วันพฤหัสบดี, มิถุนายน 26, 2557

WSJ พาดหัว Thailand's Dead-End Coup. Resistance builds to a junta that conspired with the opposition. ท่านผู้นำยุดเหล่ ก็แย่ละซิ!

Thai army chief and junta head General Prayuth Chan-ocha European Pressphoto Agency

Source: Online.wsj

The Thai junta justifies its coup last month and ongoing martial law as necessary to reconcile a deeply polarized society. However, evidence emerged this week that far from interceding reluctantly as he claims, army chief General Prayuth Chan-ocha conspired with the opposition to overthrow the elected government. Meanwhile, one of the ministers from the ousted administration announced the formation of a resistance movement. Rather than heal Thailand's divisions, the junta has deepened them.

Suthep Thaugsuban led the illegal street protests that paralyzed Bangkok for much of the last six months and disrupted the February general election. This past weekend he boasted publicly that during that time he discussed with Gen. Prayuth how to drive then Prime Minister Yingluck Shinawatra from office. According to Mr. Suthep, Gen. Prayuth told him before the coup that "it's now the duty of the army to take over the task." The military has denied this.

Meanwhile, small-scale protests against the coup continue. On Sunday, eight people were arrested for symbolic acts such as eating a sandwich or reading George Orwell in public. Most are released without charge after seven days if they promise not to criticize the military, but the junta continues to hold an unknown number in undisclosed locations, in violation of international law. It is charging others, such as law professor Worachet Pakeerut.

On Tuesday, former Interior Minister Charupong Ruengsuwan announced the formation of the Organization of Free Thais for Human Rights and Democracy to fight the junta. Mr. Charupong is in hiding to avoid detention, while other opposition figures who continue to resist have fled abroad. He said the group would model itself on the Free Thais that fought against Japanese occupation during World War II, although he did not explicitly say that it would use violence.

This coup is already different from its immediate predecessors, which were brief interludes before the restoration of democracy. The junta has rolled out more repressive measures such as the use of military courts to try dissidents without the right of appeal. Meanwhile, social media has enabled critics of the military to spread their message and organize more quickly.

Gen. Prayuth says elections could be held in 14 months at the earliest. But before that can happen the military government insists the constitution must be rewritten and order restored. Supporters of the ousted government fear this means a system like Burma's in which the military and aristocracy are guaranteed enough appointed seats in parliament to block legislation.

In the meantime, the military will create an interim constitution and an appointed "civilian" government made up partly of retired generals, as it has done in the past. If current trends continue, after the lifting of martial law this government will face escalating criticism and civil disobedience, if not outright violence. In Thailand's north, where many of the ousted government's supporters live, discontent is already at a boil.

The junta's claim to be above politics was always a transparent fiction, but Mr. Suthep's revelation should dispel all doubt. The generals can still avoid becoming international pariahs if they hold elections quickly under the existing constitution. Time is running out for Thailand to use democracy to bridge its political divides and avoid bloodshed.
...

Related Story from WSJ:

Embarrassing Cracks Emerge in Thailand’s Post-Coup Establishment
...

เรื่องเกี่ยวเนื่อง...

ปล่อย 'ใบเสร็จ' ทวง?

นับเป็นแอ็กชั่นที่เป็นรูปธรรม รุนแรงสุดในบรรดาปฏิกิริยานานาชาติ

กับท่าทีของสหภาพยุโรปที่ได้ออกแถลงการณ์คัดค้านการรัฐประหารในประเทศไทย พร้อมเรียกร้องให้กลับคืนสู่วิถีประชาธิปไตย จัดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว

พร้อมมาตรการยกเลิกเขตการค้าเสรี ล้มโปรแกรมการเดินทางเยือนระหว่างกัน

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ประเมินจากท่าทีของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ให้นโยบายไว้ตั้งแต่แรก จะไม่แสดงปฏิกิริยาตอบโต้ หรือต่อต้านนานาชาติที่กดดัน คสช. โดยให้เน้นการทำความเข้าใจถึงความจำเป็นในบริบทประชาธิปไตยแบบไทยๆ

ทำใจรับสถานการณ์ไว้แล้ว แรงเสียดทานจากภายนอกประเทศอยู่ในวิสัยที่รับมือได้

เรื่องของเรื่อง จุดที่ต้องคุมเกมกันจริงๆ ก็คือแรงเสียดทานจากภายในต่างหาก

โดยเฉพาะกับปรากฏการณ์ล่าสุดที่มีการจุดประทัดท่ามกลางความเงียบ “กำนันเทพ” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกลุ่ม กปปส. ได้กระทำการ “ปล่อยของ” ผ่านหนังสือพิมพ์หัวฝรั่ง

เปิดเผยช็อตเบื้องหลัง อ้างเลยว่า แผนการกวาดล้างรัฐบาลชินวัตร ยุทธการล้มระบอบทักษิณ ได้มีการพูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์มาตั้งแต่ปี 2553 แล้ว

แม้แต่ช่วงก่อนรัฐประหารยึดอำนาจ หัวหน้า คสช.ยังได้ต่อสายบอกว่า “คุณสุเทพกับ กปปส.เหนื่อยเกินไปแล้ว ตอนนี้เป็นหน้าที่ผมแล้วที่จะเข้าควบคุมรัฐบาล”

และที่ผ่านมาก็มีการพูดคุยกับ “บิ๊กตู่” และคณะปฏิบัติงานอย่างสม่ำเสมอผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์

แถมทิ้งท้าย แจกแจงบัญชีลับ กปปส.ได้ใช้เงินไปกว่า 1.4 พันล้านบาท ในการเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อโค่นรัฐบาลตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา ในจำนวนนี้ 400 ล้านบาทมาจากครอบครัวและพวกพ้องของแกนนำ ส่วนอีก 1 พันล้านบาท เป็นเงินบริจาคจากผู้สนับสนุน กปปส.

เฉลยกันหมดไส้หมดพุงเลย

ตามรูปการณ์ ยี่ห้อ “กำนันเทพ” เหลี่ยมคูไม่ธรรมดา การตั้งใจ “ปล่อยของ” ต้องหวังผลแน่

อันดับแรกเลย นี่คือการ “เคลม” ชัยชนะ เอาใจกองเชียร์ม็อบกำนันให้ครึ้มอกครึ้มใจกับผลสำเร็จของ กปปส.ในการโค่นรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ล้มระบอบทักษิณ

ม็อบกำนันมีส่วนสำคัญในการปูทางให้ทหารปิดเกม

แต่ที่มองได้ลึกไปกว่านั้นอีกชั้น นี่คือมุกส่ง “ใบเสร็จ” ขอเบิกค่าแรง

ตามท้องเรื่องที่โยงต่อเนื่องกัน การขยับของนายสุเทพเป็นปฏิกิริยาภายหลังกระแสวงในหนาหูเลยว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่เปิดให้ทีมงาน “ลุงกำนัน” ได้เข้าร่วมในการจัดสรรอำนาจการบริหารภายหลังยึดอำนาจจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย

แม้จะมีการดีลผ่าน “ทีมงานพี่ใหญ่” ที่มีความสนิทสนมกันมาตั้งแต่การพลิกขั้วจัดรัฐบาลในค่ายทหาร ส่งโพย ส่งข้อความผ่านไป แต่ก็ยังเข้าไม่ถึงหัวหน้า คสช.อยู่ดี

ตามเงื่อนไขที่ “บิ๊กตู่” พยายามประคองน้ำหนัก รักษาความเป็นกลาง

ก็อย่างฉากที่แสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติแบบไม่เลือกข้าง ตั้งแต่วันประกาศยึดอำนาจการปกครอง พร้อมล็อกตัวแกนนำทั้งสองขั้ว
แม้แต่ตัว “กำนันเทพ” ก็โดนหิ้วไปนอนอยู่ในค่ายทหาร

หรือในเวลาต่อมา เหตุเกิดในงานเลี้ยงฉลองวันเกิดแกนนำม็อบกำนันที่มีการแต่งชุดในธีมทหาร โชว์ภาพออกมาในโซเชียลเน็ตเวิร์กให้รู้กันเป็นนัยว่าใครพวกใคร ก็มีเสียงเตือนเข้มๆจาก คสช.ทันทีว่า พฤติกรรมดังกล่าวไม่เหมาะสม

ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ในสถานการณ์ที่ทหารกำลังนำสังคมกลับสู่ความสงบสุข

และในอารมณ์เดียวกัน แต่เพิ่มความเข้มของระดับน้ำเสียง ตามจังหวะที่ พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ได้ออกมาปฏิเสธข่าวที่ “ลุงกำนัน” ปล่อยของ โดยยืนยัน พล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยพูดคุย สื่อสารในลักษณะแบบส่วนตัวกับนายสุเทพ รวมทั้งการส่งข่าวใดๆทั้งสิ้น

ที่สำคัญมีการยืนยันจากทีมงานโฆษก คสช.ด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ซีเรียสมากกับประเด็นข่าวของนายสุเทพ เพราะบรรยากาศกำลังดีอยู่แท้ๆ

เอาเป็นว่า จากเหตุการณ์ที่ “ลุงกำนัน” ปล่อยของครั้งนี้ ช็อตต่อไปหนีไม่พ้นโดนจับตา ถ้ามีการจัดให้เครือข่าย กปปส.เข้าไปนั่งเป็นรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หรือแม้แต่โควตาสภาปฏิรูป

ย่อมถูกตีความได้ เป็นการชดเชยค่าใช้จ่ายตามใบเสร็จ.

ทีมข่าวการเมือง
ไทยรัฐออนไลน์