ที่ เศรษฐา ทวีสิน หลุดปากเรื่อง #ตั๋วเพื่อไทย ฝากผู้กำกับฯ ระหว่างการประชุม ส.ส.เพื่อไทยนั้น ไม่ใช่นายกฯ พูดถึงประเด็นอื่นแล้วสื่อเอาไปตีความผิดๆ แน่ๆ การมาแก้ตัวภายหลังว่า “ไม่ก้าวก่ายการโยกย้ายผู้กำกับฯ” ไม่ทำให้ความมัวหมองหมดไป
มัวหมองยังไง ต้องถาม รังสิมันต์ โรม ส.ส.ฝ่ายค้าน เขาบอกว่าอำนาจนายกฯ “คือการเสนอชื่อ ผบ.ตร.นู้นครับ การที่คุณเศรษฐาเข้าไปแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้าย รับฝากชื่อ ผกก.จาก สส.เพื่อไทย คือการทำผิดกฎหมาย เป็นการทุจริตคอรัปชั่น”
วิแคะโดยไม่ต้องเคาะง่ายๆ ในส่วนที่เศรษฐาหลุดออกไปเมื่อปาฐกถาพาดพิงถึงผู้กำกับการตำรวจ อาจเป็นความเคยชินกับธรรมเนียมปฏิบัติ อันผิดทั้งรัฐธรรมนูญและจริยธรรมนั้น พูดไปด้วยความรู้สึกว่าเป็นเรื่องธรรมดาของพวกอยู่ในอำนาจ
ดังที่รังสิมันต์จี้ “นี่ใช่มั้ยถึงไม่อยากใช้คำว่าปฏิรูป นี่ใช่มั้ยถึงไม่กล้ามาตอบกระทู้ในสภา” ทั้งที่เป็นการใช้เส้นสายเห็นๆ “รัฐบาลนี้เริ่มต้นไม่ทันไร ก็ทำให้ระบบเส้นสายเติบโตเสียแล้ว มันถึงไม่แปลกที่เราถึงได้เห็นองค์กรตำรวจเป็นแบบนี้”
เศรษฐาแก้ตัวว่า “สส.ก็ไม่เคยมาขอ การแต่งตั้ง ขรก.ตร.เป็นหน้าที่ สตช. พิจารณาตามผลงาน” ใช่ ตามที่รังสิมันต์ว่า “อำนาจในการแต่งตั้งผู้กำกับ เป็นอำนาจของผู้บัญชาการ ตาม ม.๖๖ พรบ.ตำรวจ และ ม.๖๘ ก็ให้อำนาจผู้การเสนอแนะการแต่งตั้ง”
เช่นนี้ “เรื่องนี้จะต้องตรวจสอบกันอย่างแน่นอน” ดังรังสิมันต์ว่า “เอาความจริงมาพูด ว่าตกลงฝากใครไปบ้าง ผู้กำกับคนไหนได้ตั๋ว สร.๑ (ตั๋วนายก) ได้ #ตั๋วเพื่อไทย” ถ้าฝ่ายค้านมีพลังพอเข็นไปถึงในสภาได้ และไปถึงการดำเนินการตามมาตรา ๑๘๕
แม้กระทั่งในขณะนี้ เศรษฐา ก็เสียความน่าเชื่อถือในฐานะนายกฯ ไปแล้วมากมาย ภาพจำครั้งที่ไปให้สัมภาษณ์ เคน นครินทร์ บก.บห.เดอะ แสตนดาร์ด ที่ฟันแสกหน้า “จะมีคำพูดอะไรจากนายกฯที่เราเชื่อถือได้บ้าง” จะผุดให้เห็นตลอดเวลา
และครั้งนี้ไม่เพียง “เศรษฐาพูดกลับไปกลับมา” ตามคอมเม้นต์ของ @tawanten แต่เป็นการละเลยเรื่องคุณธรรมของการเป็นผู้นำประเทศ คือการประพฤติซ้ำซาก ปากพล่อยแล้วมาแก้ตัวทีหลัง
ถ้าระบบการเมืองไทยเป็นประชาธิปไตยจริง นี่คือเหตุตัวตั้งของการยื่นญัตติไม่ไว้วางใจนายกฯ ในสภา
(https://twitter.com/tawanten/status/1727172092754583625, https://twitter.com/opol999/status/1727163773298032863 และ https://twitter.com/RangsimanRome/status/1727154747713757690)