ไหนโพลบอกว่าประยุทธ์ยังเป็นตัวเลือกดำรงตำแหน่งนายกฯ นำลิ่วเกือบ ๖๒ เปอร์เซ็นต์ ทิ้งห่างสองพรรคการเมืองหลัก
โดยที่พรรคประชาธิปัตย์มีภาษีกว่าพรรคเพื่อไทย ได้ ๑๗.๕ ต่อ ๑๕.๗ เปอร์เซ็นต์ แถมบีบีซีไทยบอก “ยิ่งนานยิ่งนิยม :โพลล์ชี้คนไทย ‘ชอบ’ ลุงตู่มากขึ้น”
(http://www.bbc.com/thai/thailand-38710512…)
แล้วใยวันนี้ (๒๔ ม.ค.) “บิ๊กตู่ อารมณ์บ่จอย !! เผย ชี้อ่างบัว ๑๐ อ่างหน้าตึกไทยฯ เพื่อสวยงาม และเป็นตัวอย่าง พวกสมองไม่เปลี่ยน อยู่ข้างล่างก็กลายเป็นอาหารของเต่าปลา” (@WassanaNanuam)
ฤๅจะเป็นเพราะเรื่องทุจริตรับสินบนโรลสรอยซ์ที่ใครต่อใครรุมยำกันใหญ่ แรกๆ พวกสื่อขนหน้าแข้ง คสช. ก็พยายามโยงไปที่แม้ว แต่มาหลังๆ กลายเป็นไปลงที่พวกเจ็นเนอรัลส์ ตะหานไทยฟาดเยอะกว่าใคร
ขนาด ‘อินทรีย์เหล็ก’ ไทยรัฐยังบอกว่า “งานนี้ถ้าหลุดรอดไปได้ก็ต้องถือว่าปาฏิหาริย์มีจริง พับผ่า” หลังจากที่ไล่เรียงใครบ้างเต้นเร่าสอบสวน ตั้งกรรมการ และหาหลักฐาน ทั้งดีดีการบินไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. หัวหน้า ปปช. และประธาน สตง.
(http://www.thairath.co.th/content/841898)
สำหรับรายหลังนี่แรกๆ ทำท่าจะแถกแถ ตีกินไว้ก่อนว่าจะ ‘หมดอายุความ’ ทำอะไรไม่ได้นอกจากเอารายชื่อมาวิจารณ์ ยังดีที่พลิกพริ้วได้ทันการณ์
เมื่อวานนี้ (๒๓ ม.ค.) “นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยว่า กรณีบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) รับสินบนจากบริษัทโรลส์-รอยซ์ ทางสตง.ได้ส่งสายตรวจตรวจสอบหลักฐานการจัดซื้อของทั้งสองแห่งแล้ว...
กรณีบริษัท ปตท. รับสินบนในปี ๒๕๕๖ นั้น หาหลักฐานได้ไม่ยาก โดยเฉพาะหลักฐานการจัดซื้อกระบวนการอนุมัติจัดหา การเลือกเครื่องยนต์ กลไก ฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง...
เรื่องนี้ต้องมีคนกลางวิ่งล็อบบี้เพื่อจ่ายสินบนให้หน่วยงานไทย อาจเป็นคนกลุ่มเดียวกัน ล็อบบี้ทั้งปตท.และการบินไทย ให้ซื้อเครื่องยนต์ของบริษัทโรลส์-รอยซ์ และเชื่อว่าจะมีการระบุรายชื่อว่าจ่ายเงินให้ใคร เหมือนกรณีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คาดว่าไม่นานจะได้รายชื่อคนไทยรับเงินจากบริษัทนี้ถ้าได้หลักฐานมาก็จบได้เร็ว”
“วันเดียวกัน ผศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ และคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต” แจกแจงว่าการติดสินบนเจ้าหน้าที่ไทยของบรัทโรลสรอยซ์นี้มีสามครั้ง คือช่วงปี ๓๔-๓๕ ช่วงปี ๓๕-๔๐ และช่วงปี ๔๗-๔๘ มูลค่าทั้งสิ้น ๓,๔๑๗ ล้านบาท
“จะเห็นได้ชัดว่าความเสียหายและมูลค่าสินบนสูงสุดในยุครัฐบาลรัฐประหารเผด็จการ รสช. ในปี พ.ศ. ๒๕๓๔-๒๕๓๕ อยู่ที่ประมาณ ๑,๓๘๖-๒,๒๔๘ ล้านบาท...
สะท้อนว่า การทุจริตคอร์รัปชั่นในประเทศไทยนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องเฉพาะนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง ยังเกี่ยวข้องกับนักการเมืองแต่งตั้งโดยอำนาจรัฐประหารด้วย เกี่ยวข้องกับผู้นำกองทัพ เกี่ยวข้องกับข้าราชการระดับสูงและผู้บริหารรัฐวิสาหกิจและบอร์ดรัฐวิสาหกิจอีกด้วย”
(ทั้งหมดนี่เป็นข่าวที่นำเสนอโดย นสพ. แนวหน้า http://www.naewna.com/local/253579 ให้ตายสิ สามปีมานี่เพิ่งเห็นทำหน้าที่สื่อตรงตามฐานันดรคราวนี้)
สำหรับผู้ที่ถูกพาดพิงในฝั่งพรรคการเมืองฝ่ายเพื่อไทย Watana Muangsook ชี้แจงผ่านเฟชบุ๊คเรื่อง “สินบนการบินไทย อีกที”
“ยังมีคอลัมน์นิสต์และสำนักข่าวแห่งหนึ่งพยายามโยงเรื่องให้มาเกี่ยวข้องกับพวกผมให้ได้ อ้างว่า ครม. เคยมีมติเมื่อ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๔๗ อนุมัติการจัดซื้อฝูงบินจำนวน ๑๔ ลำ ในวงเงินลงทุน ๙๖,๓๕๕ ล้านบาท นั้น...
(๒) ส่วนสินบนเป็นเรื่องที่การบินไทยสั่งซื้อเครื่องยนต์ไอพ่น ล็อต ๓ ของโรลส์รอยส์ และ (๓) แผนการที่จะซื้อเครื่องบินแบบใหน รุ่นอะไร จำนวนกี่ลำ และจะใช้เครื่องยนต์ของใครจึงจะเหมาะกับภารกิจและคุ้มค่าต่อการลงทุนมากที่สุด เป็นเรื่องทางเทคนิคที่การบินไทยพิจารณาเองมาโดยตลอด”
เคลียร์ไปหนึ่งพรรค ส่วนอีกพรรคที่จากโพลกรุงเทพฯ เดี๋ยวนี้เป็นที่นิยมอันดับสอง ติดชายเสื้อพระราชทานหัวหน้า คสช. ห่างๆ แถลงบ้าง
“นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แนะรัฐบาล ควรเข้าไปมีส่วนร่วมในการหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ...แม้ว่าบางคดีจะหมดอายุความไปแล้วก็ตาม”
ครั้นจะต้องตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับกรณีที่นายสุเทพ เมือกสุบรรณ เมื่อครั้งยังเป็นเลขธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในข่าวว่าเป็นคนหนึ่งในบรรดาผู้อยู่ในข่ายได้รับสินบนโรลสรอยซ์ นายองอาจกลับตอบเลี่ยงอย่างไม่เนียนว่า
“ส่วนตัวไม่รู้เรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง และยังไม่ได้คุยกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในยุคที่มีการพาดพิง เนื่องจากสุเทพไม่ได้สังกัดพรรคแล้ว”
(http://news.voicetv.co.th/thailand/454761.html)
ด้านนายสุเทพเองนั้นข่าวแจ้งว่าตอนนี้ขอไม่ชี้แจงอะไร แต่นายวีระ สมความคิด ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นหัวแรงร่วมงานทวงคืนเขาพระวิหารกับพรรคประชาธิปัตย์ จนตัวเองต้องไปติดคุกขี้ไก่ของเขมรอยู่นาน เดี่ยวนี้กลายเป็นนักรณรงค์ตัวยงต้านคอรัปชั่นในรัฐบาล คสช. ออกมาแจงเพิ่มเรื่องสินบนต่างชาติในปี ๕๖
ว่านอกเหนือจากบริษัทโรลสรอยซ์ของอังกฤษแล้วยังมีบริษัทเคเบิลของอเมริกันอีกด้วย เขาเผยว่าบริษัท Phelps Dodge International (Thailand) Ltd. หรือ PDTL
“ได้จ่ายเงินกว่า ๑.๕ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่ผู้กระจายสินค้าในไทยรายหนึ่งในช่วงปี ๒๐๑๒-๒๐๑๓ (พ.ศ.๒๕๕๕-๒๕๕๖) โดยทราบดีว่าเงินบางส่วนจะถูกนำไปใช้ในทางทุจริต เพื่อจำหน่ายสินค้าให้แก่รัฐวิสาหกิจไทย ๓ แห่ง ได้แก่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้านครหลวง และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)”
นายวีระยังให้ความเห็นที่อาจทำให้นายกฯ ผู้ได้รับความนิยมสูงโด่จากโพล ‘บ่จอย’ อีกว่า
“หน่วยงานปราบทุจริตของสหรัฐเขายืนยันว่าการทำเช่นนี้เป็นความผิดเป็นการทุจริต แต่หน่วยงานปราบทุจริตของไทยบอกไม่ผิดไม่ทุจริต
ถ้าด้วยมาตราฐานอย่างไทยๆ นี้ ทำให้ผมเริ่มมองเห็นผลการตรวจสอบของการบินไทยและ ปตท. แล้วว่าผลน่าจะออกมาเช่นใด”
(https://www.matichonweekly.com/hot-news/article_22174)