สมบัติ บุญงามอนงค์
17h·
ในบรรดาแกนนำการชุมนุมปี 63 หรือม๊อบราษฏร คนที่มีประสบการณ์ทางการเมืองมากที่สุดผมนับให้ทนาย อานนท์ นำภา เขาผ่านการต่อสู้ตั้งแต่รัฐประหาร 19กย49 เหตุการณ์เสื้อแดง 52-53 รัฐประหาร 57 และต่อเนื่องจนปัจจุบันนี้
ในขณะที่การเคลื่อนไหวพักยก อานนท์คือคนที่ตามไปเกาะติดชีวิตของนักโทษการเมือง ไปคลุกคลีไม่เฉพาะเรื่องคดีที่เขาเป็นทนายความในคดีการเมือง แต่เป็นการโดดเข้าไปในชีวิตและความนึกคิดของนักโทษการเมืองเหล่านั้น
ตอนที่ผมถูกทหารจับกุมตัวอานนท์คือ 1 ในทีมทนายความของผม วันหนึ่งอานนท์ถามผมว่าช่วงหลังๆนี้ ผมเคลื่อนไหวการเมืองอ่อนลงมาก แน่นอนว่าวินาทีนั้นผมย่อมเข้าใจความคิดและความคาดหวังที่เขามีต่อผม และผมยอมรับว่าผมเคลื่อนไหวเบาลง ระมัดระวังตัวมากขึ้น การถูกคดีความมั่นคงทั้ง 112 116 และถูกอายัดบัญชี ถูกติดตาม ถูกเรียกไปปรับทัศนคติในค่ายทหารหลายครั้ง ทำให้ผมทบทวนการเคลื่อนไหวของตนเองอย่างจริงจัง
แล้ววันหนึ่งทนายความที่คอยเก็บคอยแก้ปัญหาอยู่ข้างหลังก็ไปยืนอยู่บนเวทีการต่อสู้ที่แหลมคมที่สุดครั้งหนึ่งในการเมืองไทย ม๊อบแฮรี่ พอตเตอร์ ที่อานนท์อาสาเป็นคนเปิดประเด็นเรื่องการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ทำให้เพดานทางการเมืองถูกขยับ ผมฟังสิ่งที่อานนท์ปราศัยอย่างตั้งใจและแอบเป็นห่วงว่าเขาจะรักษาแนวเนื้อหาอย่างไรเพื่อไม่ให้ทนายที่คล่ำหวอดกับคดี ม.112 โดนคดีเสียเอง
อานนท์ นำภา เป็นคนที่ผมมั่นใจว่าทุกย่างก้าวของเขาได้ประเมินความเสี่ยงและเดินเข้าสู่พื้นที่ Red Zone อย่างเข้าใจและยอมรับผลหรือค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นกับตนเอง ไม่มีการโอดครวญ
สำหรับผมแล้วอานนท์ นำภา เป็นคนที่ผมนับถือที่สุดคนหนึ่งในการต่อสู้รอบนี้ เป็นคนที่กล้าหาญและมีสติ สุภาพและยึดถือหลักการ
ถ้าเขาติดคุก สิ่งหนึ่งที่ผมจะทำคือ เอารูปของเขาใส่กรอบและติดไว้ที่บ้านหรือห้องทำงาน เพื่อเป็นการเตือนใจว่า นักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่ผมนับถือได้รับเกียรติขึ้นไปอยู่บนฝาผนัง