.
48 ปีที่มืดมนของบุญทรง เตริยาภิรมย์
(6 กันยายน 2562) ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาอุทธรณ์ขององค์คณะที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา กรณีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดย เพิ่มโทษ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ไปอีก 6 ปี รวม48 ปีด้วยกันเป็นอันว่า คดีถึงที่สุดแล้ว นายบุญทรง จะได้กลายเป็นนักโทษเด็ดขาด แต่ด้วยเหตุที่โทษเกิน 10ปี จะตั้งต้นเป็นนักโทษชั้นเลวมาก แล้วไต่ขึ้นเป็นชั้นเลว ชั้นกลาง ชั้นดี ชั้นดีมากและชั้น เยี่ยม ตามลำดับ รวมแล้วต้องใช้เวลาอีกสามปีข้างหน้าถึงจะได้เป็นนักโทษชั้นเยี่ยมได้
พิธีพระบรมราชาภิเษก ระหว่าง4-8พค.62 มีการพระราชทานอภัยโทษ นายบุญทรงไม่ได้การอภัยโทษเพราะเหตุที่ยังต่อสู้คดีอยู่ ตรงนี้ไม่เป็นธรรมอย่างยิ่งเพราะเหตุที่คดียังไม่สิ้นสุด แต่กลับถูกคุมขังแบบเดียวกับนักโทษเด็ดขาดแล้ว เท่ากับว่า ต่อไปหากไม่มีการพระราชทานอภัยโทษในพิธีสำคัญของพระมหากษัตริย์ไทยแล้ว นายบุญทรงต้องรับโทษเต็ม 48 ปี ซึ่งหมายถึงอยู่ไปจนสิ้นชีวิตคาคุก
คงเหลืออีกหนทางหนึ่งก็คือการขอพระราชทางอภัยโทษส่วนบุคคลต่อพระมหากษัตริย์หากได้รับพระมหากรุณาธิคุณก็ได้รับการปล่อยตัวทันที หรือถ้าหากมีการแก้ไขพรบ.ราชทัณฑ์กันใหม่ก็อาจได้เป็นนักโทษชั้นเยี่ยม แต่ต้องมีพิธีสำคัญของกษัตริย์ และมีพระราชทานอภัยโทษอีก3ครั้ง ถึงจะได้รับการปล่อยตัวเร็วกว่ากำหนด
อีกหนทางหนึ่งก็คือ การออกกฎหมายนิรโทษกรรมเพราะถือว่าเป็นคดีที่เกิดขึ้นจากการรัฐประหาร แต่ต้องเป็นการนิรโทษกรรม แบบไม่มีข้อยกเว้น ก็จะได้อิสรภาพทันที
มันเจ็บปวดรวดร้าวระอุอก สะทกโทษ สะเทือนขวัญ จริงหนอ !