Poetry of Bitch
17h
·
สรุปผล 2 เคส #สสก้าวไกลคุกคามทางเพศ
—————
เคสแรก: สส.ปราจีนบุรี
:
1- น.ส.บี ร้องเรียนมายังพรรคก้าวไกลว่า ปลายปี 2564 เธอไปเป็นอาสาสมัครให้พรรคก้าวไกล ปราจีนบุรี ทำให้ได้รู้จักกับ “นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา” ซึ่งเป็นผู้สมัคร ส.ส.ปราจีนบุรีของพรรคก้าวไกล
2- ต้นปี 2565 ก่อนการเลือกตั้ง ทั้งคู่ได้ร่วมงานกันมากขึ้น บางครั้งนายวุฒิพงศ์ชวนเธอลงพื้นที่ด้วยกัน 2 คน เขาแต่งงานแล้วและมีลูก 2 คน แต่บอกเธอว่าแยกกันอยู่กับภรรยา แค่ทำธุรกิจด้วยกันเท่านั้น
3- เขาเริ่มชวนคุยเรื่องความรัก สเปกผู้ชายที่เธอชอบ การช่วยตัวเอง ต่อมาเริ่มทักแชตมาคุยเรื่องลามกอนาจาร ส่งภาพและคลิป 18+ ชวนเซ็กซ์โฟน ชวนมีความสัมพันธ์แบบ fwb ฯลฯ ซึ่งเธอตัดบทและปฏิเสธทั้งหมด
4- ต่อมาภรรยานายวุฒิพงศ์ (ซึ่งที่จริงยังอยู่ด้วยกัน) รู้เรื่องนี้ นายวุฒิพงศ์กลับอ้างว่า น.ส.บีมายั่วยวนเขาก่อนเพราะอยากเป็นเมียน้อย หลังจากนั้นเขาก็มักหาเรื่องตำหนิเธอในการทำงาน กระทั่งปลายปี 2565 ก็เลิกติดต่อกันไป
5- น.ส.บีได้แคปแชตสนทนาทั้งหมดกว่า 200 หน้า ส่งให้พรรคก้าวไกลเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2566 เรียกร้องให้ขับนายวุฒิพงศ์ออกจากพรรค
6- นายวุฒิพงศ์อัดคลิปแถลงว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนเขาเป็น สส. มีคนจ้องจะดิสเครดิตทำลายชื่อเสียงเขา เพราะเขากำลังตรวจสอบเรื่องราวหลายอย่างในปราจีนบุรี
—————
เคสที่ 2: สส.กรุงเทพฯ
:
7- เคสนี้มีผู้เสียหาย 3 ราย ทั้งสามเป็นทีมงานของพรรคก้าวไกล ส่วนคนที่ถูกกล่าวหาคือ “นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์” หรือ สส.ปูอัด เป็น สส.กทม. เขตจอมทอง-ธนบุรี
น.ส.หนึ่ง เล่าว่าทำงานกับ สส.ปูอัดมานานหลายปี พฤติกรรมของเขาคือ ตีสนิท ทำให้เชื่อใจ แล้วฉวยโอกาสแตะเนื้อต้องตัว ตอนแรกเธอคิดว่าเขาเอ็นดูในฐานะเด็กคนหนึ่ง แต่ต่อมาเขาชวนไปเที่ยวกลางคืนและชักชวนให้ดื่ม พอเธอไม่มีสติก็ถูกล่วงละเมิด หลังจากวันนั้นเขายังมาขอมีเพศสัมพันธ์อีกหลายครั้ง แต่เธอปฏิเสธ ตอนแรกเธอไม่กล้าบอกใคร เพราะกลัวกระทบต่อหน้าที่การงาน ต่อมาพบว่าอีก 2 คนในทีมก็โดนด้วย จึงพากันไปแจ้งพรรค
น.ส.สอง เข้าไปช่วยงานพรรคในช่วงหาเสียง หลังชนะเลือกตั้ง สส.ปูอัดชวนไปทำงานด้วยในฐานะผู้ช่วย สส. พอสนิทกันก็เริ่มรู้สึกว่าเขามีพฤติกรรมคุกคามทางเพศ เช่น ชอบแตะเนื้อต้องตัว จับแขน จับหัว จับไหล่ ทำทีเป็นนวดให้ และชวนไปไหนมาไหนสองต่อสอง ตอนแรกเธอนึกว่าตัวเองคิดไปเอง แต่ต่อมาพบว่าเขาทำแบบนี้กับน้องในทีมอีก 2 คน จึงตัดสินใจลาออกแล้วไปแจ้งพรรค
น.ส.สาม เข้ามาทำงานได้ 1 เดือนเศษจากการชักชวนของ สส.ปูอัด เธอเริ่มรู้สึกผิดปกติเพราะ สส.จี้ถามตลอดว่ามีแฟนหรือยัง พอบอกว่ามีคนคุยอยู่ เขาก็พูดว่า “แสดงว่ายังโสดอยู่สิ” บางครั้งเขาถึงเนื้อถึงตัวและชวนไปไหนมาไหน ตอนแรกเธอไม่ได้คิดอะไรมาก ต่อมาอีก 2 คนในทีมเล่าให้ฟังว่าโดนอะไรมาบ้าง จึงรวมตัวกันไปแจ้งพรรค
8- น.ส.หนึ่งบอกว่า พอเรื่องไปถึงคณะกรรมการวินัยพรรค สส.ปูอัดก็โทรมาขอโทษและร้องไห้ เขาขอให้เธอช่วยบอกคณะกรรมการฯ ว่าอย่าลงโทษรุนแรง เพราะยังอยากทำงานในพื้นที่ต่อ และเตี๊ยมให้เธอบอกว่าเป็นการสมยอมจากทั้งสองฝ่าย
9- หลังหายหน้าหายตาไปหลายวัน สส.ปูอัดก็ออกมาโค้งขอโทษต่อหน้าสื่อ อ้างว่าที่เงียบไปเพราะกลัวพูดอะไรออกไปจะกระทบทีมงานและพรรค ยืนยันว่าตนไม่ได้ทำอย่างที่ถูกกล่าวหา และขอเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบโดย กกต. หาก กกต.วินิจฉัยว่าผิดก็พร้อมลาออก
—————
ผลการพิจารณา / ผลการลงมติ
:
10- เมื่อวานนี้ (1 พ.ย. 66) พรรคก้าวไกลประชุมนาน 6 ชม. เพื่อหาข้อสรุปของ 2 เคสนี้ ก่อนลงความเห็นว่าทั้ง 2 กรณีมีความผิดจริง ถือว่าขัดต่อวินัยของพรรคขั้นร้ายแรง ขัดต่ออุดมการณ์และคุณค่าของพรรค
11- ผลการลงมติ
กรณี สส.วุฒิพงศ์ ให้ขับออกจากพรรคด้วยมติ 120 เสียง จากผู้เข้าประชุมทั้งหมด 128 คน
กรณี สส.ปูอัด เสียงส่วนใหญ่ (106 เสียง) โหวตให้ขับออกจากพรรค แต่เสียงไม่ถึง 3 ใน 4 จึงขับไม่ได้** จึงให้ตัดสิทธิ์ทั้งหมดและคาดโทษไว้ แล้วให้ออกมายอมรับผิด ขอโทษสังคมและผู้เสียหาย รวมทั้งชดเชยเยียวยาผู้เสียหาย ถ้าไม่ทำจะดำเนินการอื่น ๆ ต่อไป
** รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่า การจะมีมติให้พ้นจากสมาชิกพรรคต้องใช้คะแนนเสียง 3 ใน 4 ของ สส.และกรรมการบริหารพรรค
—————
เสียงสะท้อน
:
12- หลังมติพรรคก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายจากหลายฝ่าย ทั้งจากคนในพรรคเองและจากสังคม เช่น
สส.และ สก.หญิงในพรรคก้าวไกลหลายคนพร้อมใจกันเปลี่ยนรูปโปรไฟล์เป็นสีดำ เช่น ทนายแจม ศศินันท์ นอกจากนี้ทนายแจมยังโพสต์ข้อความว่า “เมาไม่ใช่ consent” **
** consent หมายถึง การยินยอมพร้อมใจ
สก.บางซื่อ “เนอส ภัทราภรณ์” โพสต์ข้อความว่า “หน้าด้าน ไม่มีความละอายแก่ใจ เป็นคนให้ได้ก่อนค่อยเป็นผู้แทนประชาชน” พร้อมแท็ก สส.ปูอัด
คนมองว่า พรรคสอบสวนแล้วว่าทั้งสองคนผิดจริง แต่ทำไมมีแค่คนเดียวที่โดนขับ หรือว่าพรรคที่ชูการเมืองใหม่ก็มีระบบอุปถัมป์-วัฒนธรรมอุ้มชูพวกพ้อง
บางคนบอกว่าผิดหวังกับพรรคก้าวไกล เห็นได้ว่า สส.ปูอัดไม่ได้สำนึกเลย ยังออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ ทั้งที่พรรคสอบสวนแล้ว เหมือนเหยื่อถูกกระทำซ้ำอีกรอบ
มีเสียงเรียกร้องให้พรรคก้าวไกลเปิดชื่อ 22 คนที่โหวตอุ้ม สส.ปูอัดว่ามีใครบ้าง รวมทั้งคนที่ไม่เข้าประชุม
หลายเสียงเรียกร้องให้ สส.ปูอัดพิจารณาตัวเอง แสดงสปิริตด้วยการลาออก หากมั่นใจว่าไม่ผิด พิสูจน์ตัวเองได้แล้วค่อยกลับมาก็ยังไม่สาย
แทนที่พรรคจะได้ทำงาน กลับต้องมาตามแก้ปัญหาเรื่อง ค.ว.ย. ๆ ช่วยออกแบบระบบคัดกรองคนให้มีประสิทธิภาพกว่านี้หน่อย อย่าเอาตัวอะไรก็ไม่รู้มาให้ประชาชนเลือก
อ.ปิยบุตรมองว่า การใช้อำนาจ-ตำแหน่งมาจูงใจล่อลวงในเรื่องทางเพศเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ หากก้าวไกลต้องการยกระดับเรื่องนี้ก็ต้องการป้องกัน-ต่อต้านการคุกคามทางเพศในองค์กรให้ได้ตามที่โฆษณา ส่วน สส.ที่ถูกกล่าวหาก็ต้องรู้จักมาตรฐานการเมืองใหม่ รู้จักรับผิดชอบต่อผู้เสียหาย ต่อพรรค ต่อเพื่อน สส. ต่อผู้สนับสนุนพรรค และต่อสังคม โดยไม่ต้องรอให้พรรคมีมติ
เช่นเดียวกับ ช่อ พรรณิการ์ ที่โพสต์เรียกร้องให้ สส.ปูอัดลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชน ส่วน สส.วิโรจน์ ลักขณาอดิศร โพสต์รูปจอดำ
มีคนตั้งข้อสังเกตว่าเห็นไอติม พริษฐ์ สนิทกับ สส.ปูอัด เลยสงสัยว่าไอติมเป็นหนึ่งในคนที่โหวตอุ้มปูอัดหรือเปล่า ไอติมออกมายืนยันทันทีว่าเขาเป็น 1 ใน 106 เสียงที่โหวตให้ขับปูอัดออกจากพรรค และเขาตัดสินใจบนหลักการ ไม่ใช่ความสัมพันธ์ส่วนตัว
—————
ขอบคุณบทสัมภาษณ์ 3 ผู้เสียหายเคส สส.ปูอัด จากเนชั่นทีวี (ข้อ 7-8)