วันพุธ, มิถุนายน 25, 2557

เบื้องหลังความคิดและตัวอักษรในแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ของ องค์กรเสรีไทย !




เบื้องหลังความคิดและตัวอักษณในแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ของ องค์กรเสรีไทย !
แล้วพี่น้องจะเข้าใจในสิ่งที่พวกเรากำลังจะทำกันครับ!

จักรภพ เพ็ญแข: ตอบคำถามเรื่ององค์กรต่อต้านเผด็จการ

ไทม์ไลน์:
ขอให้ขยายความบทบาทของ รัฐมนตรีจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ กับ รัฐมนตรีจักรภพ เพ็ญแข ในองค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยที่เพิ่งตั้งขึ้นในวันปฏิวัติสยาม ๒๔ มิถุนา?

จักรภพ: เล่าโดยรวบรัดได้ว่า
ตัวผมเองตั้งใจอยู่นอกประเทศไทยมากว่าห้าปี จุดประสงค์เพื่อรอตั้งขบวนการต่อสู้เต็มรูปแบบอย่างนี้แหละ เท่าที่ผ่านมา เราหวังตื้นๆ ที่ชนะการเลือกตั้ง หรือเอาใจคนบางคนในเมืองไทย เพื่อให้เขาพอใจสบายใจ เขาจะได้อนุญาตให้เราอยู่ในอำนาจบริหารได้นานหน่อยแม้กระทั่งถึงเวลาชุมนุมประท้วงกันแล้ว เราก็ยังจัดแบบไม่คิดลุย หวังแค่เอามวลชนมากๆ มาโชว์เพื่อให้เขาคิดเปลี่ยนใจเอง แนวคิดอย่างนี้ไม่มีทางเปลี่ยนโครงสร้างอำนาจในรัฐไทยได้ แต่คราวนี้เขาใกล้จะหมดสิ้นแล้ว จนต้องใช้วิธีการสามานย์ทุกอย่างเพื่อประคองสังขารแห่งอำนาจ ทำให้คนไทยทั่วเมืองได้เห็นเต็มตาว่า บ้านเมืองของเราไม่เคยมีประชาธิปไตยอันแท้จริงเลย คราวนี้เองที่การต่อสู้ช่วงชิงรัฐที่แท้จริงอาจจะเกิดขึ้น ส่วนกับท่านรัฐมนตรีจารุพงศ์นั้น ผมกับท่านคุยกันลึกซึ้งกันมานานหลายปีดีดักแล้ว เพียงแต่ไม่เคยเล่าให้ใครฟังเท่านั้นเอง มีคนไม่กี่คนที่รู้ว่า คุณพ่อท่านคือท่านอดีตประธานรัฐสภา คุณจารุบุตร เรืองสุวรรณนั้น ท่านเป็นเลขานุการส่วนตัวที่ใกล้ชิดที่สุดของ นายปรีดี พนมยงค์ สมองในการเปลี่ยนแปลงการปกครองสยามเมื่อ พ.ศ.๒๔๗๕ แถมเป็นผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่นในห้วงเวลายาวนานถึง ๓๐ ปีอีกด้วย เมื่อผมรู้ว่าท่านรัฐมนตรีจารุพงศ์เดินทางออกนอกราชอาณาจักร แปลว่าท่านไม่ยอมรับอำนาจของคณะรัฐประหารเลยนั้น ผมก็นึกในใจทันทีว่า ไม่เสียหลายที่ผมและท่านได้จูนคลื่นสมอง จิตใจ และหัวใจกันมาตลอด คนที่คิดถึงขั้นโครงสร้างอำนาจรัฐมักจะได้่ข้อสรุปที่คล้ายกันเสมอ

ไทม์ไลน์: แล้วแบ่งบทบาทกันอย่างไร?

จักรภพ: รัฐมนตรีจารุพงศ์รับหน้าที่เลขาธิการองค์กรฯ ส่วนผมเป็นเลขานุการบริหารและโฆษกฯ ทำหน้าที่คล้ายๆ ปลัดกระทรวงขององค์กร

ไทม์ไลน์: มีกันทั้งหมดกี่คน?

จักรภพ: คณะกรรมการกลางมีราว ๑๐ คน ผู้ร่วมอุดมการณ์ที่มีชื่อเสียงและมีประวัติอันเรืองรองในการต่อสู้ทางการเมืองมีอีกไม่ต่ำกว่า ๒๐ คน นักวิชาการระดับโลกทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศก็อีกหลายท่าน แต่เราสงวนนามท่านเหล่านี้ไว้ทำงานสำคัญต่างๆ ในอนาคตอันใกล้ เรื่องนี้ต้องกราบขอประทานโทษมวลชนประชาธิปไตยที่เราเปิดเผยหมดไม่ได้ ศัตรูของเราคราวนี้ทำตัวเป็นสุนัขบ้าที่ถึงขั้นน้ำลายฟูมปากแล้ว เราคงไม่เปิดโอกาสให้มันงับพวกเราง่ายๆ

ไทม์ไลน์: “นิติราษฎร์” อยู่ด้วยไหม เห็นอาจารย์วรเจตน์ฯ กลับมามอบตัวแล้ว?

จักรภพ: ดร.วรเจตน์ฯ ท่านมีปัญหาสุขภาพอยู่บ้าง เราเห็นว่าดีแล้วที่ท่านรักษาตัวเองไว้สำหรับการณ์ข้างหน้า แต่สมาชิกหลายคนของกลุ่มนี้ก็ยังอยู่ข้างนอก เราก็คุยกันเสมอ

ไทม์ไลน์: ดร.สมศักดิ์ เจียมฯ ล่ะ?

จักรภพ: คุยกันอยู่เช่นกัน

ไทม์ไลน์: ดร.ปวินฯ อาจารย์ชาญวิทย์ เกษตรศิริ?

จักรภพ: ตอบรวมอย่างนี้เลยดีกว่า ใครที่เขาอยู่ข้างนอกแล้ว เพราะตั้งใจจะออกมาแล้ว ถือเป็นเครือญาติทางประชาธิปไตยกันทั้งนั้น เราอย่าเพิ่งลำดับญาติกันในเวลานี้เลย เอาเป็นว่าองค์กรนี้ไม่ขี้ริ้วขี้เหร่ก็แล้วกันครับ มีพลังและบารมีเพียงพอที่จะก้าวเดินต่อไปแน่

ไทม์ไลน์: ต้องถามถึงคนสำคัญ อดีตนายกทักษิณมีบทบาทขนาดไหนในเรื่องนี้?

จักรภพ: ประเด็นนี้มีให้ตอบกันทุกเวที อดีตนายกรัฐมนตรี ดร.ทักษิณฯ ท่านเหมือนตึกใบหยกที่กรุงเทพฯ นั่งรถผ่านไปตรงไหนก็มองเห็น บนทางด่วนมองลงมาก็แลเห็น เรื่องนี้ว่ากันไม่ได้เพราะท่านคือผู้ที่ทำให้ประชาธิปไตยมีความหมายที่จริงจังและมีชีวิตชีวาขึ้นมาจริงๆ จะให้คนลืมท่านง่ายๆ คงจะไม่ได้ แต่งานนี้ผมยืนยันได้ว่า อดีตนายกฯ ไม่ได้เข้ามาร่วมรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องใดๆ ด้วยเลย อารมณ์ที่พวกเราและชาวประชาธิปไตยมีอยู่ในขณะนี้ ไม่ต้องมีใครมาออกคำสั่งหรือชี้นำอะไรทั้งนั้น พวกเราถูกอำมาตย์และทหารตบหน้าจนล้ม แล้วเอาท็อปบู๊ตเหยียบหัวเพื่อบอกว่า ประชาชนอย่างพวกมึงไม่ได้มีความหมายอะไรใดๆ เลย ถึงขนาดนี้แล้วไม่ต้องมีใครมากระตุ้นให้เราคิดสู้ รู้กันทั่วไปแล้วด้วยว่าสู้กับใคร เราแยกออกว่าใครคือตัวมาเฟีย และใครเป็นแค่มือปืนชั้นเลวที่เขาจ้างมาคุ้มครองเขา อีกข้อหนึ่งคือเรื่องเงินทองค่าใช้จ่าย หลายคนนึกว่าไม่มีเศรษฐีมาคอยช่วยแล้วคงจะเดินไม่เป็นแน่ ผมบอกได้ว่าเราจะเดินหน้ากันแบบต้นทุนต่ำ หรือ low-cost ทำคล้ายสายการบินแบบประหยัดที่ลดความสิ้นเปลืองทุกชนิดออกหมด เอาแต่เดินทางจากจุด ก. ไปจุด ข. เท่านั้น ในอนาคตเราอาจจะระดมทุนในระดับโลกด้วย ให้มันรู้ไปว่าคนไทยส่วนใหญ่มุ่งมั่นขนาดนี้แล้วเราจะอับจนหนทาง

ไทม์ไลน์: เข้าใจว่าองค์กรนี้คงจะสร้างเครือข่ายการสนับสนุนในระดับสากลแน่ ถูกต้องไหม?

จักรภพ: ใช่ครับ ขณะนี้ประเทศหลักๆ ในโลกก็เข้าใจเราดีโดยที่ไม่ต้องออกแรงอะไรมากอยู่แล้ว เช่น ฝรั่งเศส เยอรมนี ออสเตรเลีย แคนาดา เป็นต้น แม้แต่จีนที่ส่งเอกอัครราชทูตที่พบคณะรัฐประหารจนพวกนี้นึกว่าเขาหนุนตัวเองนั้น เขาก็พูดคุยอยู่กับเรา แต่เราก็จะเดินสายขอความสนับสนุนต่อไปและมีมาตรการที่เราจะขอรับความอนุเคราะห์อย่างเป็นรูปธรรมหลายอย่าง แต่ในขั้นนี้ขอสงวนไว้ เพราะยังไม่สรุป

ไทม์ไลน์: แล้วคนไทยในต่างประเทศ?

จักรภพ: นั่นคือกำลังสำคัญของเราเลย เราจะพัฒนาระบบการทำงานที่จริงจังและต่อเนื่องขึ้นมา เราไม่อยากให้ทำงานกันไปทะเลาะแก่งแย่งอะไรกันไป ไม่สร้างสรรค์ เหนื่อยแรง ทำให้คิดท้อ เราจะขอให้แต่ละกลุ่มหลักๆ ทำงานอย่างเป็นรูปธรรมและต้องวัดผลได้ด้วย เราไม่อยากได้ปริมาณ แต่อยากให้ยึดคุณภาพการทำงาน เห็นส่วนรวมสำคัญกว่าหน้าตาบารมีส่วนบุคคล เป็นค่านิยมหลัก

ไทม์ไลน์: ได้ข่าวจากบุคคลวงในว่า คุณจักรภพเป็นผู้เขียนแถลงการณ์ก่อตั้งองค์กร ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ อยากให้เล่าว่าเริ่มต้นจากอะไร? ต้องการสื่อสารอะไรบ้าง?

จักรภพ: คณะกรรมการกลางขององค์กรได้มอบหมายให้ผมยกร่างแถลงการณ์เป็นภาษาไทยขึ้นมาจริง แต่เรารวมสมองกันในการปรับแก้อยู่หลายครั้ง ท่านเลขาธิการและกรรมการทุกท่านมีส่วนร่วมกันทั้งนั้นและอย่างสำคัญด้วย หลายคำหลายประโยคมาจากประสบการณ์การต่อสู้อันยาวนานของผู้ที่ร่วมประชุมด้วยกัน คำบางคำ เช่น ประชาชน ระบอบทหารและเครือข่ายอำมาตย์ เป็นต้น ล้วนผ่านการอภิปรายถกเถียงกันอย่างจริงจัง สุดท้ายเราก็นำมาแปลเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากคณะนักแปลและขัดเกลาที่มีอุดมการณ์ ประสบการณ์ และมีความรู้ในสองภาษาเป็นอย่างดี จึงถือได้ว่าแถลงการณ์ครั้งนี้เป็นผลงานทางความคิดร่วมกันขององค์กรและเครือข่ายสนับสนุนประชาธิปไตย

ไทม์ไลน์: มองการพัฒนาขององค์กรอย่างไร?

จักรภพ: องค์กรนี้จะเป็นเมล็ดพันธุ์ที่งอกเงยได้เรื่อยๆ จนมีลำต้นและกิ่งก้านสาขาที่แผ่กว่างแข็งแรง เราไม่หวังโตโครมครามเหมือนผลไม้จำบ่ม แต่หวังให้เป็นต้นไม้เนื้อแข็งที่ยิ่งนานยิ่งแน่น เราจะไม่ลืมว่าเขายึดอำนาจเที่ยวนี้เพราะเป็นปลาย(...... )ไม่ว่าจะแดงเหลืองเขียวดำอะไรเขาก็ยึดทั้งนั้น เราก็ต้องทำใจว่างานนี้อาจจะยาวนาน หรืออย่างน้อยเขาก็อยากอยู่กันนานๆ นี่ประยุทธ์ จันทร์โอชาก็อยากเป็นนายกรัฐมนตรีเสียเองแล้ว สัญญาณหื่นกระหายมันชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ประวิตร์ วงศ์สุวรรณจึงอาจจะต้องรับประทานแห้ว องค์กรของเราจึงต้องมองไกล และเดินยาว เอาประชาธิปไตยแท้จริงชนิดไม่ใช่น้ำจิ้มกันดีกว่า

ไทม์ไลน์: คาดว่าคณะทหารจะมีปฏิกิริยาอย่างไร?

จักรภพ: เรามาสนใจกันที่เจ้าของ(.......)เถอะครับ.

Credit