“ห้าตระกูลที่หนุนลุงตู่ แต่จะทำให้พังในที่สุด”
สื่อฮ่องกง Asiatimes พาดหัวข่าวข้างบน และวิเคราะห์รัฐบาลลุงตู่ได้ลึก ผมแปลสรุปบางส่วน
“ตระกูลมหาเศรษฐีที่หนุนลุงตู่ร่ำรวยอูฟู ในขณะที่เศรษฐกิจไหลลง และความเหลื่อมล้ำหนักขึ้น”
บทความพูดถึงพรรครัฐบาล ที่ระดมเงินด้วยโต๊ะจีน 622 ล้านบาท กกต. รับรองว่าไม่ผิดกฎหมาย ทั้งที่หลายรายเป็นบริษัทที่ได้สัมปทานจากรัฐบาล
นอกจากนี้ รัฐบาลมีการให้สัญญา/สัมปทาน/ธุรกิจแก่บริษัท ที่มีลักษณะอาจเป็นการตอบแทนการสนับสนุนพรรคในการเลือกตั้ง
และอ้างรายงานธนาคารโลกที่ระบุว่า ในห้วงเวลารัฐบาล คสช. ความยากจนและความเหลื่อมล้ำรุนแรงขึ้น
สัดส่วนคนยากจนสูงขึ้นเป็น 10% สำหรับรายได้และกำลังซื้อของประชากร 40% ล่างสุด ก็ลดลงตลอดระหว่างปี 2015-2017 ในขณะที่ฐานะของห้าตระกูลร่ำรวยขึ้น
ธนาคารโลกรายงานผลโพลของ Gallup (บริษัทโพลยุโรป) ว่าคนไทยส่วนใหญ่รู้สึกว่ารายได้และฐานะแย่ลงตั้งแต่ปี 2016
รัฐบาลพลเอกประยุทธ์โฆษณาว่าได้แก้ปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ แต่ใช้นโยบายแจกเงินเป็นหลัก ที่ดำเนินการผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งก็ถูกวิจารณ์ว่าไม่ได้ผล
นักวิเคราะห์กล่าวว่าพลเอกประยุทธ์ใช้นโยบายประชานิยม เหมือนกับโปรยเงินลงจากเฮลิคอปเตอร์ คือเลียนแบบนายทักษิณ ชินวัตร แต่ไม่สามารถสร้างความยั่งยืนได้
นอกจากนี้ รัฐบาลก็ไม่ได้ใส่ใจลดการอุ้มธุรกิจใหญ่ ลดอำนาจผูกขาด เพิ่มความสามารถแข่งขันให้ SME อย่างจริงจัง
ปัจจุบันสภาวะเศรษฐกิจของคนทั่วไปแย่ลง สวนทางกับกำไรของห้าตระกูล เรื่องนี้จะกดดันรัฐบาลมากขึ้น เสียงเรียกร้องให้ลดความเหลื่อมล้ำจะดังขึ้น
บทความสรุปว่า ในอนาคต ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ก็จะกระทบห้าตระกูลและธุรกิจขนาดใหญ่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ผมเพิ่มเติมว่า ห้าปีที่ผ่านมา ถึงแม้รัฐบาลลุงตู่ปรนเปรอห้าตระกูลใหญ่ แต่ถ้าอยู่ต่ออีกห้าปี ผมมั่นใจว่า การปรนเปรอจะขยายวง จะลงไปอย่างน้อยสิบตระกูล
คนชั้นบนสุดคงจะได้อูฟูกันใหญ่เพราะลุงตู่
วันที่ 14 ธันวาคม 2562
ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล
Facebook Thirachai Phuvanatnaranubala
(เครดิตภาพตามแหล่งที่แสดงชื่อ)
หมายเหตุ: การกล่าวถึงชื่อบุคคลใดมิใช่เป็นการกล่าวหากระทำความผิด แต่เป็นเพื่อประกอบการบรรยายทางวิชาการเพื่อประโยชน์แก่ทางราชการในการรักษาประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ
https://www.asiatimes.com/…/thailands-five-families-prop-a…/
.
“five families” – known widely as the founding clans behind the CP Group, ThaiBev, Boonrawd, King Power and the Central Group