วันจันทร์, สิงหาคม 15, 2559

เวรแท้... นี่ละหนาไตแลนเดียของเฮียบิ๊กๆ บูรพาพยัคฆ์ กำลังอยู่ในสภาพ 'Clueless' คว้าโน่นคลำนี่ กรณีระเบิด




ไหมล่ะ โอละพ่องดิ จับผิดตัวผู้ต้องหาเผาห้างโลตัสเมืองคอน แต่จนบัดนี้ก็ยังควบคุมตัวเขาอยู่ในค่ายทหาร
จะเรียกสันดอน สันขอน หรือสันขวานดี เพียงสงสัยเขาเพราะเป็นชาวสันกำแพงหรือเปล่าก็ไม่รู้
“มีพยานหลักฐานบางอย่างที่ยืนยันได้ว่า...ผู้ต้องสงสัยรายนี้น่าจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางเพลิงเผาห้างเทสโก้โลตัสนครศรีธรรมราช และน่าจะเป็นการจับผิดตัว จึงยังไม่สามารถรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับได้”
ลิ่วล้อ คสช. ใช้ ม.๔๔ พากันขึ้น ฮ. ไปจับกุมถึงท่าเจาะกลางทะเลอ่าวไทยขณะเขาทำงาน แล้วนำมาควบคุมตัวไว้ในกองบัญชาการที่ ๔๑ ค่ายวชิราวุธ กองทัพภาคที่ ๔ ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และกระทั่งวันที่ ๑๔ ส.ค.ก็ยังควบคุมตัวเขาไว้ที่ มทบ. ๔๑
ถึงกระนั้นทั่น ผบ.ตร. (จักรทิพย์ ชัยจินดา) ก็ยังฟันธงต่อ “เหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากเรื่องการเมืองภายในประเทศมากกว่าประเด็นอื่น” (มติชน)
ส่วนทั่นรองฯ พงศพัศ (พงษ์เจริญ) ขยายความว่าซีรี่ส์บึ้มครั้งนี้ล้วนเกี่ยวเนื่องร่วมกันทำ โดยมีผู้บงการคนเดียวกัน (นิวยอร์คไทมส์)



นิวยอร์คไทมส์ยังให้รายละเอียดเพิ่มเติมจากรองโฆษกตำรวจ (พล.ต.ต.ปิยะพันธุ์ ปิงเมือง) พูดไว้เมื่อวันศุกร์ ฟังแล้วระรื่นชื่นมื่น 
“ครั้งนี้ต่างกับการก่อการร้าย...ถ้าเป็นก่อการร้ายละก็ การข่าวของเราจะต้องบอกได้ว่ากลุ่มไหนเป็นคนทำ”
ทางด้าน คสช. ก็นั่งยันเช่นกันว่ามีพรรคการเมืองพัวพัน บางกอกโพสต์อ้างถึงการออกมาแถลงของนายนพดล ปัทมะว่าจะฟ้องร้องพวกที่กล่าวหาอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เกี่ยวข้อง ว่าเนื่องจากมีการเขียนโต้ตอบสนทนากันบนหน้าสื่อสารสังคมนับหมื่นๆ ว่าพรรคเพื่อไทยรู้เห็น
โฆษก คสช. (พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์) เผยว่าได้จับกุมผู้ต้องสงสัยไว้หนึ่งคน (ก็คนที่กำลังโอละพ่อง จะกลายเป็นแพะนั่นแหละ) กับมีการควบคุมตัวนักกิจกรรมเอาไว้ ๖ คน (พวกนี้อาจไม่ใช่แพะ แต่เป็นลูกแกะอยู่ในกำมือ)
รวมความตามจริงก็คือ คสช. และลิ่วล้อ ไม่รู้สีรู้สา ‘no clue’ กองทัพภาค ๗ ถึงกับประกาศให้รางวัล ๒ แสนบาทแก่ผู้ให้เบาะแสนำไปสู่การจับกุมคนร้ายตัวจริงได้ (ไทยพีบีเอส อิงลิช)
เมื่อคืนวานซืนขณะพวกไล่เบี้ยของ คสช. พยายามคลำโน่นคลำนี่ ก็มีบึ้มอีกหนที่ยะลา รูปโฉมโนมพรรณของระเบิดทำมือ สไตล์เดียวกันคล้ายคลึงกับที่ลั่นรัวๆ เหมือนจุดพลุวันเฉลิมฯ (อจ.ปวิน มีภาพให้ชม)



คืนเดียวกัน หมาต๋าภูเก็ตเพิ่งค้นเจอ “พบวัตถุต้องสงสัยซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายผ้าสีแดงภายในมีโทรศัพท์มือถือ พร้อมวงจรในสภาพทำงานไม่สมบูรณ์มีแค่รอยไหม้ของเชื้อปะทุ” สถานที่คือตลาดพาราไดซ์พลาซ่า ป่าตอง
“เบื้องต้นพบว่าคนร้ายได้นำระเบิดแสวงเครื่องไปใส่ไว้ในกระเป๋าสะพายที่แขวนขายไว้หน้าร้านขายกระเป๋า มีการตั้งเวลาให้ระเบิดทำงานในช่วง ๓ นาฬิกา ของคืนวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๙ ที่ผ่านมา แต่วงจรระเบิดทำงานไม่สมบูรณ์จึงไม่เกิดระเบิดขึ้น”
เสียท่าที่มันเกิด ด้าน ไม่งั้นตำหวดไตแลนเดียคงได้เบาะแสแต่ไก่โห่เช้าตรู่วันแม่โน่นแล้ว
ยังไม่ทันไร ความวัวยังไม่ทันหาย ความฟายเข้ามาแทรก เหตุเกิดที่ใต้สะพานข้ามแยกลำสาลี แบงค้อคไม่ต้องชัตดาวน์ 
“กรุงเทพมหานครกำลังปฎิบัติงานขุดลอกท่อเพื่อนำสิ่งปฎิกูลออก ซึ่งขณะที่ขุดอยู่นั้นเองพบวัตถุต้องสงสัยดังกล่าวคล้ายระเบิด...
วัตถุที่พบเป็นระเบิดชนิดขว้าง หรือ ระเบิดมิลส์ (Mills Bomb) หรือระเบิดลูกเกลี้ยง” 



หวาดเสียว เลยมีตะหานไปเดินผ่านศาลพระพรหมเอราวัณกันพรึ่บ คงจะกลัวซ้ำรอยเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งงานนั้นคนร้ายที่จับได้ไม่รู้เป็นแพะหรือแกะ เพราะคดียังไม่คืบไปถึงไหน แต่ผู้ถูกกล่าวหาถุกขังไปแล้วกว่าปี
โชคดีครั้งนี้ที่ลำสาลี “เจ้าหน้าที่ อีโอดี ยืนยันว่าสลักนิรภัยของระเบิดลูกดังกล่าวได้ถูกถอดไปแล้ว แต่ยังไม่ระเบิด ซึ่งอยู่ในสภาพที่เก่าและไม่สามารถใช้งานได้แล้ว คาดว่ามีการฝังดินไว้นานหลายปี” เฮ้อ โล่งใจ



นี่ละหนาไตแลนเดียของเฮียบิ๊กๆ บูรพาพยัคฆ์ ไล่จับคนวางละเบิดนี่ไม่ยักง่ายเหมือนเหมือนจับคนเขียนจดหมายวิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญ
เช้าวานนี้ (๑๕ ส.ค.) มีการนำตัวผู้ต้องหาคดีความมั่นคงชาวเชียงใหม่ กลุ่มนักการเมืองพรรคเพื่อไทย ๑๐ คน ใส่ชุดสีส้มไปศาลในโอกาสครบกำหนดฝากขังผลัดที่สอง เป็นวันที่ทนายพยายามจะยื่นประกันขอความกรุณาปล่อยตัวชั่วคราว
ข่าวว่าวงเงินประกันรายละ ๑ แสนบาท แต่เนื่องจากคดีนี้โดนยัดข้อหาก่อความไม่สงบ มาตรา ๑๑๖ กับเข้าข่ายอั้งยี่ซ่องโจร มาตรา ๒๑๐ ร้ายแรงทั้งนั้น คงจะไม่ได้ประกันทั้งทีม



นี่ขนาดทนายภาวนาแล้วว่า “การจะพิจารณาของศาลไม่น่าจะเกี่ยวกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ เพราะคดีนี้เป็นเรื่องแค่จดหมายฉบับเดียว และผู้ต้องหาก็อยู่ในเรือนจำ”
นั่นน่ะสิ ตลอดสองอาทิตย์คนเหล่านี้ติดคุกคุมเข้ม คงจะไปบงการอะไรไม่ได้ แล้วก็ลูกไล่ คสช. (สายตำรวจ) บอกชัดว่าคนบงการคนเดียว (ไม่ใช่สิบไง) ก็น่าจะปล่อยพวกเขาออกไปเตรียมตัวสู้คดี
แต่ก็อีกนั่นแหละ หวังอะไรไม่ได้กับระบบกฎหมายและการบังคับใช้ของ ‘เผด็จการ’