https://www.facebook.com/Windingideas/videos/309450929411055/
https://www.facebook.com/Windingideas/videos/309850126037802/
https://www.facebook.com/Windingideas/videos/310399999316148/
ooo
ได้คืบจะเอา 10 ศอก
ตอนนี้กระแสการเมืองที่มาแรงแซงโค้งที่สุดก็หนีไม่พ้นเรื่อง สนช. ให้ ส.ว. มีสิทธิ์เสนอชื่อนายกได้ แม้คำถามพ่วงจะไม่ได้ระบุเอาไว้แต่ก็มีการตีความประชามติเอาเสียดื้อๆว่าน่าจะทำได้ เล่นเอาบรรดาสื่อมวลชน นักวิชาการ นักกฎหมาย นักการเมืองส่ายหน้ากันไปตามๆกัน โดย สนช. อ้างที่ต้องทำแบบนี้เพราะกลัวประเทศไทยจะติดเด็ธล็อคจากการที่หลังการเลือกตั้ง ส.ส. จะเลือกนายกรัฐมนตรีไม่ได้ ส.ว.จึงจำเป็นจะต้องเข้ามาช่วยหาทางออก
ทั้งๆที่ก่อนหน้าการลงประชามติตอนที่ สนช.เสนอคำถามพ่วง ทำไมไม่ระบุไปตั้งแต่ต้นให้แน่ชัดว่าต้องการถามประชาชนเรื่องอะไร ไม่ใช่เลือกการถามกว้างๆเอาไว้ก่อน พอผลประชามติออกมาผ่าน ค่อยกลับตีมาความเกินตัวอักษรที่เขียนในบัตร เรียกว่าได้คำถามพ่วงแล้วยังลากเอานัยทางกฎหมายมาตีความต่อไปอีก อย่างนี้รึเปล่าที่โบราณเขาว่าได้คืบจะเอาศอก (แบบนี้สงสัยจะเอาสักสิบศอก)
อันที่จริงการตีความประชามติและเหมารวมว่าสิ่งที่ประชาชนโหวตคือสิ่งที่ตนคิดไม่ได้มีแต่ สนช.บางกลุ่มเพราะก่อนหน้านี้ ไพบูลย์ นิติตะวัน ก็เคยออกมาตีกินว่าประชาชนอยากให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามาเป็นนายกคนนอกมาแล้ว ซึ่งก็ช่างบังเอิญไปสอดคล้องกับแนวคิดของ สนช.ที่ตามออกมาทีหลังว่า ประเทศไทยหลังการเลือกตั้งจะมีปัญหาตั้งนายกรัฐมนตรีไม่ได้จนต้องพึ่งพานายกคนนอก จนเกิดคำถามขึ้นมาว่า มันบังเอิญหรือตั้งธงไว้แล้วกันแน่
อย่างไรก็ตามฝั่งประชาธิปไตย อย่างจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ได้ออกมากล่าวถึงแนวทางป้องกันนายกคนนอกของพวกได้คืบจะศอกอย่างรู้ทันว่า
“ประชาชนอย่าได้หลงเหลี่ยมกับการถกเถียงกันของ ส.ว. และอย่าไปใส่ใจกับใครจะเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีก่อนหรือหลังกัน ขอให้กลัวแต่เพียงว่า พรรคการเมืองจะเล่นละครการเมืองหลังเลือกตั้งหรือไม่ เพราะถ้าพรรคการเมืองบีบน้ำตา แล้วอ้างเหตุจำยอมสนับสนุนนายกรัฐมนตรีคนนอก โดยแอบไปจับมือร่วมกันฟอร์มรัฐบาลเสียก่อน ดังนั้น ถ้าพรรคการเมืองประกาศจุดยืนและให้สัญญาประชาคมกับประชาชนว่า ไม่สนับสนุนนายกรัฐมนตรีคนนอกเท่านั้น จึงจะแก้ปัญหาได้”
https://www.facebook.com/100005642058295/videos/521359444728786/