BY SARA BAD ON AUGUST 4, 2016
ISPACE Thailand
หลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์ซะยับเยิน กับแนวคิด “เห็บสยามโมเดล” ล่าสุดทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ต่างออกมาระบุตรงกันว่า แนวคิดเศรษฐกิจแบบ “เห็บสยามโมเดล” นั้นไม่ใช่แนวทางเศรษฐกิจของไทย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีระบุถึงแนวคิด “เห็บสยามโมเดล” ของนายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลังว่า ตนก็คิดว่าพูดเกินไปหน่อย ได้สั่งการให้ยกเลิกไปแล้ว มันใช้ไม่ได้ทั้งหมดเราต้องยึดหลักประชาชนเป็นศูนย์กลาง ทุกคนควรภาคภูมิใจในการเดินหน้าไปพร้อมกัน จากนี้ไปจะไม่มีใครเป็นพี่เป็นน้อง แต่จะใช้คำว่าเป็นญาติกันดีกว่า
ด้านนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ก็ออกมากล่าวยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่ “เห็บ” แต่เป็นเสือที่พร้อมตะปบเหยื่อ หรือเปรียบเสมือนเป็นเสือซุ่ม โดยในยามเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ไทยต้องสร้างความเข้มแข็งจากภายในเพื่อให้พร้อมรับการลงทุนในอนาคต และทะยานสู่เวทีโลกเมื่อมีความพร้อมเต็มที่ ขณะนี้จึงขอลับเขี้ยวเล็บให้คม ก่อนออกไปสยายปีกในเวทีโลก
ในขณะที่สถานการณ์เศรษฐกิจของไทยในปัจจุบัน กลับมีรายงานอย่างต่อเนื่องถึงการชะลอตัว โดยเฉพาะภาคการลงทุน และการส่งออก
โดย น.ส.พรเพ็ญ สดศรีชัย ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจมหภาค ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การส่งออกไตรมาสนี้ติดลบต่อเนื่องที่ 3.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และจากไตรมาสแรกที่ติดลบ 1.4% ทั้งนี้ เป็นการติดลบเป็นการหดตัวต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 6 นับตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ปี 2557 ที่ขยายตัว 1.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปี 2556 ทำให้การส่งออกครึ่งปีแรก 2559 ติดลบ 2.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และมีมูลค่าการส่งออกช่วงครึ่งปีแรกไม่รวมทองคำ ติดลบถึง 5.5% ทั้งนี้คาดการณ์ว่าภาคการส่งออกตลอดปี 2559 จะติดลบที่ 2.5%
ด้านสำนักวิจัยทิสโก้ ระบุว่าข้อมูลกระแสเงินสดในมือของบริษัทจดทะเบียน ทั้งในตลาดหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ณ วันที่ 31 มีนาคม 2559 (ไม่รวมบริษัทที่ประกอบธุรกิจสถาบันการเงิน) มีมูลค่าเงินสดในมือ (Cash On Hand) สะสมสูงถึง 928,303 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ถึง 128,000 ล้านบาท ในเวลาเพียง 2 ปี
ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเอกชนไทยไม่ยอมลงทุน แม้ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นการลงทุน เพื่อคาดหวังให้ในปี 2559 นี้เป็นปีแห่งการลงทุนก็ตาม
ในขณะที่ข้อมูลการว่างงานในเดือนกรกฎาคม 2559 จากสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่าอัตราการว่างงานของประชาชนไทยมีจำนวนประมาณ 391,000 คน โดยสัดส่วนผู้ว่างงานมากที่สุดคือ ผู้สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษา มีจำนวนมากถึง 196,000 คน ซึ่งถือว่าเป็นระดับการว่างงานที่คงที่มาเป็นเวลาหลายเดือน แสดงให้เห็นถึงภาวะประชาชนไร้รายได้ที่มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
คำถามก็คือภายใต้ภาวะเศรษฐกิจไทยที่กำลังชะลอตัวเกือบทุกภาคส่วนเช่นนี้ สมควรเรียกว่าเป็น “เสือซุ่ม” ที่รอตะปบเหยื่อ หรือ “หมาหงอย” กันแน่???
Reference
http://www.matichon.co.th/news/229567
http://www.matichon.co.th/news/236193
http://news.voicetv.co.th/business/396405.html
http://service.nso.go.th/nso/nsopublish/themes/files/lfs59/reportJuly.pdf