วันพุธ, กันยายน 11, 2562

พ่อลิงช่วยกัน ‘แก้แห’ เป็นการใหญ่ "แต่ความยุติธรรมที่แท้จริงไม่เข้าใครออกใครนะ"

ถึงตอนนี้พวกพ่อลิงช่วยกัน แก้แห เป็นการใหญ่ เหตุจากหัวหน้าลิงถูกสื่อออสเตรเลียจับโกหกได้ เรื่องติดคุก ๔ ปี แล้วหลอกคนทั้งไตแลนเดียว่าแค่ ๘ เดือน แถมอ้างว่าคดีค้ายาเสพติด ๓ กิโลกว่านี่ข้อหาย่อย พอนักข่าวย้อนถามใหม่ ไม่พูดแระ

แถ “เรื่องบางเรื่องพูดไปไม่มีประโยชน์กับตัวเอง” พูดเฉพาะที่เป็นประโยชน์ จะจริงไม่จริงไม่สน “เรื่องนี้คงเป็นการเขียนภายในประเทศและส่งไปให้นักข่าวออสเตรเลียมากกว่า” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ตอบนักข่าว ไทยโพสต์กรุณาคัดมาลง

“ก่อนหน้านี้ผมได้รับการติดต่อมาจากนายไมเคิล อีวานส์ หลายรอบแล้ว” ย้อนไปดูนายไมเคิลคนนี้เป็นหนึ่งใน สองไมเคิล ผู้เขียนข่าวเปิดโปงนักการเมืองไทยเคยติดคุกข้อหาค้าเฮโรอิน “จากอุบาทว์ไปเป็นรัฐมนตรีฯ” ที่ตีพิมพ์บนหนังสือพิมพ์ซิดนี่ย์ เฮรัลด์และ ดิเอจ

ไมเคิลอีกคนเคยเป็นหัวหน้ากองบรรณาธิการ บางกอกโพสต์วันอาทิตย์ฐานข้อมูลระบุว่า ไมเคิล รัฟเฟิ่ล ทำงานให้โพสต์ระหว่างตุลา ๕๖ ถึงธันวา ๕๙ เป็นเครื่องยืนยันว่าเขาต้องรู้ตื้นลึกหนาบางในสังคมไทยพอควร จึงทำให้ข่าวชิ้นนั้นออกมาละเอียดยิบยับ
 
โดยไม่จำเป็นต้องให้ใครที่ไหนเขียนส่งให้ ทั้งธรรมนัสและพวกพ่อๆ ลิงทั้งหลายคงไม่รู้ว่า สื่อสากลเขาไม่เพียงใช้แหล่งข่าวในประเทศนั้นๆ ที่เป็นข่าวเท่านั้น เขาใช้นักข่าวท้องถิ่นกันแล้ว จะเป็นรอยเตอร์ เอเอฟพี นิวยอร์คไทมส์ วอชิงตันโพสต์ ดีพี หรือเจแปนไทม๋

โดยเฉพาะประเด็นสำคัญในข่าวชิ้นนั้นเป็นข้อ ความจริงที่พวกเขาได้มาจากเอกสารประกอบคดีในศาลนิวเซ้าท์เวลส์ ออสเตรเลีย ที่เป็นลายลักษณ์อักษรหักล้างข้อความเท็จที่ธรรมนัสปล่อยลอยๆ ออกมาตามลมปาก

และที่ธรรมนัสประกาศว่า “หากข้องใจเปิดหน้ามาชกกันเลยดีกว่า” เข้าใจว่าเป็นอุปมาอุปมัย “ไม่ต้องเป็นอีแอบ” ก็ไม่เห็นใครเป็นอีแอบ สองนักข่าวเขาเปิดตัวแถมบอกว่า ธรรมนัสเคยท้าให้ไปค้นจากศาลออสเตรเลีย พวกเขาก็ค้นมาแล้วไง

“ต่อไปหากใครพูดเรื่องอดีตอีกผมจะไม่โต้ตอบ แต่จะดำเนินคดีทุกอย่าง” รอฟังตอนเสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ตั้งกระทู้ด่วนถามในสภาก่อนแล้วกัน เขาคงรู้ละว่ากฎบัตรกฎหมายสมัยนี้เป็นของ คสช.ใช้เท่านั้น แต่ความยุติธรรมที่แท้จริงไม่เข้าใครออกใครนะ

ฉะนั้น ธรรมนัสจะลาออกหรือไม่ เด็กแว้นบางบอนคงบอกว่า “เรื่องของมรึง” แต่ข้อเท็จจริงปรากฏอยู่โทนโท่แล้วว่ากะลาแลนด์เอาผู้ต้องโทษยาเสพติดไปเป็น ส.ส. หัวคะแนน เป็นรัฐมนตรี ทั้งๆ ที่ตัวบทกฎหมายไทยเองระบุชัดว่าถ้า ต้องโทษย่อมหมดสิทธิ์

จะอ้างอย่างรองนายกฯ วิษณุ เครืองาม ว่าคดียาเสพติดไม่เสียหายถ้าคนนั้นมีความรักชาติ ทั่นคงเพลิดเพลินในอำนาจที่ คสช.ให้มา (ผ่านการรัฐประหาร) ก็เลยลืมข้อกฎหมายเกี่ยวกับ หลักฐานประจักษ์ กับ ลมปาก อันไหนเชื่อได้
 
พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลตอบนักข่าวว่า “น่าจะเป็นความจริง” ที่ธรรมนัสอ้างมีขบวนการในต่างประเทศต้องการทำลายชื่อเสียงตน อีกทั้งโฆษก ปอท. กล่าวว่าจะช่วยดำเนินการสืบสวนสอบสวนตรวจสอบหาแหล่งที่มาของ สื่ออวตาร หรือสื่อปลอม...ทันที” ก็ดีอยู่

ขอให้ไปถูกที่ ทั้งศาลท้องถิ่นและกรมตำรวจซิดนี่ย์นะ อย่าไปแค่ศาลรัชดาหรือตำรวจปทุมวันก็แล้วกัน แล้วที่พวกพ่อๆ ลิงพยายามจะแก้แห แบบรองนายกฯ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ว่าไม่รู้สิ “ที่สำคัญเขามีการปล่อยตัวมาแล้ว”

และ “เป็นเรื่องของคนคนเดียว ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเทศไทย” ก็ชวนให้นึกถึงใครบางคนที่โอดว่าเป็น หนูแล้วยามเฝ้าจุดไฟเผาบ้านไล่นั่น คนคนเดียวไม่เกี่ยวข้องประเทศไทยหรือเปล่า

หนักเข้าไปใหญ่ คนโต คสช. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ฉุนนักข่าวถามเซ้าซี้ไม่จบเสียทีเรื่องรับคนติดคุกเป็นรัฐมนตรี “มีขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติทั้งหมดแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าจะผิดก็มีผลย้อนหลังไปทุกเรื่องนั่นแหละ

...ไอ้คนที่ออกมาพูดก็ขอให้ย้อนกลับไปดูเสียว่ารัฐบาลที่ผ่านมามีปัญหาบ้างหรือเปล่า” ว้าว คำคมแต่ไม่กระชับ 'รัฐบาลที่ผ่านมา' เจาะจงไหมว่า ที่แล้ว หรือที่ไหน แต่กระนั้นก็เอาเถอะไม่เป็นไร ถือเสียว่าเคยอวดงั่งมาแล้วหลายครั้งเป็นธรรมชาติก็ได้

แต่บังเอิญบังอรไม่ค่อยอ่าน หรือว่าอ่านเยอะจนสับสน มีคนช่วยค้นให้ ไทกร พลสุวรรณ @Thaikorn1 ช่วยผ่อนแรง “รัฐบาลอื่นไม่มีแบบนี้ครับ เท่าที่ตรวจสอบย้อนหลังดูรัฐมนตรีในอดีต ตั้งแต่สมัยรัฐบาลของพระยามโนปกรณ์นิติธาดา จนถึงรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

“ไม่มีรัฐมนตรีคนใดมีคดีเกี่ยวพันกับยาเสพติดเลยแม้แต่คนเดียว ส่วนใหญ่เป็นคดีเกี่ยวกับการเมืองและการทุจริต”

อีกประเด็น หมิ่นเบื้องบนด้วยไหม ที่ไปบอกตำรวจออสซี่ว่าเป็นราชองครักษ์มกุฏราชกุมารไทย เพื่อขอผ่อนโทษ วาสนา นาน่วม ช่วยเสริมโดยไม่ได้ตั้งใจ เขียนไว้นานแล้วตั้งแต่ ๑๑ กรกฎา เพิ่งมาตอบประเด็น “ผู้กองธรรมนัสเผยเหตุตัดผมเกรียน”

ว่าเพราะตั้งใจแต่ต้น “ซึ่งถือว่าเป็นทรงผมแรกตั้งแต่ตอนที่ผมเป็นผู้หมวด ทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์” ซึ่งในความเป็นจริงคำว่า ราชองครักษ์ไม่ได้มีความหมายห่างจาก มหาดเล็กแม้แต่น้อย มิใช่หรือ