เรื่องที่สายแบกขย่มกันใหญ่ขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็น “ขว้างงูไม่พ้นคอ” หรือ “ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง” ก็ตาม ส.ส.ก้าวไกล รังสิมันต์ โรม แนะให้ตรวจสอบหมดทั้ง (สอง) สภา ว่าเป็นโอกาสดีในการตรวจสอบนักการเมืองกันทั้งแผง
“เข้าใจว่าน่าจะมีหลายคนที่เอาคนในบ้านมาตั้งเป็นผู้ช่วย เป็นที่ปรึกษาอะไรต่างๆ” ดัง @pongpiya23 บอกไม่ใช่ตามกระแส “ยุคที่รัฐบาลตรวจสอบฝ่ายค้าน” เท่านั้น คนที่อธิบายประเด็นได้เข้าที เห็นจะเป็น Atukkit Sawangsuk
“คนที่โวยวายเข้าใจหรือเปล่า ผู้ช่วย สส.มีไว้ทำไม มีไว้เป็นผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญนักวิชาการหรือครับ” เขาย้อน “ผู้เชี่ยวชาญผู้ชำนาญการน่ะใช่ นั่นมีไว้ช่วยงานสภา งานกรรมาธิการ” ซึ่ง ส.ส.และ สว.มีทีมทำงานได้ ๘ คนเท่ากัน คือ ผู้เชี่ยวชาญ ๑ ผู้ชำนาญการ ๒ และ ผู้ช่วย ๕
“ผู้ช่วย สส. ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะ สส.เขต มีไว้ประสานงานในพื้นที่กับประชาชน กับราชการ ติดตามปัญหาต่างๆ ไปจนงานบวชงานศพ บางคนก็เป็นคนขับรถ แบบคนขับรถที่รู้ใจ รู้พื้นที่ รู้จักมวลชน...ลงพื้นที่พบปะชาวบ้าน ปรึกษาหารือกันระหว่างเดินทาง”
งานแบบนี้ผัวเมียสิรู้ใจที่สุด ประชาชนก็เชื่อถือ ไปแทนตัวได้ ไปงานบวชงานศพแทนก็เหมือนไปเอง” อีกทั้ง “เงินเดือน ๑๕,๐๐๐ ไม่คุ้มหรอก ผู้ช่วย สส.ทั่วไปก็ต้องควักเพิ่มให้กันทั้งนั้น...เป็นเรื่องงี่เง่าเบาปัญญาที่คิดว่า สส.เอาเงิน ๑๕,๐๐๐ ให้ผัวเมียแล้วนอนอยู่บ้าน”
แต่กรณีผู้ช่วย สว.มันต่างกัน “เพราะ สว.มันไม่ต้องลงพื้นที่...อาจมีบ้างที่ใช้ช่วยงานกฎหมายงานกรรมาธิการ แต่เมื่อเทียบกับ สส.ก็ทำงานน้อยมาก แทบจะตั้งมานั่งนอนกินเงินเดือน” เลยไปถึงกรณีหมอชลน่าน ว่าแต่เขาละสิ
“ตั้งเมียเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี เพราะที่ปรึกษารัฐมนตรีไม่ใช่ผู้ช่วยส่วนตัว ที่ปรึกษารัฐมนตรีควรจะเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ เช่นกระทรวงสาธารณสุขก็เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อดีตผู้บริหารที่เข้าใจระบบ” น้าถึกร่ายรัวเชียวละ
“แม้เมียชลน่านเป็นหมอ แต่ก็ไม่ใช่ผู้ทรงคุณวุฒิเฉพาะด้าน เป็นภริยารัฐมนตรีก็พอแล้ว น่าจะใหญ่กวาที่ปรึกษาอีก”