วันอังคาร, มิถุนายน 10, 2557

ผมรู้จักพี่หนูหริ่งในช่วงเวลาสั้นๆ



จากหน้าเฟชบุ๊คผู้ใช้นาม 'จดหมายถึงนกพิราบ'

"ความทรงจำบางอย่าง ที่อาจหายไปในช่วงเวลา 7 ปี" 
7 ปีเพราะไม่เชื่อฟังคณะรัฐประหาร

บก. ลายจุด อาจเป็นที่รู้จักในนามแกนนอนเสื้อเเดง แต่คุณรู้หรือเปล่า อีกมุมในชีวิตเขา "สมบัติ บุญงามอนงค์" เป็นยังไง ผมรู้จักพี่หนูหริ่งในช่วงเวลาสั้นๆ เพียง 5 ปี แต่ก็นานพอที่พี่เขาจะเล่าชีวิตส่วนตัวบางส่วนให้ฟัง 

พี่หนูหริ่งเข้าสู่วงการนักกิจกรรมเพราะคณะละครมะขามป้อม แต่มาเป็นที่รู้จักจริงๆ ก็ตอนแกตั้งมูลนิธิกระจกเงา ผมไม่ค่อยรู้บทบาทกระจกเงาสมัยย้ายไปเชียงรายมากนัก ฟังคำบอกเล่ามาอีกทีว่าบู๊ล้างผลาญกันน่าดู เพราะเป็นองค์กรต่อต้านยาเสพติด เคยนำอาสาสมัครเข้ายึดของกลางกับเจ้าหน้าที่ 
 
ทำเรื่องเด็กชาวเขาไร้สัญชาติซึ่งไม่เคยเป็นที่สนใจของสังคมเลยในสมัยนั้น

สมัยนึงพี่หนูหริ่งเคยเอาเด็กๆ ชาวเขาเข้าทำเนียบรัฐบาลแย่งซีนนายกฯ ในวันเด็กแห่งชาติอยู่ปีนึง แกเล่าว่าวิธีคิดคือ "ในวันเด็ก นักข่าวเต็มทำเนียบอยู่แล้ว ผมเอาเด็กชาวเขาร้อยกว่าคนเเต่งตัวเเบบพื้นบ้านไปเพื่อเรียกร้องความสนใจนักข่าว จุดประเด็นเรื่องเด็กไร้สัญชาติขึ้นมา"

 ......หลังจากแถลงข่าวในวันนั้น สามเดือนต่อมาประเทศของเราเกิด "พรบ.เด็กไร้สัญชาติ" ...พี่หนูหริ่งเป็นหัวเรี่ยวหัวเเรงในการผลักดันกฎหมายฉบับนี้


สมัยสึนามิ พี่หนูหริ่งเคยนำอาสาสมัครลงช่วยเหลือผู้ประสบภัย จนกลายเป็นไปก่อตั้งศูนย์อาสาสมัครมีอาสานับหมื่นชีวิตขึ้นที่นั่น แกเล่าถึงการแก้ปัญหาอาสาสมัครทนกลิ่นศพไม่ไหวยังไง การประสานงานกับคุณหมอพรทิพย์ แกว่างานที่ยากที่สุดของผมคือการจัดการอาสาสมัครจำนวนมากเหล่านั้น

โครงการคนไร้บ้านของกระจกเงาเกิดขึ้นมาจากพี่หนูหริ่งไปเห็นคนไร้บ้านหน้าปากซอย แล้วแกก็คิดของแกเองว่าทำไมไม่มีคนไปจัดการคนเหล่านี้

ผมเคยตามพี่หนูหริ่งกับหัวหน้าโครงการ (พี่เอ๋) คนไร้บ้าน ลงพื้นที่เเถวๆ พาหุรัด พวกเรานั่งริมฟุตบาทแล้วฟังพี่หนูหริ่งแลกเปลี่ยนทัศนคติเรื่องคนไร้บ้าน จนถึงทุกวันนี้โครงการนี้ก็ยังช่วยเหลือคนไร้บ้านอยู่

โครงการคอมพิวเตอร์เพื่อน้อง ก็เกิดจากความริเริ่มของพี่หนูหริ่ง "คนเมืองมักมองของเหล่านี้เป็นขยะ ซึ่งถ้าเราเอาไปทิ้งมันก็เป็นขยะจริงๆ แต่ถ้าเราเอามาซ่อม เด็กบางคนที่ไม่มีเงินซื้อก็จะได้ใช้" พี่หนูหริ่งแกว่าแบบนั้น ระหว่างที่ผมเขียนอยู่นี่ อาสาสมัครของพี่หนูหริ่งยังซ่อมคอมฯ ไปบริจาคให้เด็กในชนบทอยู่เลย

แต่โครงการที่โด่งดังในสมัยนี้จนคนรู้จักดีคือ ศูนย์ข้อมูลคนหายมูลนิธิกระจกเงา ...ผมเชื่อว่าทุกท่านรู้จักจนไม่ต้องเขียนบรรยายอะไรอีก

ยังมีอีกหลายโครงการที่พี่หนูหริ่งทำแล้วผมไม่ได้เขียนถึง เพราะไม่มีข้อมูลมากพอ แน่นอนโครงการเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากพี่หนูหริ่งคนเดียว มีเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครจำนวนมากที่ร่วมฝันและลงมือทำด้วยกัน แม้วันนี้พี่หนูหริ่งจะออกจากมูลนิธิกระจกเงาไปแล้ว แต่ในช่วงชีวิตหนึ่งแกเป็นคนผลักดันให้เกิดเรื่องราวเหล่านี้

บทบาททางการเมือง ผมคิดว่าพี่หนูหริ่งโด่งดังเป็นที่รู้จักในสมัยที่แกไปผูกผ้าแดงราชประสงค์ (จนตำรวจยกป้ายราชประสงค์หนี เป็นที่ฮือฮาขบขันมากในช่วงนั้น) สิ่งที่ผมทึ่งคือพี่หนูหริ่งผูกผ้าแดงแล้วถูกจับ พอถูกปล่อยออกมาแกก็ไปผูกซ้ำอีกรอบ และอีกรอบ 

ตอนนั้นผมคิด คนที่ทำแบบนี้ถ้าไม่กล้ามากๆ ก็ต้องบ้ามากๆ ซึ่งพี่แกมีทั้งสองอย่างนั้นแหละ นั้นเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ผมได้รู้จักกับ "บก.ลายจุด" (ตอนนั้นผมเป็นฟรีแลนซ์ให้หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นเล็กๆ ฉบับนึง)

แต่หลังผ้าแดง รปส. มีอะไรหลายอย่างที่คนในสาธารณะไม่ได้พูดถึง ครั้งนึงพี่หนูหริ่งแกเคยเล่าว่า  
"เหตุผลที่ผมไปผูกผ้าแดงไม่ใช่แค่สัญลักษณ์การต่อสู้การเมือง แต่ในช่วงเวลานั้นมวลชนกำลังจะไปแนวทางรุนแรงกันหมด ผ้าแดงทำให้มวลชนกลับมาเชื่อมั่นในแนวทางสันติ" 
ผมยังจำข่าววางระเบิดห้างบิ๊กซีแถวราชประสงค์กับข่าวคนทำวัตถุระเบิดแล้วพลาด ระเบิดโดยไม่ได้ตั้งใจทำเอาอพาร์ตเมนต์ย่านบางบัวทองหายไปครึ่งหลังช่วงปี 53 ได้

เสื้อแดงหรือสัญลักษณ์สีแดง พี่หนูหริ่งแกก็คิดขึ้นมานะ แกบอกว่าสีแดงเป็นสีที่ใช้รณรงค์ต่อต้าน (หลายอย่าง) ของสากล แล้วแกใช้ "สีแดง" ช่วงนั้นที่มีการรณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญปี 50 หลังจากนั้น นปช. จึงนำสีแดงมาใช้เป็นสัญลักษณ์เสื้อแดง

แต่เหตุการณ์หลังสลายการชุมนุมปี 53 ไม่ใช่เหตุการณ์แรกที่พี่หนูหริ่งมีบทบาททางการเมือง สมัยพฤษภา 35 พี่หนูหริ่งแกก็เคยถือโทรโข่งปราศรัยคัดค้าน รสช. มาแล้วรอบนึง

เรื่องราวของ "บก.ลายจุด" "สมบัติ บุญงามอนงค์" "หนูหริ่ง" ยังมีอีกมากในแง่มุมต่างๆ มีมิตรสหายอีกหลายๆ ท่านที่รู้จักแกดีกว่าผม มันคงจะดีถ้าท่านเขียนเรื่องราวของหนูหริ่งออกมาบ้างในมุมของท่าน อย่างน้อยๆ เพื่อเป็นความทรงจำอีก 7 ปีที่จะหายไป

ยังมีคนดีๆ อีกหลายคนในความทรงจำของผมที่ถูกหมายเรียกไปรายงานตัว อย่างครูประทีปหรือ อ.โคทม หรือถูกจับติดคุกอย่างคุณจาตุรนต์ คนเหล่านี้เคยทำประโยชน์สาธารณะมามากกว่าผม คุณหรือใครอีกหลายๆ คน บางคนอยู่คณะรัฐประหาร ผมมองว่าการที่คนเหล่านี้ไปใช้ชีวิตในห้องขัง กลายเป็น "นักโทษการเมือง" ทำให้ประเทศของเราเสียโอกาส

...แต่มานึกอีกที มันคงเสียโอกาสไปตั้งแต่มีรัฐประหารเเล้วละ

สุดท้ายนี้ ในช่วงเวลาแห่งความมืดมิดจนมองไม่เห็นทางอะไร สิ่งที่เราควรรณรงค์อย่างแรกคือ "ปล่อยนักโทษการเมือง"

หมายเหตุ: คืนวันที่ 5 มิ.ย. 2557 หนูหริ่งถูกเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัว หลังจากไม่เข้ารายงานตัวตามคำสั่งของคณะ คสช. จากนั้นถูกส่งไปควบคุมตัวที่ค่ายนวมินทราชินี จังหวัดชลบุรี