วันจันทร์, มิถุนายน 06, 2559

คดีหญิงไทยที่ถูกจับข้อหาฉ้อโกง คดีหลอกซื้อ-คืนกระเป๋าหรูแบรนด์ดังในรัฐเวอร์จิเนีย ศาลสหรัฐฯไม่ให้ประกันตัว กลัวหลบหนี




ภาพสเก็ต น.ส.แพรพิชชา สมาตสรบุศย์ ขณะขึ้นรับฟังการไต่สวนของศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ

ศาลสหรัฐฯไม่ให้ประกันตัวหญิงไทยที่ถูกจับข้อหาฉ้อโกง คดีหลอกซื้อ-คืนกระเป๋าหรูแบรนด์ดังในรัฐเวอร์จิเนีย


ที่มา VOA Thai

น.ส.แพรพิชชา สมาตสรบุศย์ หญิงไทยที่ถูกจนท.รัฐบาลกลางสหรัฐฯจับในคดีฉ้อโกงหลอกซื้อ-ขายกระเป๋าแบรนด์ดังเกือบ 600 ใบถูกนำตัวไปขึ้นศาลเพื่อไต่สวนถูกปฏิเสธคำร้องขอประกันตัวเนื่องจากศาลเห็นว่าอาจเสี่ยงต่อการหลบหนี(Flight Risk)

ที่ห้องพิจารณาคดีหมายเลข 500 ที่ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เขตตะวันออก รัฐเวอร์จิเนีย เมืองอเล็กซานเดรีย ชานกรุงวอชิงตัน (1 มิ.ย.) ผู้พิพากษาได้เปิดการไต่สวนเบื้องต้นเพื่อพิจารณาคดี กรณีรัฐบาลกลางสหรัฐเป็นโจทย์ฟ้อง นางสาวแพรพิชชา สมาตสรบุศย์ (Praepitcha Smatsorabudh) ที่ถูกเจ้าหน้าที่กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ จับเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ในย่านอาร์ลิงตัน ในรัฐเวอร์จิเนีย




Alexandria VA Federal Court House


เบื้องต้นนางสาวแพรพิชชาตกเป็นจำเลยในข้อกล่าวหาฉ้อโกงผ่านการทำธุรกรรมออนไลน์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ให้การต่อศาล ถึงพฤติการณ์ของจำเลย ที่วางแผนสั่งซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมของแท้ ราคาสูงจากร้านค้าออนไลน์ของห้างสรรพสินค้า ก่อนที่จะนำกระเป๋าของปลอมที่ผลิตในจีนและฮ่องกง ไปคืนที่แผนกรับคืนสินค้าของห้างด้วยการเดินทางด้วยตัวเอง ไปตามรัฐต่างๆอย่างน้อย 12 แห่งทั่วอเมริกาเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับผิด ก่อนจะนำสินค้าของจริงไปโพสต์ขายออนไลน์

เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯ กล่าวเบิกความว่า ได้ติดตามและรวบรวมหลักฐานจากห้างสรรพสินค้าหลายแห่งทั้งเอกสารการรับคืนสินค้า ต้นฉบับใบเสร็จรับเงิน เอกสารการเซ็นต์รับเงินคืนเข้าบัตรเครดิต รวมทั้งกล้องวงจรปิดของห้างขณะที่จำเลยเดินทางไปคืนสินค้า




ภาพสเก็ต น.ส.แพรพิชชา สมาตสรบุศย์ ขณะขึ้นรับฟังการไต่สวนของศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ


นอกจากนี้ยังสืบพบบัญชีขายสินค้าบนอินสตราแกรม และ เวบไซท์อีเบย์ขายสินค้าออนไลน์ ของนางสาวแพรพิชชา ที่มีภาพสินค้ากระเป๋าแบรนด์เนมขายในราคาแพง ก่อนจะปลอมตัวติดต่อล่อซื้อสินค้าจากจำเลยได้

ขณะที่เดือนมีนาคมที่ผ่านมาได้เข้าค้นห้องพักของนางสาวแพรพิชชา ในย่านอาร์ลิงตัน สามารถตรวจยึดของกลางเป็นกระเป๋ามากถึง 572 ใบ และมีจำนวนมากที่เป็นกระเป๋าของปลอม ขณะเดียวกันยังตรวจพบเอกสารที่เกี่ยวข้องหลายชิ้นเพื่อรวบรวมเป็นหลักฐาน รวมทั้งเอกสารบัตรประจำตัวปลอม และเอกสารวีซ่านักเรียนที่หมดอายุแล้ว

ด้าน นางนีน่า กินส์เบิร์ก ทนายความของนางสาวแพรพิชชา ได้ขึ้นซักค้านฝ่ายโจทย์ในหลายประเด็น โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับรายละเอียดขั้นตอนการคืนสินค้า รายละเอียดการบันทึกและจัดเก็บของกลางที่ยังไม่ชัดเจน รวมทั้งการตรวจยึดเอกสารประจำตัวของจำเลย

นอกจากนี้ยังร้องขอต่อศาลให้พิจารณาประกันตัวจำเลยเป็นการชั่วคราว แต่ผู้พิพากษาพิจารณายกคำร้องขอประกันตัว โดยระบุว่าจำเป็นต้องมีบุคคลที่ 3 ที่รู้จักจำเลยมายืนยันและยื่นประกันตัวจำเลยเท่านั้น เพราะเข้าข่ายเสี่ยงต่อการหลบหนี หรือ Flight Risk ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำตัวนางสาวแพรพิชชาควบคุมตัวต่อไปจนกว่าจะมีการนัดไต่สวนครั้งใหม่

ขณะที่บรรยากาศภายในห้องพิจารณาคดี มีผู้ให้ความสนใจเข้ารับฟังการพิจารณาจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะสื่อมวลชน สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น เช่น ABC และ NBC ในแถบกรุงวอชิงตัน ให้ความสนใจติดตามทำข่าวอย่างใกล้ชิด

นางนีน่า กินส์เบิร์ก ทนายความ เปิดเผยกับ วอยส์ ออฟ อเมริกา ภาคภาษาไทย ว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางยังไม่เปิดเผยหรือชี้แจงถึงรายละเอียดกระเป๋าของกลางทั้งหมดที่ยึดไปให้ฝ่ายทนายจำเลยได้ทราบ ขณะเดียวกันก็เชื่อมั่นว่ากระเป๋าที่จำเลยนำไปคืนนั้นเป็นกระเป๋าของแท้ ส่วนที่การสั่งสินค้ามาโพสต์ขายออนไลน์นั้นก็ยังคงเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของนางสาวแพรพิชชา

อย่างไรก็ตามหากสามารถหาบุคคลที่ 3 มายืนยันและประกันตัวได้ ก็เชื่อว่าศาลจะยินยอมให้มีการประกันตัวออกไป แต่เท่าที่สอบถามพบว่า นางสาวแพรพิชชา ไม่มีเพื่อนหรือญาติ หรือครอบครัว หรือคนที่รู้จักเธอเลย ทำให้ศาลจำเป็นต้องเลื่อนการไต่สวนเพื่อพิจารณาคำร้องออกไปก่อนจนกว่าจะหาบุคคลดังกล่าวได้

รายงานข่าวจากสำนักข่าว NBC แจ้งเพิ่มเติมว่า นางสาวแพรพิชชา มีอาชีพเสริมเป็นครูในโรงเรียนสำหรับเด็กก่อนวัยอนุบาล แห่งหนึ่งในเขต ฟอร์ต วอชิงตัน ของรัฐแมรีแลนด์ และเพิ่งซื้อรถยนต์คันใหม่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา

ลิงค์เสียง

Thai Women Arrested Handbags (3:56)