‘พ่องหย่าย‘ รมว.กลาโหม คุยเก่งหลังจากคุยเขื่อง เรื่องงานตะหาน ทั่นว่าปีนี้มีชายไทยสมัครเป็นทหารมากขึ้น ยังไม่รู้ตัวเลขยังไง ขอคุยไว้ก่อนเพราะ ไม่เหมือนอย่างเคย ที่ลงทะเบียนแล้วไม่ไปมอบตัว แถมเผยกำลังเจรจามหา’ลัย ทำเอ็มโอยูเรียนออนไลน์
นั่นคือความเก่ง ต่อนี้ไปทหารเกณฑ์ ๒ ปี ไม่เสียโอกาสชีวิต เพราะจะได้เรียนควบคู่ไป ได้จบพร้อมเพื่อนๆ ไอเดียใช้ได้ เอาอย่างทหารสมัครใจอเมริกัน แต่ที่นั่นเขาใช้วิธีจัดสอนวิชาสายอาชีวะควบไป ตามแต่จะเลือก จบแล้วลาออกไปทำงานเอกชนได้เลย
ส่วนความเขื่องก็ตอนที่ทำหน้าเย้ยหยันซัดฝ่ายค้าน เรื่องยุบ กอ.รมน. ว่า “คนที่ไม่ได้เป็นรัฐบาลก็พูดได้ทุกอย่าง” เมื่อมาเป็นแล้วจะเห็นว่าทำยากแค่ไหน (มิน่า ถึงโดนแซวว่ารัฐมนตรีเป็นลูกไล่แม่ทัพนายกอง) สุดท้ายถามย้อนแย้ง
“ถ้าเค้าเป็นแล้วจะกล้ายุบไหม” ฝ่ายค้านก็เลยตอบ น่านน่ะสิ “ยุบสภาสิครับ เดี๋ยวทำให้ดู” ว่ากลัวหัวหดอย่างทั่นไหม นั่นละ เอาข้อเท็จจริงมาเล่นดีกว่า เรื่องการตระบัดสัตย์ ที่มีนายแบกบางคนที่ทำตัวเป็นผู้ทรงภูมิพยายามบอก
ว่าไอ้ที่การให้คำสัญญาระหว่างหาเสียงแล้วไม่ทำเพราะถือเป็นเพียงโฆษณา เสร็จแล้วแล้วไป ที่ระดับหย่ายนพรรคยอมรับว่าเป็นการตระบัดสัตย์เพื่อให้ประเทศเดินต่อไปได้นั้น “เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตย”
ซึ่ง Thanapol Eawsakul ชี้ว่า “คุณคือผู้ต่ออายุให้ทหารมาครอบงำการเมืองไทย” ในเมื่อข้อตกลงระหว่างพรรคเพื่อไทยกับก้าวไกล (ฉบับที่สอง) เพื่อให้ร่วมกันสนับสนุน “วันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร
นั้นมีข้อสำคัญคือ การยุบ กอ.รมน.ตามข้อเสนอของพรรคก้าวไกลด้วย” อีกทั้งในรายละเอียดเอ็มโอยูรวมถึง “ให้ความเห็นชอบกฎหมายสําคัญเพื่อประชาชน ซึ่งรวมถึงการนิรโทษกรรมคดีแสดงออกทางการเมือง และการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปกองทัพ”
ฉะนี้ การฉีกเอ็มโอยูดังกล่าวแล้วตระบัดสัตย์ คือการยอมตัวเป็นลูกไล่ทหาร ถอยหลังลงคลองออกห่างไปจากฝั่ง ‘ประชาธิปไตย’
(https://thestandard.co/pheu-thai-mfp-agreement/ และ https://twitter.com/suthichai/status/1720256227022876783)