แต่ร่ายยาวว่าแท้จริงตนไม่ได้ผิด ทำนองว่า “เด็กมันให้ท่า” เอง อ้างหลักฐานรูปภาพต่างๆ นานา จึงต้องร้อนถึง ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค เขียนทวิตเตอร์แสดงความเห็นและบอกว่า จะเรียกประชุมคณะกรรมการบริหาร หารือกัน
ว่า ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ ส.ส.คนนั้นทำตามข้อแม้ของการคาดโทษไว้ และยังไม่ขับออกจากพรรคหรือไม่ หากกรรมการฯ เห็นว่าไม่ทำตามข้อตกลง ก็จะจัดประชุมใหญ่ทั้งกรรมการฯ และ ส.ส.พรรค เพื่อวินิจฉัยว่าควรให้พ้นจากพรรคไหม
ทวิตเตอร์ยาวเหยียด ๑๑ ข้อของหัวหน้า ‘ต๋อม’ เล่าละเอียดถึงหลักฐานพยานต่างๆ ที่คณะกรรมการวินัยพิจารณา ประเด็นหนึ่งเจ้าตัวอ้าง “ตนเองแตะเนื้อต้องตัวผู้อื่นเป็นประจำ การแตะเนื้อต้องตัวผู้เสียหายรายที่สามนั้นเป็นไปในฐานะเพื่อนร่วมงาน
ไม่ได้มีเจตนาหรือเป้าประสงค์ทางเพศ” อีกทั้ง “การล่วงเกินทางเพศต่อผู้เสียหายรายที่หนึ่งนั้น เกิดขึ้นโดยอีกฝ่ายไม่เคยแสดงอาการไม่ยินยอมใดๆ เลย” และกับผู้เสียหายรายที่สอง “นอกจากจะมีพฤติการณ์แตะเนื้อต้องตัวผู้เสียหายแล้ว”
ยังมีความพยายามชักชวนผู้เสียหายรายนี้ ไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกันสองต่อสอง “โดยไม่เกี่ยวข้องกับงานในความรับผิดชอบของผู้เสียหาย ซึ่งผู้เสียหายปฏิเสธทั้งสองครั้ง” ทั้งหมดนี่ทำให้สาธารณชนทราบว่า ‘ปูอัด’ ไม่ใช่ล่วงละเมิดต่อรายเดียว แต่นี่ถึงสามราย
โดยเฉพาะกรณีรายแรก ชัยธวัช วางหลักเกณฑ์ว่า แม้หลังจากมีการล่วงเกินทางเพศไปครั้งหนึ่งแล้ว ทั้งปูอัดและผู้เสียหายยังมีมิตรสัมพันธ์แก่กันต่อไป ทว่าฝ่ายหญิงไม่เคยยินยอมให้เกิดเพศสัมพันธ์อีกเลย การเป็นมิตรอาจจะเพื่อให้ได้ทำงานต่อไป
การที่พรรคก้าวไกลสามารถจัดการเรื่องเช่นนี้ ซึ่งหลายคนอาจเห็นคล้อยกับผู้ถูกกล่าวหาว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการปฏิบัติปกติ แต่ความเป็นจริงในเวลานี้ สมัยนี้ เรื่องปกติเปลี่ยนเป็นไม่ปกติได้ นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่ผู้ออกเสียงเลือก และสนับสนุนพรรคก้าวไกลต้องการ
(https://twitter.com/Chaithawat_MFP/status/1720395270662623392)
