วันพุธ, มกราคม 04, 2560

อะไรคือลำดับความสำคัญของชาติ ?





โอว เพลงใหม่ single no.4 ของหัวหน้าวง คสช. ศิลปินหมู่ แต่งให้ ครม. ชุด ‘ตูบ ๔’ ปี ๖๐ ชื่อ ‘สะพาน’

ท่อนฮุก “ฉันพร้อมจะเป็นสะพาน เพื่อให้เธอข้ามไป ปลายทางที่ฝัน จะพาถึงฝั่งดั่งที่ตั้งใจ” ฟังแล้วสยิว

แต่มาสะดุดท่อนฮัก ตรงที่แย้มว่า “แล้วแผ่นดินที่งดงามจะกลับคืนมา” ตายห่ งั้นสองปีครึ่งกว่าๆ ที่ผ่านมาเนี่ยอัปลักษณ์เหรอเธอว์

มิน่า วาสนา นาน่วม อธิบายว่า “คาดมาจากเพลง ‘Bridge over troubled water’ เพลงโปรดของนายกฯ หวังเป็นสะพาน ก้าวข้ามสู่ฝัน” แบบว่า The Great Leap Forward ด้วยมั้ย

ก้าวไว ก้าวกระโดด ชนิด ทบ.รีบเคาะ ๒ พันกว่าล้านบาท ซื้อรถถังจีน ๔๙ คัน “ผูกพันงบประมาณ ๓ ปี”

“เนื่องจากรถถัง oplot จากประเทศยูเครน ที่ได้จัดหามา 49 คัน มีปัญหาเรื่องการส่งมอบ การส่งกำลังบำรุง และสายการผลิต”




พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. แจ้งให้ทราบเมื่อวันที่ ๒ มกราคม นี้ว่า “ที่ผ่านมากองทัพบกได้ลงนามซื้อรถถัง VT- 4 จากประเทศจีน ไปแล้ว ๒๘ คัน และจะจัดหาต่อในระยะสองจนครบ ๑ กองพัน (กองพันละ ๔๙ คัน) ในปีงบประมาณ ๒๕๖๐”

เลยมีคอมเม้นต์กันขรม (จากทางฝ่ายประชาธิปไตยนะ ด้านสลิ่มไม่รู้ว่าไง) เช่น Pipob Udomittipong แค่เบาะๆ ว่า “อันนี้ตลกมากเลย...ถลุงเงินเป็นอย่างเดียวหรือ”

เขาเล่าว่ารถถังยูเครน ๔๙ คัน น่ะซื้อตั้งแต่ปี ๕๔ ราคา ๗ พันกว่าล้าน ผ่านไป ๖ ปี ส่งมาได้แค่ ๑๐ คัน กลางปีที่แล้ว (๕๙) ทูตยูเครนรับปากจะส่งมอบที่เหลือ ๓๙ คันภายในเดือนมีนาคม ๖๐

มาปีนี้ ผบ.ทบ. แจงใหม่ว่า ไอ้ที่จะส่งมอบน่ะ ที่จริงเป็นเดือนตุลาคม ยืดไปอีก ๖ เดือน ครรลองเดียวกับเลือกตั้ง

(http://www.matichon.co.th/news/414634)

ส่วนทาง ดร.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ แฉว่าน่าจะเป็นเพราะอีกไม่กี่วันจะถึงวันเด็กแห่งชาติ ทบ. จึงต้องรีบจัดหา ‘ม้าเหล็ก’ ไว้สำหรับจัดงานให้เด็กขึ้นไปปีนป่ายเล่น

Pavin Chachavalpongpun, Kyoto, Japan :

“อะไรคือการจัดลำดับความสำคัญของชาติ ประชาชนจะอดตายเพราะเศรษฐกิจถดถอย สาธารณูปโภคพื้นฐานก็ห่วยแตก ต้องพึ่งรถตู้จนได้รับอุบัติเหตุไฟคลอกตาย แทนที่จะเอางบประมาณรัฐไปอุดรอยรั่วเหล่านี้ เสือกสั่งซื้อรถถังอีก 49 คัน สงครามก็ไม่มี ถึงมี ทหารไทยแม่งไม่เคยรบชนะ จะเก่งก็แต่ทำสงครามกับประชาชนมือเปล่าของตัวเองเท่านั้น”

ใช่สิ “อุบัติเหตุรถตู้โดยสารจันทบุรีไปกรุงเทพฯ (หมอชิต) ข้ามเลนไปชนกับรถกระบะจนเกิดไฟลุกไหม้และมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ถึง 25 คน”

จากนั้นกลายเป็นเรื่องใหญ่ชนิด ‘ควายหายแล้วถึงได้รีบล้อมคอก’ “บิ๊กเจี๊ยบ สั่งคสช.เข้มงวดจัดระเบียบความปลอดภัยรถตู้ หลังเกิดอุบัติเหตุ ย้ำเพิ่มมาตรการควบคุมตรวจสอบ โดยเฉพาะคนขับ...” (จากทวี้ต @WassanaNanuam)

ยังมาอีกเป็นระลอก “เป็นที่น่าสังเกตว่า คนขับรถตู้ต้องทำหน้าที่ขับรถตู้ 5 เที่ยว ในช่วงเวลา 31 ชม.เป็นอย่างน้อย ซึ่งน่าจะมีการพักผ่อนมากกว่านี้ และอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุรั้งนี้”

(http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1483415016)

อีกราย ‘ทีวี. ‏@m_arann’ จากทวิตภพ “คนเคยนั่งรถตู้คันนี้ เคยโพสเมื่อกลางปีที่แล้ว ว่ารถคันนี้ยางแตกและเบรคแตกมาสองรอบแล้ว สุดท้ายก็มาล่าสุด เชี้ยแม่ง”





ไม่เท่านั้น พิภพ พรหมเกศ ผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งโพสต์ว่า “ผมลงไปช่วยคนเจ็บ วิ่งไปขอสลิงกับเชือก รถคนที่จอดดูไม่มีคนสนใจ แม่งถ่ายแต่รูปถ่ายแต่คลิป ถ้าช่วยกันลากรถกระบะออกห่างจากรถตู้ คนที่ติดอยู่ในกระบะคงรอด”

(http://manager.co.th/HotShare/ViewNews.aspx…)

กระแสปวดใจย้อนกลับไปไกลลิบ ถึงเมื่อครั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนายหนึ่ง ‘หักดิบ’ โครงการรถไฟความเร็วสูงที่มีรัฐมนตรี ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นผู้กำกับดูแล ในรัฐบาลของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร





(ผู้ซึ่งโดน คสช. จองล้างจองผลาญไม่หยุดหย่อนกระทั่งบัดนี้ กระทั่งเมื่อวานนี้เองเธอและครอบครัวไปเที่ยวปีใหม่ อ.ปาย แม่ฮ่องสอน ก็ยังไม่วายถูกเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบกลุ่มใหญ่คอยติดตามรังควาญ สร้างความรำคาญจนต้องร่นเวลาหย่อนใจสั้นลง http://www.tv24.in.th/2017/01/blog-post_3.html)

ผู้คนจึงชวนกันทบทวนความจำเซ็งแซ่ดถึงคำพูดถ่วงความเจริญของ สุพจน์ ไข่มุกด์ ที่ คสช. ไว้วางใจให้ไปเป็นกรรมการร่างรัฐธรรมนูญในทีมของ มีชัย ฤชุพันธุ์

“ถนนลูกรังให้หมดไปจากประเทศไทยก่อน ก่อนที่จะไปคิดถึงระบบความเร็วสูง”





แล้วไง กระทั่งบัดนี้คนไทยที่ต้องเดินทางแข่งกับเวลาทำมาหากิน ก็ยังต้องนั่งรถตู้แออัด แถมสภาพรถบักโกรก จนเกิดอุบัติเหตุบ่อยๆ

แม้ คสช. จะอยากได้รถไฟเร็วสูงบ้าง สนนราคาก็ถีบขึ้นไปกว่า ๓.๓ ล้านล้าน เลยต้อง settled for less ลดเกรดไปเอารถไฟเร็วปานกลางของจีน ที่ผู้ขาย ‘ฟัน’ ครบวงจร

เหมาะเหม็ง คำขวัญวันเด็กปีนี้ควรที่จะเป็น “Don’t be an idiot” ว่าแมะ