https://www.facebook.com/UNHCRThailand/videos/1304339942981467/
รับฟังคำกล่าวของคุณปู ไปรยาในการขึ้นรับตำแหน่งทูตสันถวไมตรี UNHCR คนแรกของประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยกันค่ะ #PuforUNHCR
ooo
ปู ไปรยา น้ำตาคลอ นั่งแท่นทูตสันถวไมตรี เผยเขียนอีเมลติดต่อ UNHCR เอง
2017-02-01
ที่มา ไทยรัฐ
ปู ไปรยา น้ำตาคลอ ขณะขึ้นรับตำแหน่งเป็นทูตสันถวไมตรีคนแรกของประเทศไทย แจงอยากช่วยเหลือผู้ลี้ภัย จึงเขียนอีเมลถึง UNHCR โดยไม่รู้จักใครเลย บอกเกือบ 3 ปีที่ได้มีโอกาสที่ดีในการพิสูจน์ถึงคุณค่าของการมีชีวิตอยู่เพื่อคนอื่น บอกขออุทิศชีวิตให้กับการทำงานมนุษยธรรมให้กับเพื่อนมนุษย์
หลังจากที่ไปช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันมานาน ในที่สุด ปู ไปรยา ก็ได้แต่งตั้งให้เป็นทูตสันถวไมตรีคนแรกของประเทศไทย สำนักข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ UNHCR ซึ่งในระหว่างที่ต้องกล่าวความรู้สึกหลังได้รับการแต่งตั้ง นางเอกสาวปูเผยด้วยงด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ และน้ำตาคลอ
“ปูซึ้งใจเป็นอย่างมาก นอกจากวันนี้จะเป็นวันสำคัญที่สุดของปู ยังเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ ช่วงเวลาที่เกิดวิกฤติด้านมนุษยธรรม ช่วงเวลานี้ทั่วโลกมีผู้คนทั้งเด็กและผู้หญิงกว่า 65 ล้านคน ที่จำเป็นต้องหนีจากบ้านตัวเอง เพราะสงครามและความรุนแรง ซึ่ง 65 ล้านคนนั้น เป็นจำนวนสูงที่สุดนับจากช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และกำลังจะเพิ่มขึ้นในปีนี้ ในวันที่ปูได้เห็นภาพของผู้ลี้ภัยซึ่งเต็มไปด้วยความเจ็บปวดสิ้นหวัง ในคืนนั้นเองปูนอนไม่หลับ จึงตัดสินใจค้นหาหน่วยงานที่ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยโดยตรง จึงเขียนอีเมลถึง UNHCR โดยไม่รู้จักใครเลย ตั้งแต่วันนั้นเกือบ 3 ปี มาแล้วที่ปูได้มีโอกาส ที่ดีในการพิสูจน์ถึงคุณค่า ของการมีชีวิตอยู่เพื่อคนอื่น ปูได้ร่วมงานกับ UNHCR เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับผู้ลี้ภัย เพื่อช่วยระดมทุน และรณรงค์มอบคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นแก่ผู้ลี้ภัยทั่วโลก ปูได้เดินทางไปเยี่ยมค่ายผู้ลี้ภัยในประเทศไทยสี่แห่ง ได้พูดคุยเรียนรู้และเห็นความเป็นอยู่ ส่วนหนึ่งของชีวิตพวกเขา ทำให้ปูมีความประทับใจอยากจะเล่าให้ทุกคนฟัง
ครั้งหนึ่งปูได้พบกับ น้องตันดา อายุ 13 ปี เด็กผู้หญิง คนนี้อาศัยกับยายแค่ 2 คนในค่ายผู้ลี้ภัย พลัดพรากจากพ่อแม่ทั้งชีวิตเหลือแค่คุณยายคนเดียว ซ้ำร้ายคุณยายยังป่วยเป็นอัมพาต ทุกวันนี้น้องเขาต้องดูแลคุณยาย ป้อนข้าว ป้อนยา เช็ดตัวให้คุณยาย เสร็จจึงได้ไปโรงเรียน เมื่อ ปูถามน้องว่าน้องอยากได้อะไรมากที่สุดในชีวิตนี้ คำตอบที่ได้มาคือน้องอยากไปเรียนหนังสือ อยากได้อุปกรณ์การเรียน ภายใต้คำตอบนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ความหวัง ความตั้งใจของเด็กอายุ 13 ปี ซึ่งปูได้รับรู้อยู่ตลอดเวลา เรื่องนี้สะท้อนใจปูมาก เพราะปูเข้าวงการบันเทิงมาตั้งแต่อายุ 13 ตอนนั้นปูไม่มีความสุข เพราะปูคิดว่าภาระของปูเกินตัว เกินวัยตัวเองมาก ปูแค่อยากอยู่กับเพื่อนไม่อยากทำงาน แต่พอปูได้เจอน้องตันดา ซึ่งมองเห็นภาระการดูแลยายตัวเอง ว่าเป็นความสุขที่สุดในชีวิตของเขา การได้กอดได้อยู่กับคุณยายเขานั้น เป็นกำลังใจอย่างเดียว ที่เขาต้องการเพื่อเดินหน้าต่อไปการได้เจอเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่มีหัวใจเข้มแข็ง และยิ่งใหญ่เกินวัยตัวเอง ทำให้ ปูมั่นใจว่าตัวเองจะต้องเป็นเสียงให้กับเด็กผู้ลี้ภัย ที่ต้องตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกับน้องตันดาอีกมากมายทั่วโลก
ปูคิดว่านี้แหละคือภาพของผู้ลี้ภัยที่ปูอยากแนะนำให้ทุกคนรู้จักทั่วโลก ปูเชื่อว่าความรัก ไม่ใช่สิ่งที่แบ่งแยกได้ ไม่มีขอบเขต ไม่ว่าเราจะเกิดที่ไหน สีผิวอะไร นับถือศาสนาใด หรือว่าพูดภาษาเดียวกันหรือไม่ เมื่อ เราสูญเสียคนที่เรารัก เผชิญ หน้ากับความเจ็บปวด หรืออยู่ในโมเม้นต์ที่มีความสุขที่สุดในชีวิตเรามีความรู้สึกที่ไม่แตกต่างกัน ความรู้สึกนั้นเราสามารถสื่อกันได้ โดยไม่ต้องใช้คำพูด เพราะเราคือมนุษย์ ผู้ลี้ภัยได้ผ่านความโหดร้ายอย่างแสนสาหัส และสูญเสียทุกสิ่ง แต่สิ่งที่ปูชื่นชมที่สุด คือพวกเขาไม่เคยสิ้นหวัง ความเข้มแข็งและกล้าหาญของพวกเขา คือสิ่งที่ผู้ลี้ภัยแสดงให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์ ที่บางครั้งอาจจะเปราะบาง แต่ไม่เคยอ่อนแอ ในทุกวัน 34,000 คน ต้อง ลี้ภัยออกจากบ้านตัวเอง เพราะสงครามที่โหดร้าย ทั้งความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกยาวนาน และยังไม่มีท่าทีที่จะจบ เช่น สงครามในเซาท์ซูดาน และยังมีสงครามที่เป็นวิกฤติของโลก เช่น สงครามซีเรีย เหตุการณ์ เหล่านี้กำลังเกิดขึ้นในยุคของเรา เรามีหน้าที่ที่จะช่วยกันสร้างความเปลี่ยนแปลง และต่อโลกที่ดีกว่ายุคของเราให้ยุคต่อไป UNHCR ตั้งใจจะช่วยพวกเขาอย่างยั่งยืน
โครงการช่วยเหลือผู้ลี้ภัย ของ UNHCR จะคำนึงถึงศักยภาพของพวกเขา ฟังความคิดเห็น และให้พวกเขามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ ชุมชนของตัวเอง สิ่งที่ปูได้ไปเห็นจึงเป็นโครงการดีๆ เช่น การให้ความคุ้มครอง ฝึกทักษะที่สอนให้ผู้ลี้ภัย สามารถพึ่งพาตัวเองได้ และสร้างประโยชน์ให้กับสังคม รวมถึงมอบทางออกถาวรให้กับผู้ลี้ภัย วันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานกับ UNHCR อย่างเป็นทางการของปู ปูรู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูง ปูขอแสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลไทย ที่ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม อย่างต่อเนื่อง ปูขอบคุณจากใจจริงๆ ปูขอบคุณ คุณรูเวนดรินี่ และ UNHCR ที่ให้ความมั่นใจ และเชื่อใจ ในนักแสดงคนนี้
ภารกิจ UNHCR ในปัจจุบันมีความซับซ้อน และขอบเขตที่กว้างใหญ่ และใช้เวลายาวนานนับ 10 ปี โดยการแก้ไขปัญหา ซึ่งปูขอยืดหยัด จะเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจครั้งนี้ และขออุทิศชีวิตนี้ให้กับการทำงานมนุษยธรรม ให้กับเพื่อนมนุษย์ ถ้าจะให้ปูพูดถึงบ้าน ปูนึกถึงประเทศไทย ปูรักบ้าน และประเทศของปูมาก และถ้าชีวิตนี้ ปูไม่ได้กลับบ้านของปู ซึ่งเต็มไปด้วยความทรงจำ และความอบอุ่น ปูจะพยายามจนสิ้นลมหายใจสุดท้ายของปู เพื่อได้กลับบ้าน เพราะท้ายที่สุด บ้านคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในหัวใจของทุกคน ขอบพระคุณ มากค่ะ