เป็นไปตามที่จำเลยคาดหมาย คดี #อานนท์ นำภา ปราศรัยใน #ม็อบ 14 ตุลา 63 ศาลอาญาพิพากษาว่าผิด ๒ กระทง คือ ตามประมวลอาญา ม.๑๑๒ และ พรก.ฉุกเฉิน ลงโทษจำคุก ๔ ปี ปรับอีก ๒ หมื่นบาท โดยไม่รอลงอาญา
“ขณะนี้อยู่ระหว่างประกันตัวในชั้นอุทธรณ์” TLHR / ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน แจ้งข่าววันนี้ (๒๖ กันยา) ส่วนข้อหาอื่นๆ อีก ๗ กระทง ศาลยกฟ้องปัดทิ้งไป สำหรับสองกระทงของแท้แน่นอน เจ้าตัวบอกไว้ล่วงหน้าแล้วเป็นอาทิตย์
ถึงขนาดมีการไป “ดื่มส่งอานนท์เข้าเรือนจำ” กันเมื่อคืนวันจันทร์ เพื่อแสดงเจตจำนงให้สาธารณชนรับรู้และไปถึงหูผู้พิพากษาว่า ตามข้อบังคับประธานศาลฎีกาฯ ข้อ ๒๔ และ ๒๕ “สมควรสั่งคำร้องขอปล่อยชั่วคราว...ระหว่างการใช้สิทธิ์ต่อสู้คดีที่ยังไม่สิ้นสุดถึงชั้นฎีกา”
ทำไมอานนท์ถึงได้ทายถูกว่าต้องโดนโทษคุกแน่ๆ เขาพูดไว้เอง “การออกมาเคลื่อนไหวเช่นนี้มีราคาที่ต้องจ่าย แต่ก็คุ้มค่าแล้วที่การชุมนุมของผมไม่พาใครไปตาย” ในการชุมนุมครั้งนั้นที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เขาประกาศ ๓ ข้อเรียกร้อง
คือ ๑.ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ๒.ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และ ๓.ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ท่ามกลางผู้เข้าร่วมชุมนุมกว่า ๖ พันคน ตำรวจแจ้งให้ยุติการชุมนุมเนื่องจากไม่ได้ขออนุญาตล่วงหน้า และไม่อยู่ในกรอบกฎหมาย
นั่นทำให้มีความผิดตาม พรบ.การชุมนุม และ พรก.ฉุกเฉิน แต่ความผิดฐาน “หมิ่นประมาทกษัตริย์” นั้นมาจากเนื้อถ้อยคำปราศรัยของอานนท์บางตอน ที่อัยการคัดเอามาประกอบคำฟ้อง ได้แก่ “ข้อที่ ๓ มาเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์...
ถ้ามีการสลายการชุมนุมวันนี้ คนที่จะสั่งสลายการชุมนุมมีเพียงคนเดียว คือในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ถ้ามีการสลายการชุมนุม ไม่ต้องไปหาคนอื่นใด” คำปราศรัยอย่างเดียวกันนี้อัยการใช้กล่าวหาว่ามีการพูดอย่างน้อย ๓ ครั้ง “ไม่ใช่การแสดงความคิดเห็นและติชมโดยสุจริต”
รวมทั้งข้อหาสัพเพเหระ เช่น กีดขวางการจราจร ใช้เครื่องขยายเสียงโยม่ได้รับอนุญาต อีกทั้งชักนำผู้ร่วมชุมนุมเคลื่อนที่ไปยังทำเนียบรัฐบาล
(https://tlhr2014.com/archives/59835d=IwAR2j4 และ https://www.facebook.com/metha.matkhao/posts/7TNustf32X)