วันอาทิตย์, ธันวาคม 15, 2562

“จุดติดนานแล้ว เหลือแต่จะลุกลามไปทั่วประเทศเมื่อไหร่" สกายว้อล์ค ธันวา ๖๒


จุดติด Flash Mob ‘ชุมนุมเฉียบพลัน’ #กลัวที่ไหน #ไม่ถอยไม่ทน ซึ่ง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ชักชวนไปที่บริเวณลานและสะพานสกายว้อล์ค ปทุมวัน ดังที่ coconuts.co/bangkok เรียก ‘Rise of Skywalk-er’

คนร่วมชุมนุมไม่ต่ำกว่า ๓ พัน อาจไม่ถึงหมื่นอย่างที่รอยเตอร์รายงานว่าคนของพรรคอนาคตใหม่อ้าง แต่ก็เป็นไปได้ถ้าใครจะคุยว่าเกิน ๕ พัน เมื่อทั้งรอยเตอร์และโคโค่นัทว่าตรงกัน จำนวนมากที่สุดที่เคยมีในรอบหลายปี (ระหว่างประเทศอยู่ใต้ปกครองคณะทหาร)

“สกายว้อล์คคนแน่นขนัดทั้งข้างบนและข้างล่างจนไม่มีที่เดิน ล้นหลามเกินความคาดหมาย!! ส่วนใหญ่เป็นเด็ก-วัยรุ่นนักเรียนนักศึกษาคนหนุ่มสาวคนทำงานหน้าใหม่ ดูท่าทางแล้วคงเพิ่งมาชุมนุมเป็นครั้งแรก” พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ เล่าตรงกับที่สื่อต่างประเทศรายงาน

“พอเห็นธนาธร-ปิยบุตรเท่านั้นแหละ ตะโกนกรี๊ดกันลั่น ชูสามนิ้วกันพรึ่บ ลุงป้าเสี้อแดงมากันเข้มแข็ง แต่คราวนี้กลายเป็นคนส่วนน้อยนั่งจับกลุ่มคุยกันอยู่รอบ ๆ เพราะเบียดลุยฝ่าวงลูกหลานเข้าไปด้านในไม่ไหว คุยกันแล้วทุกคนบอกว่าปลื้มใจมาก บางคนถึงกับน้ำตาคลอ”

คนแน่นมาก พิชิตเลยไม่ได้พบคุณยายวัย ๘๘ ปี ผู้สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่คนหนึ่งซึ่งไปชูรูป สามนิ้วกับเขาด้วย

ธนาธรปราศรัยว่านี่เป็นก้าวแรก เดี๋ยวเอาอีก เดือนหน้าแล้วจะแจ้งให้ทราบ คงไม่ได้หมายโดยตรงถึงรายการที่ขบวนการร่วมฝ่ายค้านเตรียม วิ่งไล่ลุง วันที่ ๑๒ มกรา ๖๓ ซึ่งฝ่ายหนุน สืบทอดอำนาจ คสช. จัด เดินเชี่ยร์ลุงมาชน วันเดียวกันที่สวนลุมฯ

“นี่เป็นของขวัญปีใหม่” ธนาธรกล่าวในปราศรัยตอนหนึ่งใต้สะพานสกายว้อล์ค “อันจะทำให้ประชาชนไทยมีสุขที่สุด ถ้าประยุทธ์จะลาออกเสียแต่ตอนนี้” ที่เป็นการตอบโต้คำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก่อนหน้าหนึ่งวันที่ว่า การนัดชุมนุมเป็นการแย่งความสุขปีใหม่ไปจากประชาชน
 
รวบยอดคำสื่อสารจากการชุมนุมเมื่อคืน ๑๔ ธันวา ได้จากปากของ ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค อนค. ดัง @prachatai ถ่ายทอดถ้อยว่า “คือจุดเริ่มต้นของการแสดงพลัง การแสดงออกว่าประชาชนคือผู้ทรงอำนาจของประเทศนี้ นี่คือการต่อสู้ของอนาคตของพวกเราคนไทยทุกคน”

การชุมนุมผ่านไปอย่างเรียบร้อย ในนิยามของการ ชอบด้วยกฎหมายประการหนึ่งที่ว่า “เป็นไปโดยสงบและปราศจากอาวุธ” ส่วนประเด็นไม่มีหนังสือแจ้ง “ต่อหัวหน้าสถานีตำรวจในพื้นที่” แม้ปรากฏมีตำรวจพยายามจะเข้าไปยังจุดที่ธนาธรยืนปราศรัย

นัยว่าจะขอเข้าไปเจรจากับแกนนำผู้จัด หากแต่โดนฝูงชนสกัดกั้นและผลักดันออกไป บอกว่างานนี้ไม่มีแกนนำ ตำรวจจึงถอยเข้าไปปักหลักในบริเวณสนามกีฬาแห่งชาติ แสดงว่างานนี้ทางการจงใจ ไม่ สลายชุมนุมเช่นเดียวกับการนัดพบที่ท่าแพ เชียงใหม่

ที่นั่นมีคนไปชุมนุมน้อยกว่ากรุงเทพฯ แต่ก็จำนวนหลายร้อย มากทีเดียวในมาตรฐานต่างจังหวัด ที่นั่นตำรวจพยายามใช้โทรโข่งขยายเสียงไล่ให้คนกลับ แต่ผู้ชุมนุมไม่ยอมและผลักดันตำรวจออกไปจากวงในเช่นกัน ไฮไล้ท์ได้มาจาก @pipob69 เล่าว่า

“เจอเพื่อน เขาบอกในชีวิตไม่เคยไปชุมนุมกับกลุ่มไหนใน #เชียงใหม่ เลย ถามว่าแล้วมานี่เพราะเป็นแฟน @Thanathorn_FWP หรือ @FWPthailand เขาบอกเปล่า ไม่ได้เป็นหนึ่งในหกล้านเสียง แต่ที่ออกมา เพราะ #ไม่ทนไม่ถอย ทนมานานแล้ว”

ข้อสำคัญพิภพสรุปว่า “พวกที่เคยเป็น inactive citizens มีเยอะนะ” น่าจะเทีนบเคียงได้กับกรณี อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล หรือ 'เจ้ย' ผู้กำกับหนังรางวัลปาล์มทองคำของฝรั่งเศส ที่บอกปกติอยู่เชียงใหม่ แต่ “ไม่ค่อยได้เข้าร่วมงานลักษณะนี้
 
พอรู้ว่ามีงานนี้ก็โดดงานมา รู้สึกว่ามันต้องมีการแสดงออกที่ให้เห็นว่ามันทนไม่ได้แล้ว มีหลายคนที่อาจจะไม่กล้ามาร่วม แต่มันเป็นการฝึกให้เราแสดงสิทธิของตัวเอง มันเป็นสิ่งที่ทำได้ และควรทำให้เป็นเรื่องปกติ”

แถมความเห็น “ว่าควรจะล้ม กกต. นี้ไป แล้วปฏิรูปกองทัพ ทหารไม่ควรอยู่ในการเมือง ไม่ใช่หน้าที่ ไม่ใช่สิ่งที่ถนัด ทั้งแนวความคิด วิสัยทัศน์ไม่เหมาะที่จะปกครองประเทศโดยกฎของทหาร

อยากส่งเสียงว่าประชาชนมีขีดจำกัดนะ เราทนไม่ได้แล้ว” เท่ากับย้ำแน่นว่า จุดติดแล้วแต่ว่า  ไทกร พลสุวรรณ ไปไกลกว่านั้น “จุดติดนานแล้ว เหลือแต่จะลุกลามไปทั่วประเทศเมื่อไหร่เท่านั้น”