วันพฤหัสบดี, กรกฎาคม 14, 2559

เพราะเป็นคนดีเลยทำได้??? พุทธอิสระแจงซื้อที่ดินป่าสงวน 300 ไร่ไว้ปลูกป่า ย้อนถามคนแพร่ข่าวคนไทยหรือเปล่า!!!





BY SARA BAD
JULY 13, 2016

ISpace Thailand


จากที่มีการเผยแพร่ภาพของ พุทธะอิสระ อดีตแกนนำ กปปส.เวทีแจ้งวัฒนะ และเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ในพื้นที่ป่าสงวนฯ ที่บ้านใหม่วังผาปูน ต.แม่วิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ โดยมีการระบุว่าเป็นที่ดินที่พระพุทธะอิสระถือครอง ในโลกออนไลน์ ก็ได้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความถูกต้องเหมาะสม รวมถึงประเด็นปัญหาเรื่องกฎหมายตามมา





ล่าสุด พุทธะอิสระ ได้ออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าวผ่านรายการเจาะลึกทั่วไป ทางช่องสปริงนิวส์ ว่าตนเองอยากให้อยากให้ภาคเหนือมีป่า เพื่อภาคกลางจะได้มีน้ำใช้ตลอดปี จึงได้ปรารภกับ “มูลนิธิธัมมะพุทธะอิสระ” ทางบริษัทพฤษเวช ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยาสมุนไพร ยาสีฟัน และยารักษาโรคให้กับวัดอ้อน้อย จึงร่วมกับมูลนิธิ โดยในภาพเป็นการไปเจรจาขอคืนพื้นที่โดยจ่ายเงินให้แล้วนำมาปลูกป่าให้รัฐบาลและแผ่นดิน มีทหาร กรมป่าไม้ ครู และนักเรียนมาช่วยเอากล้าไม้ต้นไม้ขึ้นไปปลูก ทั้งนี้ พุทธะอิสระยังได้ถามถึงคนที่นำภาพไปเผยแพร่จึงต้องถามว่าเป็นคนไทยหรือเปล่า เพราะตนกำลังทำความดีให้กับแผ่นดิน





นอกจากนี้ พุทธอิสระยังกล่าวว่ามูลนิธิธัมมะพุทธะอิสระเป็นของวัดอ้อน้อย ไม่เกี่ยวกับตน ร่วมกับบริษัทพฤษเวช ที่มีกรรมการมูลนิธิเป็นผู้จดทะเบียน โดยเงินที่ได้มาถูกดูแลโดยมูลนิธิ ซึ่งการนำเงินไปซื้อที่ดินป่าสงวนฯที่ถูกบุกรุกโดยชาวบ้านดังกล่าวนั้น ซึ่งบุกรุกไปเยอะมาก มูลนิธิไม่มีเงินมากพอ จึงขอคืนเฉพาะต้นน้ำ ซึ่งคนที่ครอบครองไม่ใช่คนยากจน แต่กลับเป็นครู ข้าราชการ มีคนยากจนจริงๆ ไม่กี่ราย และที่ดินที่รับซื้อไม่ใช่ 3,000 ไร่ เพียงแค่ 300 ไร่เท่านั้น เพื่อปลูกป่าฟื้นฟูธรรมชาติ โดยเมื่อครบ 10 ปีก็จะคืนพื้นที่ตรงนี้ให้กับกรมป่าไม้ เพราะเป็นที่ไม่มีเอกสารสิทธิ





โดยจ้างคนดูแลถึง 5 คน ทั้งหมดจ่ายเงินไป 3 ล้านกว่าบาท วันปลูกป่าหัวหน้าเขตป่าไม้ นายอำเภอก็มาช่วย เพราะไม่ได้ทำเพื่อหวังประโยชน์กับตนเอง ซึ่งทำมานานแล้ว แต่ปัจจุบันที่เป็นปัญหาเพราะมีคนจ้องจับผิด

การออกมายอมรับว่ามีการซื้อขายครอบครองที่ดินป่าสงวนของพระพุทธะอิสระถือว่าน่าตกใจมาก เพราะเมื่อพิจารณาตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ มาตรา 14 ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ห้ามมิให้บุคคลใดยึดถือ

ครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้เก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพ ป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งในกรณีการอ้างว่าเข้าไปเพื่อปลูกป่า ต้องอาศัยความตามมาตรา 20 ซึ่งระบุว่าพื้นที่ดังกล่าวต้องถูกประกาศเป็นป่าสงวนฯเสื่อมโทรมตามมาตรา 16 และต้องมีหนังสืออนุญาตให้เข้าฟื้นฟูปลูกป่าให้แก่บุคคลโดยอธิบดีกรมป่าไม้

ซึ่งความตามกฎหมายทั้งหมดนั้น ก็มิได้ให้สิทธิถือครองซื้อขายที่ดินแต่อย่างใด คำถามคือ พื้นที่ป่า 300 ไร่ที่พุทธะอิสระอ้างว่าปลูกป่า มีการประกาศเป็นพื้นที่ป่าสงวนฯเสื่อมโทรมหรือไม่??? และพุทธะอิสระ หรือ มูลนิธิธัมมะพุทธะอิสระ มีหนังสือรับรองให้เป็นผู้เข้าไปฟื้นฟูสภาพป่าหรือไม่???

หากไม่มีการกระทำเช่นนี้ย่อมขัดต่อกฎหมาย และต้องถูกดำเนินคดีตามมาตรา 31 มีโทษจำคุก 6 เดือนถึง 5 ปี ปรับตั้งแต่ 5,000 ถึง 50,000 บาท

เพราะกฎหมายมีระบุไว้อย่างชัดเจน มิใช่ว่าจะอ้างว่าตนทำความดีเพื่อแผ่นดิน แล้วจะสามารถแก้ตัวได้ง่ายๆเช่นนี้ และหากว่าไม่มีการดำเนินคดี ย่อมแสดงว่าประเทศไทยแค่อ้างว่าเป็น “คนดี” “ทำความดีเพื่อแผ่นดิน” ก็ไม่ต้องรับผิดชอบต่อการละเมิดกฎหมายได้แล้ว!!!

Reference

http://forestfire.dnp9.com/forestfire/web1/web/mainfile/bB5ZyGDRrY4t.pdf

http://www.matichon.co.th/news/209717

ooo

เจาะลึกทั่วไทย 12/7/59 : "พุทธะอิสระ" โต้! ไม่ได้บุกรุกป่า แต่ทำเพื่อแผ่นดิน



https://www.youtube.com/watch?v=P_6jM48pm-w

SpringNews

Published on Jul 11, 2016

รายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม 2559 เวลา 07.30 น. ดำเนินรายการโดย “ดนัย เอกมหาสวัสดิ์” และ “อมรรัตน์ มหิทธิรุกข์” เจาะลึกประเด็นร้อน "พุทธะอิสระ" ออกโรงโต้! ไม่ได้บุกรุป่า กับ หลวงปู่พุทธะอิสระ (วัดอ้อน้อย) รายละเอียดจะเป็นอย่างไรติดตามได้ในรายการ