มีคนเรียกคุณเศรษฐาว่า ‘นายกฯ คอลเซ็นเตอร์’ เขาจะหมายความอย่างไร ไม่ต้องใส่ใจก็ได้ คนระดับนี้ที่มีเรื่องให้พูดถึงทุกวันทั้งที่ชื่นชม และที่ยังไม่สามารถสยบเสียง ‘ยี้’ ว่าส้มหล่นแล้วมือใหม่หัดขับมาแรมเดือนนั้น
ต้องย้อนไปฟัง ‘หมอมิ้ง’ พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช สาย ‘แบก’ ทางการว่าอย่างไร “ผลงาน ๑๐ วัน นึกว่าทำงานมาแล้ว ๓ ปี” ฟังแล้วก็ดีอยู่หรอก ถ้าเขาไม่ตีความย้อนศร ว่าถ้าทำงาน ๓ ปีแล้วยังไม่ได้เห็นผลอะไร ดีแต่ลงมือโน่นนี่ละก็ ตายห่
ล่าสุดผลงานอันเป็นประจักษ์ ประกาศมอบรายได้จากรัฐของตน ทั้งเงินเดือนค่าตอบแทน ๗๕,๕๙๐ บาท และ เงินประจำตำแหน่ง ๕ หมื่นบาท กับเบี้ยประชุมทุกๆ อย่างจากสองตำแหน่ง นายกฯ และ รมว.คลัง รวมยอดเดือนละ ๑๒๕,๕๙๐ บาท
บริจาคหมดให้มูลนิธิต่างๆ เริ่มที่ ‘มูลนิธิเด็ก’ โดยบอกว่า “อย่าไปคิดอะไรมาก...ไม่ใช่การไปกดดันรัฐมนตรีคนอื่นให้ต้องทำตาม เพราะบางคนก็มีความจำเป็นส่วนตัว เรื่องนี้แล้วแต่ความสมัครใจ” ที่จริงไม่ต้องพูดอะไรพาดพิงก็ได้ แต่ว่าอยากบอก
“เป็นความประสงค์ที่ทำอยู่มาก่อนเป็นนายกฯ อยู่แล้ว...จะพยายามทำต่อไป...ไม่อยากพูดเยอะเดี๋ยวจะหาว่าอย่างนั้นอย่างนี้ ปล่อยเงียบไปจะดีกว่า” แต่ว่ามันดังโฉ่งฉ่างซะแล้วอะ ขณะมีคนที่ปักหลักวิจารณ์ เนื่องเพราะอ้างว่าที่ติติงและกระตุกไว้ ยังไม่ตอบให้กระจ่าง
Sirikanya Tansakun @SirikanyaTansa1 ยังคงยืนกรานถึง “ประมาณการรายได้ปี ๖๗ ที่เพิ่ม ๓๐,๐๐๐ ล้านมาจากไหน” เธอบอกไปนั่งขุดคุ้ยหา “ปรากฏว่ามาจากที่รัฐบาลจะเก็บภาษีขายหุ้น ๑๔,๐๐๐ ล้าน ที่เหลือมาจากการเพิ่มประสิทธิภาพจัดเก็บภาษี”
เธองง “เพราะรายงานนี้ ก.คลังเอาเข้า ครม.วันที่ ๑๓ ก.ย. แต่อีก ๒ วันถัดมา นายกฯ ยืนยันยกเว้นภาษีขายหุ้น ตกลงจะเก็บภาษีขายหุ้นมั้ยคะ นายกช่วยไปคุยกับ รมต.คลังให้รู้เรื่องก่อน ถ้าไม่เก็บต้องไปประมาณการรายได้มาใหม่” ไม่งั้นต้องกู้ชดเชยรายได้ที่ลดลง
“ยอดหนี้สาธารณะก็ต้องปรับเพิ่มนะคะ” แล้วมีผีซ้ำดั้มพลอย “SET หลุดไป ๑,๕๐๐ เรียบร้อยแล้ว” Suvipan Jampa ออกมากระทุ้ง ท่ามกลางความไม่ไว้วางใจของนักลงทุน ในตัวนายกฯ (รายนี้แหละที่เรียก) คอลล์เซ็นเตอร์”
ซีอีโอของบรรษัท Tisco ไพบูลย์ นลินทรางกูร ก็บอก “#ดิจิตอลวอลเลท จำเป็นหรือไม่ที่ต้องใช้เงินเยอะ กระตุ้นถูกจุดหรือเปล่า” @pipob69 เขาเก็บเอามาเล่าว่า “รบ.ไม่มีแผนชัดเจน จะเอาเงินจากไหน...ไม่สร้างความมั่นใจให้นักลงทุน”
อีกคน ชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร ก็ว่าเอาเงิน ๔ แสนล้านกระตุ้นเศรษฐกิจ เทลงไปมันก็ต้องดีขึ้นในช่งหนึ่งละ “แต่ถ้าไม่ทำ รอสัก ๒–๓ ปี เศรษฐกิจก็จะขึ้นไปถึงจุดเดียวกันโดยไม่ต้องเป็นหนี้ ซึ่งเงินดิจิทัลไม่ได้แก้ปัญหาโครงสร้างอะไร เป็นหนี้ฟรี”
แล้วยังมีคาดการณ์เศรษฐกิจปีหน้าจากไพบูลย์ “คิดว่าจะโตแค่ ๓% เหมือนเดิม ทั้งที่การลงทุน ๕๖ แสนล้านเท่ากับ ๓% ของ GDP” นี่แหละ “เพราะความมั่นใจ ความเชื่อมั่นยังไม่มี” ไม่ตรงปกที่หมอมิ้งวาดไว้ จึงได้มีคนตอบทวี้ตของเลขาฯ นายกฯ
“ประชาชนกินข้าวค่ะท่าน…”
(https://twitter.com/pipob69/status/1706509269707935845, https://youtube.com/live/F-SIcpEXOQA?si=5wqtBxLPgfTuHcqp และ https://twitter.com/SirikanyaTansa1/status/1706978918325211494)