พอนายกฯ ชีพจรลงเท้า พวกรัฐมนตรีก็ใช้ ‘วิชาตัวเบา’ ลอยตัวเหนือปัญหาในการบริหารราชการ หลังจากข่าวว่า “๒ สัปดาห์จากนี้ #นายกเศรษฐา จะเดินสาย ตจว.ยาวค่ะ
เริ่มวันนี้ที่ชายแดนใต้ ก่อนขึ้นไปงานลอยกระทงที่สุโขทัย” @jin_somroutai รายงานว่ากลับมาประชุม ครม.ในกรุงเทพฯ เสียหน่อยพรุ่งนี้ (๒๘ พ.ย.) จากนั้นไปโลดยาว มี #อุ๊งอิ๊ง แจมเป็นบางช่วง
สุดท้ายมี ครม.สัญจรที่หนองบัวลำภู แถมด้วยสัมนาพรรคเพื่อไทยที่หัวเมือง แต่วันสองวันนี้ปล่อยรัฐมนตรีว่าการเล่นเพลงตัวเอง รมว.พัฒนาสังคม วราวุธ ศิลปอาชา แก้ปัญหาขอทานยังเกลื่อนเมืองด้วยวาทกรรมสุดใจ
บอกว่า “ถ้าคนหยุดให้ (ทานกัน) ก็จบ” ด้าน รมว.ศึกษา พูดถึงปัญหาการศึกษาไทยต่ำเตี้ย เมื่อสิงคโปร์ได้รับยกย่องเป็นประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่ว เป็นอันดับ ๒ ของโลก
ก็เลยได้เห็นกันทั่วว่าประเทศไทยติดอันดับเกือบๆ บ๊วย ได้ลำดับ ๑๐๑ จาก ๑๑๓ ประเทศ กระทั่งเมียนมาร์และกัมพูชายังเหนือกว่า นายตำรวจจากพรรคภูมิใจไทย พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ บอกว่า
“เราจะไม่แข่งกับใครให้แข่งกับตัวเอง” เออว่ะ ง่ายดี แข่งกับตัวเองไม่มีแพ้ไม่มีชนะ ไม่ต้องทะเยอทะยาน ปล่อยไปตามยถากรรมน่ะสิ ส่วนว่าการกลาโหมของพรรคเพื่อไทยก็ยังจ๋อยๆ
ไม่ทราบว่า ‘บิ๊กทิน’ พ่องหย่าย จะรู้เรื่องนี้หรือไม่ ที่ทหารตรวจจับรถบรรทุกเล็ก ปิ๊กอัปลอบขนคนอพยพหลบเข้าเมือง ด้วยการใช้เหล็กแหลมแทงกระซวกเข้าไปในพืชผักบรรทุก “ถ้ามีคนข้างในรถจริงๆ แล้ว เหล็กที่เสียบไปทิ่มคนข้างใน” ไม่เหี้ย มไปหน่อยหรือ
ถ้าเกิด “บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจะทำยังไง” @Ninesomxxx ถามพร้อมแนะ “ทำไม งบฯ กองทัพเยอะแยะ ถึงไม่ซื่ออุปกรณ์ตรวจจับคนให้มันดีกว่านี้ พวกหุ่นยนต์กู้ภัยที่มีตัวจับสัญญาณชีพก็มี กล้องตรวจความร้อน คุณภาพสูง หรือว่าน้องหมาฝึกมาตรวจ” ก็ได้
นี่แหละรัฐบาลเศรษฐา เอาแต่ท่าหรูเก๋ไก๋ นัยว่าผ่านมาจะสามเดือนเป็นเพียงแค่ระยะประชาสัมพันธ์
(https://twitter.com/IamSasdha/status/1728719159822090612)