วันพุธ, กันยายน 20, 2566
ครูมานิตย์ เตือน ขับหมออ๋อง รักษาเก้าอี้ รอง ปธ.สภา ไม่สง่างาม
https://www.facebook.com/MatichonOnline/videos/1305119196781874
‘ครูมานิตย์’ ชี้ขับ ‘หมออ๋อง’ ออกจากพรรค เป็นการฆ่านักการเมือง ชี้เลี่ยงบาลี ไปพรรค ปธ. ต้องพิจารณาจริยธรรม
เมื่อวันที่ 18 กันยายน ที่รัฐสภา นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภา คนที่ 1 ที่อาจถูกขับออกจากพรรคก้าวไกล เพื่อรักษาตำแหน่งรองประธานสภาว่า ได้ติดตามข่าวอยู่ แต่ถ้าตนเป็นนายปดิพัทธ์ ในที่สุดวันนี้คงเป็นมติพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ถ้าขับนายปดิพัทธ์ออกมาเพื่อให้อยู่พรรคเป็นธรรม (ปธ.) มันยิ่งกว่าละคร และคิดว่าในอนาคตนายปดิพัทธ์จะเหนื่อยในเวทีการเมืองต่อไป เนื่องจากเป็นรองประธานสภาที่ถูกขับออกจากพรรคหนึ่ง และมานั่งเป็นรองประธานสภาอยู่บนเวทีใหญ่ ขณะที่ตนเป็นบุคคลที่โหวตให้นายปดิพัทธ์คนหนึ่ง ซึ่งตนได้โหวตให้หนึ่งคะแนนเช่นกัน วันนี้หากถูกขับออกจากพรรคแล้วมานั่งบนบัลลังก์ ความสง่างามจะมีหรือไม่ คำว่า “โดนขับ” นั้นเสียศักดิ์ศรี เสียเกียรติคุณ ไม่อยากให้พรรคก้าวไกลเล่นกติกาแบบนี้ เนื่องจากจะเสียภาพลักษณ์ในโอกาสที่พรรคก้าวไกลกำลังเดินไปอีกวิถีทางหนึ่งในประเทศไทย จะเกิดความเสียหายต่อพรรคก้าวไกล และบุคลากร
ถามว่าการที่พรรคการเมืองจะขับ ส.ส.ออกต้องมีมูลเหตุหรือแรงจูงใจอะไรหรือไม่ นายครูมานิตย์กล่าวว่า มันต้องขัดมติพรรคอย่างรุนแรง เช่น อภิปรายไม่ไว้วางใจ การโดนขับออกเป็นการทำบาปต่อนักการเมืองอย่างหนึ่ง ถือเป็นการฆ่านักการเมือง ถ้าตนโดนขับออกจากพรรคเพื่อไทยนั้น จะเลิกเล่นการเมืองเลย การขับออกต้องไปดูกติกาที่พรรคนั้นๆ เขียน ฝากไปยังผู้มีอำนาจที่อยู่เบื้องหลังพรรคก้าวไกล อย่าไปทำบาปกับอนาคตของน้องๆ พรรคก้าวไกลเลย ขอให้อดทน และอย่าฆ่าตัวตายวันนี้เลย
เมื่อถามว่าในประเด็นที่ตั้งข้อสังเกตคือทางพรรคก้าวไกลขอให้นายปดิพัทธ์ลาออก แต่ถ้าไม่ลาออกจะขอให้ขับออก เหล่านี้ เป็นเหตุผลที่เพียงพอหรือไม่ นายครูมานิตย์กล่าวว่า ถ้านายปดิพัทธ์ไม่ยอมลาออก จะขัดต่อรัฐธรรมนูญที่เขียนไว้ชัดเจนว่า พรรคการเมืองที่มีผู้นำฝ่ายค้าน จะมานั่งเป็นประธานสภาและรองประธานสภาไม่ได้ ถือว่าหนักเข้าไปอีก
นายครูมานิตย์กล่าวต่อว่า อย่าลืมว่าการที่นายปดิพัทธ์ได้เป็นรองประธานสภาคนที่หนึ่ง ก็มาจากพรรคเพื่อไทย 141 คนที่โหวตให้ แล้วในวันนี้นายปดิพัทธ์จะเลี่ยงบาลีไปอยู่พรรคเป็นธรรมที่มีอยู่สองคน แล้วขึ้นมานั่งเป็นรองประธานสภา ซึ่งก็ต้องมีเรื่องจริยธรรมที่ต้องว่ากันต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่านายปดิพัทธ์อาจจะไม่ได้รับการยอมรับจากในที่ประชุมหรือไม่ นายครูมานิตย์กล่าวว่า อย่างน้อยๆ ตนรับไม่ได้ ตนเคยคุยกับนายปดิพัทธ์ส่วนตัวว่า นายปดิพัทธ์ทำหน้าที่รองประธานสภาได้ดีพอสมควร แม้จะไม่มีประสบการณ์ในสภามามาก การที่นายปดิพัทธ์ได้ขึ้นเป็นรองประธานสภาคนที่หนึ่ง ตนได้เป็นคนเลือกมาด้วย เพราะฉะนั้นต้องรักษาเกียรติคุณของคนเลือกด้วย ต้องคิดให้หนัก
เมื่อถามว่า ตอนนี้แบ่งกรรมาธิการลงตัวแล้วหรือยัง นายครูมานิตย์กล่าวว่า ยังไม่จบ แต่คาดว่าจะจบลงด้วยดี ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหญ่เรื่องโตอย่าไปกังวลมาก ทุกอย่างที่เราคิด อย่าคิดว่าอะไรที่ต้องการแล้วจะได้ทั้งหมด และคาดว่าเรื่องกรรมาธิการจะจบภายในสัปดาห์นี้ ถ้าไม่จบก็จะจับฉลากเหมือนที่นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาคนที่สอง ที่เคยกล่าวไว้ หากยังจับฉลากไม่ได้อีก ให้โหวตไปเลย โดยงดใช้ข้อบังคับ ซึ่งตนคิดว่าเรื่องนี้น่าจะจบกันด้วยดี
เมื่อถามว่า ที่ประชุมในวันนี้จะมีการพูดคุยเรื่องกรรมาธิการหรือไม่ นายครูมานิตย์กล่าวว่า ไม่น่าจะคุยกันถึงขั้นนั้น เนื่องจากเรื่องกรรมาธิการเป็นเรื่องของแต่ละพรรค ซึ่งปัญหาที่มีคือพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ต่างคนก็ได้ 10 เสียง และพรรคก้าวไกลได้เพิ่มมาอีก 1 เป็น 11 เสียง ตนเห็นว่าน้องๆ พรรคก้าวไกลยังมีแผลเก่ามาคุยก็อาจจะจบยาก
ที่มา
ครูมานิตย์ ชี้ ขับ ‘หมออ๋อง’ ออก เป็นการฆ่านักการเมือง ชี้เลี่ยงบาลีไปเป็นธรรม ต้องพิจารณาจริยธรรม
มติชนออนไลน์
18 กันยายน 2566