยังไม่ออกไปนอกประเทศ เงินในกระเป๋าตุงมากจับจ่ายใช้สอยคล่องมือ ลองคิดดูบริจาคได้วันละเป็นหมื่น ๆ รวมหลายวันที่บริจาคไปน่าจะเป็นเงินล้าน ถึงตอนนี้นั่งทบทวนความจำ เราไล่ทักษิณไป ทักษิณเขาก็ออกไปจากแผ่นดินไทยนานนับสิบปีแล้วแทนที่ประเทศไทยเราจะดีขึ้นกลับแย่ลงไปมากกว่าเดิมทุกวัน มานั่งย้อนคิดเสียดายเงินที่เคยบริจาคให้ พธม.ถ้าเก็บเงินไว้ใช้ตอนนี้คงไม่ลำบาก ถ้าเจอทักษิณตัวจริงอยากขอโทษเขาที่เราเข้าใจเขาผิดคิดว่าเขาเป็นคนไม่ดีตอนนั้นเราก็ตามกระแสใครพูดอะไรเราก็เชื่อแต่เมื่อเวลาผ่านไป เวลามันเป็นเครื่องพิสูจน์จริง ๆ ว่าใครดีใครเลว

ที่มา