ตกลงใครออกมาพูดความจริง ‘คนไม่ดี’ ทั้งนั้นเหรอ ทั่นตูบ
อจ.เดชรัต ไม่ดี อจ. พิชิต ไม่ดี โฆษกพิเศษยูเอ็น ก็ไม่ดี ต้องสมเกียรติ ทีดีอาร์ไอ ถึงจะดี หรือว่ากรณ์ จาติกวณิช ยิ่งดีงั้นสิ
วันนี้ (๘ ก.พ.) ประยุทธ์พูดในที่ประชุมบีโอไอ “อย่างไรก็ตามคนไม่ดีก็ยังมีอยู่ มีความพยายามที่จะวิพากษ์วิจารณ์และเปิดหน้าออกมาเรื่อยๆ บางเรื่องเราทำดีแต่เขากล่าวหาว่าไม่ดี”
ทั่นจึงสั่งให้พวกขนหน้าแข้งและลิ่วล้อว่าถ้า “พบประเด็นที่เกี่ยวโยงกับหน่วยงานของตนเอง อย่าปล่อยทิ้งไว้ โดยคิดว่าไม่สำคัญเพราะสามารถสร้างกระแสตอบรับได้มากกว่าพูด”
(http://www.matichon.co.th/news/456271)
ทั่นคงอ้างถึง ดร.เดชรัต สุขกำเนิด แห่งคณะเศรษฐศาสตร์ ม.เกษตร ที่เอาตัวเลขจริงออกมาติงเรื่องเงินคงคลังลดฮวบ ด้วยฝีมือของรัฐบาล คสช. สองสามปีนี่ละ
อีกคน ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ แห่งคณะเศรษฐศาสตร์ ม.ธ. ซึ่ง ‘เปิดหน้า’ วิจารณ์ภาวะเงินคงคลังหดหายด้วยเหมือนกันว่า เป็นเพราะ “กระทรวงคลังบริหารเงินสดเข้า-ออกผิดพลาด (รายลับลดฮวบเกินคาด และไม่ได้เตรียมกู้สำรอง)...
“แต่ รบ.มีรายรับเดือนละ ๑.๕-๓.๐ แสนล้านบาท รายจ่ายเดือนละ ๒-๔ แสนล้านบาท เฉพาะเงินเดือนค่าจ้าง พนง.-ข้าราชการก็ปาเข้าไปเดือนละ ๕ หมื่นล้านบาทแล้ว ฉะนั้นเงินในลิ้นชักแค่ ๗.๕ หมื่นล้านบาท มันจะฉิวเฉียดมากไปหรือเปล่า”
เรื่องดีดลูกคิดร้านโชวห่วยปากซอยธรรมดา เข้าใจได้ง่ายๆ ที่ อจ.พิชิตว่าเฉียดฉิวน่ะ น่าจะหมายถึงเฉียดฉิวไปเป็นประเภท #รัฐบาลหาเช้ากินค่ำ ดังที่ใครคนหนึ่งใช้ชื่อ ‘จุลชาติ จุลเพชร’ บนทวิตภพว่าไว้
นั่นยังไม่ได้รวมถึงข้อมูลที่ประชากรทวิตภพไทยอีกรายแจ้งไว้ด้วยนะ “ตัวเลขที่อันตรายยิ่งกว่าเงินคงคลังเหลือน้อย คือดุลการชำระเงินติดลบ ซึ่งสะท้อนว่าเงินไหลออกแรงมาก ตอนนั้น ยังเห็นตัวเลขแค่ ๓ เดือน บัดนี้ออกมาถึงเดือนธันวาคม ๒๕๕๙ แล้ว ลบมากกว่าเดิมอีก
ดูได้เลยนะ.......เดือนกันยายน -38,472.6 ล้านบาท เดือนตุลาคม -19,053.15 ล้านบาท เดือนพฤศจิกายน -55,691.84 ล้านบาท เดือนธันวาคม โกโซบิ๊ก -125,439.09 ล้านบาท” Vannapan Phrompayak เล่าขาน
อีกคนที่ไม่ดีสำหรับเจ็นเนอรัลจรรโอชา คงจะมิสเตอร์ เดวิด เคย์ โฆษกพิเศษสหประชาชาติเกี่ยวกับการส่งเสริมเสรีภาพในการมีความคิดเห็นและแสดงออก ที่เมื่อวานนี้ (๗ ก.พ.)
คุณเดวิดแถลงเรียกร้องให้ประเทศไทยเลิกใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพสำหรับ ‘เค้นคอ’ เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เสียที
“ความจริงที่ว่าการแสดงความคิดเห็นบางอย่าง ถูกหาว่าเป็นการหยามหมิ่นบุคคลสาธารณะ นั่นไม่พอสำหรับใช้อ้างความชอบธรรมที่จะสั่งห้ามหรือลงโทษ” นายเคย์เน้นในแถลงการณ์
“กฎหมายหมิ่นกษัตริย์ไม่ควรมีอยู่ในระบอบประชาธิปไตย ข้าพเจ้าขอเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจในประเทศไทยจัดการแก้ไขกฎหมายอาญาเกี่ยวกับการนี้ และยกเลิกกฎหมายนี้ที่สร้างความชอบะรรมให้กับการดำเนินคดีทางอาญา”
เขาเจาะจงอ้างอิงกรณีการดำเนินคดีกับนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา ข้อหาแชร์บทความบีบีซีเกี่ยวกับพระเจ้าอยู่หัววชิราลงกรณ์บนหน้าเฟชบุ๊คของเขา และถูกศาลสั่งระงับการปล่อยตัวชั่วคราวจากการคุมขังหลายครั้งตั้งแต่วันที่ ๒๗ ธันวาคม ๕๙ โดยกำหนดจะเข้าสู่การพิจารณาอีกครั้งในวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์นี้
ตำแหน่งโฆษกพิเศษนี้แต่งตั้งโดยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงเจนีวา ทำหน้าที่ตรวจตราเรื่องสิทธิมนุษยชนในประเทสต่างๆ แล้วรายงานให้คณะกรรมการทราบ เป็นตำแหน่งอาสาสมัครไม่มีเงินเดือน ไม่มีค่าใช้จ่ายตอบแทน
(https://www.facebook.com/UNHumanRightsAsia/)
ถ้าคนนี้เป็นคนไม่ดีสำหรับนายพลจัญแห่งไตแลนเดียละก็ หมายความว่าสหประชาชาติไม่ดี สิทธิมนุษยชนก็ไม่ดี สู้ทีดีอาร์ไอไม่ได้
ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย พยายามนำผลการจัดอันดับความโปร่งใสในประเทศไทยขององค์กรโลกไปอยู่ที่เกือบโหล่ ให้ดูดีขึ้นมาหน่อยว่า
“ถ้าจะทำความเข้าใจว่า ประเทศไทยดีขึ้นหรือแย่ลง คำตอบคือ ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ใช้ ประเด็นที่น่าสังเกตคือ การวัดโดยเอาแหล่งใหม่มาใช้ แล้วให้ผลที่แตกต่างจากแหล่งข้อมูลเดิมมาก...
ไทยอาจจะไมได้แย่เท่ากับที่ถูกมอง แต่ไม่ได้หมายความว่าโปร่งใสมากขึ้นกว่าในอดีต”
นอกจากนั้นยังนำเอาเรื่อง “ดัชนีการรับรู้ด้านคอรัปชั่นของไทย” มาชี้แจงวกไปวนมาจนมาลงว่า “เรื่องของคอร์รัปชั่น ถึงไม่ใช่ความจริง แต่ถ้าเป็นภาพลักษณ์ก็ทำให้เกิดความเสียหายขึ้นได้
ภาพลักษณ์สำคัญไม่น้อยกว่าความจริง อีกทั้งภาพลักษณ์ถูกนำไปเชื่อมโยงกับประชาธิปไตย”
(http://www.matichon.co.th/news/453515)
‘คนดี’ อีกรายสำหรับหัวหน้า คสช. มีตำแหน่งอดีต รมว.คลังมาขย่ม กรณ์ จาติกวณิช ให้สัมภาษณ์ เดอะโมเม้นตัม เรื่องเงินคงคลังหด “มองว่าไม่ถังแตกแน่นอน
เพราะเงินคงคลังเป็นเรื่องของการบริหารเงินสด และไม่ใช่ว่ารัฐบาลไหนมีเงินคงคลังเยอะแล้วจะถือเป็นเรื่องดีเสมอไป เพราะอาจหมายถึงการบริหารเงินไม่เป็นก็ได้” เค้าว่า
รายนี้เอาเศรษฐศาสตร์มหภาคมาอธิบายสไตล์ร้านโชวห่วย “ต้องประเมินว่าวันๆ หนึ่งเราจะต้องใช้เงินสดเท่าไร เราก็เก็บเงินสดไว้ในลิ้นชักให้เพียงพอ มากเกินไปก็ไม่ดี เพราะแทนที่เงินนั้นจะอยู่ในบัญชีธนาคารเพื่อกินดอกเบี้ยก็กลับมาอยู่ในลิ้นชักเฉยๆ”
(http://themomentum.co/momentum-feature-reflected-of-treasur…)
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเงินคงคลังของประเทศ เอาไปฝากธนาคารโลกกินดอกเบี้ย ได้มั้ย แต่ประเด็นมันไม่อยู่ตรงนั้นนะนาย (นี่พูดอย่างบังเดินเก็บดอกเบี้ยเงินกู้ตามบ้านในตรอกซอยสมัยก่อน)
ถ้าได้ไหงไม่เอาไปฝาก ดันจะเอาไปซื้อเรือดำน้ำเก็บหอย รถถังไว้โชว์วันเด็ก ไมค์ทองคำอีกอย่าง
แล้วที่จ่ายแก้วิกฤตข้าวบ้าง น้ำบ้าง ยางด้วยน่ะ มันต่างกับรัฐบาลก่อนตรงไหน ไฉนรัฐบาลก่อนเป็นคนไม่ดีต้องใช้อำนาจวิเศษลงโทษทางปกครอง ให้จะต้องชดใช้ชนิดเจ็ดชั่วโคตรไม่หมด ตอนนี้อิเหนาเป็นเองทำไง
อย่างนี้นี่แหละ ใครต่อใครถึงอยากเปิดหน้าด่าให้ได้สำนึกเสียบ้างเป็นไร