วันจันทร์, มกราคม 23, 2560

อีกรอบให้แก่ 'ไผ่ ดาวดิน' เมื่อ 'ก้อง ฤทธิ์ดี' เขียนถึงเขาใน Bangkok Post





อีกรอบให้แก่ 'ไผ่ ดาวดิน' เมื่อ 'ก้อง ฤทธิ์ดี' เขียนถึงเขาใน Bangkok Post

"ยืดอกเข้าไว้ ไผ่ ดาวดิน มันอาจทำให้คุณปลอดภัย"

(ถอดความจากข้อเขียนของ ก้อง ฤทธิ์ดี บรรณาธิการฝ่ายเรื่องชีวิต นสพ.บางกอกโพสต์ ฉบับวันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๖๐ ชื่อ ‘Grace May Just Save You, Pai Dao Din’)

คุณไผ่ ดาวดิน ที่รัก

ผมไม่ได้รู้จักคุณเป็นส่วนตัว แต่ผมจำได้เมื่อครั้งแรกที่ได้เห็นคุณ หลายเดือนหลังจากรัฐประหาร ๒๕๕๗ คุณและเพื่อนๆ บุกเข้าไปหน้าเวทีซึ่งนายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังกล่าวปาฐกถาที่ขอนแก่น สร้างการตลึงงันแก่ระเบียบการรักษาความปลอดภัย แล้วก็ชูสามนิ้ว ภาพนั้นร่อนไปทั่วโลก กลายเป็นสัญญลักษณ์แห่งวันเวลาของพวกเรา ท่านนายพลมองลงมาจากโพเดี้ยมด้วยอาการไม่เสบย ขณะที่กลุ่ม รปภ. ที่ยังงุนงงเข้าไปรายล้อมกลุ่มนักศึกษาซึ่งดูตระหนกเล็กน้อย แต่ก็ยังกระทำการต่อต้านไม่พรั่น

มันเป็นการต่อต้านที่ทำให้คุณ จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา กลายเป็นอะไรเฉกเช่นปรปักษ์ต่อรัฐ หรืออย่างน้อยก็เป็นหัวหน้าพวกก่อกวน ที่จะต้องถูกไล่ล่าและกำจัด ต้องจับเอาไปแขวนคอกลางสนามหลวงไม่ให้ใครเอาเยี่ยงอย่าง การขัดขืนของคุณถูกตีความว่าเป็นอาชญากรรม ในไม่ช้าครอบครัวของคุณจะต้องเทียวไปเทียวมากับสถานีตำรวจ โรงศาลและเรือนจำ ไปด้วยความหวังแต่กลับมาพร้อมด้วยน้ำตา สำหรับทางการนั้นเล่า ทุกก้าวที่คุณย่างกราย ทุกการประท้วงที่คุณได้ทำ ทุกรอยยิ้มหยันที่คุณไม่ได้แสร้ง พวกเขาจะเฝ้าจับตาคุณ ไม่ใช่ เอาใหม่ พวกเขาจะมา ‘เยี่ยม’ คุณ

(หมายเหตุ ช่วงท้ายของย่อหน้าข้างต้น ก้อง ผู้เขียนเลียนแบบเนื้อเพลง ‘I’ll be watching you’ ของ สติง/เดอะ โพลิช)

ดังนี้คุณจึงกำลังติดคุกอยู่ การยื่นประกันขอปล่อยตัวชั่วคราวถูกปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า ศาลสั่งฝากขังเพิ่มอีก ๑๒ วัน ทั้งหมดนี้มาจากความผิดเลส มาเจสตี โทษฐานแบ่งปันบทความออนไลน์ที่มีคนอีกกว่า ๒ พันทำเหมือนกัน แต่ว่าดูเหมือนหัวของคุณดูดีที่สุดสำหรับตัดไปวางบนถาดเงิน คุณคงจะต้องทำการสอบในเรือนจำ ตลกร้ายนะ มันเป็นวิชาคอมพิวเตอร์ที่ใช้ทักษะง่ายๆ กดไล้ท์กดแชร์ อันเป็นปฐมที่ทำให้คุณต้องเข้าไปอยู่ในคุก คุณควรจะสอบผ่านด้วยคะแนน เอ+ คุณเป็นนักศึกษากฎหมาย มันบ่งว่าคุณมีความศรัทธาต่อหลักกฎหมาย ทั้งในทางปฏิบัติและในผลกระทบต่อสังคม ทว่ามาในระยะหลังๆ นี่ บางคนชักไม่แน่ใจกันเสียแล้วว่าศรัทธาอย่างเดียวจะพอหรือ ในความทนทุกข์ทรมาน ในความมืดมิด ท่ามกลางความมัวมนของเดือนมกราคม ที่ซึ่งรัฐมีบัญชาว่าเก็บคุณไว้ในกรงเสียจะดีกว่า

ศาลบอกว่าคุณละเลยไม่ลบโพสต์ แล้วยังสร้างความปั่นป่วนให้กับสาธารณะต่อไป (ด้วยอะไรไม่รู้) เราฟังจากอัยการและผู้พิพากษา เราไม่สามารถทำความเข้าใจในความลึกลับที่คนๆ เดียวถูกหยิบออกมาจากผู้ร่วมแชร์ออนไลน์สองสามพัน เราร่วมประท้วงอย่างเงียบๆ หรือบางคนไม่ยอมเงียบด้วยการไปลงชื่อร่วมกับอีก ๔ พันคนเรียกร้องให้ปล่อยตัวคุณ สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนสหประชาชาติแถลงกระตุ้นให้ศาลอนุมัติประกันตัวคุณ แต่ก็แน่ละ ยูเอ็นไม่ใช่พ่อ แท้จริงแล้วสิ่งที่มีความหมายอยู่ที่ใครเป็นพ่อคุณนั่นละ ถ้าพ่อคุณเป็นมหาเศรษฐีพันล้าน คุรจะไม่เพียงได้ประกันตัวเท่านั้น คุณจะไม่ต้องเข้าคุกเลยทีเดียวแม้ว่าคุณจะถูกกล่าวหาว่าประกอบอาชญากรรมที่ร้ายแรงยิ่งกว่า อย่างเช่นขับรถเฟอรารี่ไล่ชนตำรวจ

ในดินแดนที่การฆาตกรรมให้อภัยกันได้ แต่การโพสต์เฟชบุ๊คกลับไม่ได้ ในบ้านเมืองที่ฆาตกรได้ประกันปล่อยตัวแต่ผู้ประท้วงไม่ได้ ประเด็นแห่งปัญหาไม่ได้อยู่ที่กฎบัตรกฎหมายหรือตุลาการ มันอยู่ที่มนุษยธรรม ขอแค่เรายังมีศรัทธาในสิ่งนี้จะได้ไหม

สิ่งที่ทำให้ผมทึ่งเกี่ยวกับตัวคุณอยู่ที่การขัดขืนของคุณมันเป็นธรรมชาติเหลือเกิน มันเตือนความทรงจำของพวกเราในสิ่งควรจะต้องทำ โดยไม่ต้องคำนึงว่าธรรมชาติของรัฐบาลเป็นแบบไหน มันไม่ใช่เรื่องความกล้าหาญ ซึ่งนั่นก็มีความสำคัญ แต่มันเกี่ยวกับการที่คุณรำลึกตัวตนของคุณในความเป็นพลเมืองที่รับผิดชอบต่อสังคมเปิด มีแต่คนโง่เท่านั้นยังคิดว่าคุณเป็นอสูรเขาบนหัวสีเขียวรับค่าจ้างจากจอมมารมาทำการบ่อนทำลายรัฐบาลทหาร ลืมกันเสียสิ้นแล้วถึงการประท้วงของคุณในช่วงหลายปีที่ทักษิณมีอำนาจ การเป็นกบฏโดยปราศจากที่มามันดูเก๋ไก๋ แต่กบฏผู้มีพันธะอาณัติอย่างคุณเป็นสายพันธุ์ที่สิ้นสลายไปจากโลกแล้ว มันหายาก ชนิดที่ถูกกำจัดออกไปจากดีเอ็นเอของสังคมไทยอย่างถอนรากตลอดช่วงเวลานับสิบๆ ปีของการสยบราบต่อความมั่งคั่งและชนชั้นผู้ดีกฎุมพี

เช่นนี้เรื่องที่มันกระแทกใส่ผมอย่างแรงอยู่ที่ระดับความเฉยชาของสังคมต่อคดีของคุณ ข่าวเกี่ยวกับการจับกุมและปฏิเสธให้ประกันคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่าแว่บผ่านจอทีวีอย่างสุดแสนย่นย่อ เหมือนกับว่ามันเป็นบางสิ่งอันน่าละอายที่จะมาพูดถกกันในรายละเอียด ประดุจดังมันเป็นฟุตโน้ตทางกาลเวลาที่ไม่มีความสลักสำคัญในยุคแห่งการปรองดอง ไม่ปรากฏความระห่ำเคืองแค้นและความเห็นอกเห็นใจก็มีเพียงน้อยนิด ลองคิดกันดูสิว่ามันจะเป็นอย่างไรถ้าสิ่งนี้เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผมว่าจะต้องมีคนจำนวนไม่น้อยเห็นว่าน่าสมน้ำหน้า ทศวรรษของการที่นักศึกษาหมกมุ่นในกิจกรรมเพื่อสังคมเป็นเรื่องที่เราได้ทราบจากการอ่าน ทำนองเดียวกับเรื่องการผจญภัยในทศวรรษ ๑๙๗๐ เป็นบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ควรเกิดซ้ำอีกในเวลานี้ เพราะคิดกันว่าเป็นการก่อกวนความสงบ ทำให้เศรษฐกิจปั่นป่วน ไม่มีสมานฉันท์ (ยกเว้นเมื่อสามปีที่แล้ว ซึ่งมีการประท้วงบนท้องถนนของกรุงเทพฯ ที่ ‘ต่างออกไป’ อีกแบบหนึ่ง)

ทนอีกหน่อยนะ คุณไผ่ที่รัก ขณะที่พวกเรากิน อ่าน เขียน และแสร้งทำเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างปกติไม่มีปัญหาอะไร ผมไม่เชื่อในการเป็นวีรบุรุษ แต่ผมเชื่อในความองอาจ นั่นละจะทำให้คุณปลอดภัย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท้ายที่สุดแล้วมันช่วยพวกเราด้วย

http://www.bangkokpost.com/…/grace-may-just-save-you-pai-da…





Grace may just save you, Pai Dao Din

21 Jan 2017 at 04:00

Dear Pai Dao Din,

I don't know you personally, but I remember the first time I saw you. Months after the 2014 coup, you and your friends gate-crashed PM Prayut Chan-o-cha's speech in Khon Kaen, surprising his security detail and raising the three-finger salute. The photograph went around the world, and it is symbolic of our times: the awkward general looking down from the stage as the stunned guards surround the students, who are slightly nervous but committed to their act of rebellion.

It would also become an act that marked you, Jatupat Boonpattararaksa, as something of an enemy of the state, or at least the nuisance-in-chief, to be hounded and persecuted, to be hanged in the town square as a warning. Your defiance would be defined as criminality. Your family would soon brace themselves for frequent trips to the police station, courthouse and jail, going in hope and leaving in tears. To the state, every step you take, every protest you make, every smile you don't fake, they'd be watching you. No, they'd be coming for you.

And so you're in jail now, bail repeatedly denied, detention extended for another 12 days, all for the lese majeste crime of sharing an online article that over 2,000 people also shared. Your head looks best on a silver platter, it seems. You'll probably have to take your exam in jail -- the subject is computers, ironically, the simple skill of clicking "share" has put you there in the first place. You should've passed that exam with an A+. You're a law student. It means you have faith in the law, in its practitioners, in its social implications. But lately some people are wondering if faith alone is enough -- in suffering, in darkness, in the gloom of January where the the state decides it's best to keep you behind bars.

The court says you've failed to delete the post and further incited the public (with what?). We listen to the prosecutors and the judges. We contemplate the mystery that one person alone was picked out from a few thousand online sharers. We protested silently, or not so silently when nearly 4,000 people signed a petition for your release. The Office of the United Nations High Commissioner for Human Rights has also urged the court to grant you bail. But of course the UN isn't our father. In fact, who your father is is all that matters: If your father was a billionaire you wouldn't only get bail, you would have avoided prison in the first place even if you'd allegedly committed a more serious crime, like mowing down a policeman with your Ferrari.

In a place where murder is excusable and a Facebook post is not, where killers get bail and protesters do not, the issue is no longer about legality or the judiciary. The issue is humanity. Can we at least still have faith in that?

What strikes me about you is how your act of defiance seems natural -- it reminds us that it's something we all should do, regardless of the nature of the government. It's not about courage, though that's important, but about how you regard yourself as a responsible citizen in an open society. Only fools still believe that you're a greenhorn malcontent on an evil payroll whose job is to rile up the military government, totally oblivious to your protests during the Shinawatra years. Rebels without a cause are cool. Rebels with a cause, like yourself, are an extinct species, a rare, foolhardy type driven out of Thai society's DNA through years of wealth and bourgeois submission.

So what strikes me more is the level of apathy society has accorded to your case. News about your arrest and repeated rejections for bail flash across the TV with startling brevity, as if it was something too embarrassing to scrutinise at length, as if it was an insignificant footnote in our time of "reconciliation". There was no outrage and not much sympathy -- just think about how outrageous this would have been had it happened in the Yingluck Shinawatra administration. I suspect a fair share of people even think you deserve it. The decade of student activism is something most of us have read about, something from the adventure story of the 1970s, something that shouldn't be repeated in real life now because it is a disruption of peace, economy and harmony (except three years ago on the street of Bangkok, a "different" protest).

Hang in there, dear Pai, while we work, eat, read, write and pretend everything is all right. I don't believe in heroes but I do believe in grace. That will save you, and hopefully us too in the end.

Kong Rithdee is Life Editor, Bangkok Post.