iLaw
1d·
"ผมคิดว่าเราเชื่อมั่นในเพื่อน เชื่อว่าคนข้างนอกเขาจะมีแนวทางต่อสู้ให้เรากลับออกมาข้างนอก และสิ่งที่เราทำมันเป็นเรื่องของขบวนไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ส่งผลกระทบต่อสังคมจนทำให้สังคมเปลี่ยนไปมาก นับวันนี้มันคุ้มแล้วแหละ แต่รายจ่ายที่มันมาถึงเรา เราก็ต้องแบกรับมันให้ได้มากที่สุด แล้วก็ช่วยกัน”
.
อานนท์ยังพูดไปถึงสิ่งที่หล่อเลี้ยงการต่อสู้ของเขา นั่นคือน้ำใจจาก “เพื่อน” มากมายที่คอยให้ความช่วยเหลือ เพื่อนเหล่านี้หลายครั้งไม่ใช่คนรู้จักสนิทสนม แต่เป็นเพื่อนห่างๆ เพื่อนของเพื่อน ไปจนถึงผู้คนในโลกออนไลน์ ด้านจิตใจคงกล่าวได้ว่ายังมีแรงฮึดจากผู้คนรอบตัวพอสมควร
.
อ่านฉบับเต็มที่: https://freedom.ilaw.or.th/node/1205
“สูญเสียอิสรภาพ แต่คุ้มค่า” อานนท์เตรียมฟังคำพิพากษาถูกกล่าวหาผิด ม.112 คดีแรกปราศรัยชุมนุม 14 ต.ค. 63https://t.co/MaJI5NfvtL
— THE STANDARD (@thestandardth) September 26, 2023
ภาพ: ธนัญชัย แก้วโสวัฒนะ, Thai News Pix#อานนท์นําภา #ม็อบ14ตุลา #ม112 pic.twitter.com/8j3rnrh4tx
อานนท์ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนการฟังคำพิพากษาว่า ขบวนคนรุ่นใหม่ได้สร้างปรากฏการณ์ที่เปลี่ยนประเทศไป จนไม่สามารถย้อนกลับไปเหมือนเดิมได้แล้ว ในแง่ของความคิดคน ตนมองว่าคนทั้งประเทศเชื่อมั่นในสิทธิเสรีภาพและความเสมอภาค พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นอารยะ เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในทุกรูปแบบ ทั้งในแบบโซเชียลและบนท้องถนน รวมถึงในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ซึ่งในหลายพื้นที่ไม่ได้สนับสนุนพรรคในฝ่ายประชาธิปไตยก็กลับมาเลือกพรรคฝ่ายประชาธิปไตย และคนรุ่นใหม่ก็โตมาบนพื้นฐานของการเชื่อมั่นในสิทธิเสรีภาพและความเท่าเทียม จึงมองว่าการชุมนุมนับตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ได้ทำให้สังคมเปลี่ยนไปมากและถือว่าเป็นการต่อสู้ที่คุ้มค่า
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า อยากฝากอะไรถึงกลุ่มนักกิจกรรมที่ยังเคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้หรือไม่ อานนท์กล่าวว่า อยากให้กำลังใจ วันนี้เรายังไม่ทราบคำพิพากษา แต่ถ้าคำพิพากษาออกมาในแนวทางที่เลวร้าย คือการต้องไปติดคุก ก็ต้องสู้กันต่อไปทั้งในเรือนจำและนอกเรือนจำ และอยากให้ทุกคนต่อสู้ต่อไป เพราะบ้านเมืองเราเดินมาไกลมากแล้ว ไม่อาจกลับไปนับหนึ่งได้อีก อยากให้การต่อสู้ของคนรุ่นใหม่สามารถเปลี่ยนแปลงประเทศได้อย่างแท้จริง และขอบคุณผู้ที่สนับสนุนและให้กำลังใจ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร การต่อสู้ยังไม่สิ้นสุด
อานนท์ยังกล่าวอีกว่า ตนเองกำลังใจยังดี มองว่าแม้จะต้องสูญเสียอิสรภาพก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะวันนั้นในเหตุการณ์การชุมนุมเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ตนได้ปราศรัยปรามไม่ให้ตำรวจเข้ามาสลายการชุมนุม การที่สูญเสียสิทธิเสรีภาพตามคำพิพากษา แม้อาจจะหลายปีหน่อย แต่ก็ทำให้ไม่เกิดความสูญเสีย จึงมองว่าเป็นการสูญเสียเสรีภาพโดยส่วนตัวที่คุ้มค่าต่อส่วนรวมด้วยความเต็มใจ
อย่างไรก็ตามอานนท์ยังมีคดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองอีกหลายคดี ตั้งแต่การเคลื่อนไหวหลังการรัฐประหาร 2557 กระทั่งการชุมนุมช่วงปี 2563 ต่อเนื่องมา
พี่อานนท์เข้าเรือนจำอีกครั้งในวันนี้ ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ยังไม่ได้ประกันตัว และคาดหมายลำบากว่ารอบนี้จะใช้เวลานานเท่าไร
— ยิ่งชีพ (เป๋า) (@yingcheep) September 26, 2023
ผลคำพิพากษา และผลประกันไม่ได้น่าแปลกใจนัก
ที่น่าเศร้าใจ คือ สังคมสนใจเรื่องนี้น้อยลง
ส่วนหนึ่งก็สนใจ แต่ไม่รู้ว่าพอจะทำอะไรได้บ้าง เพื่อให้มันไม่แย่ไปกว่านี้
.....
Atukkit Sawangsuk
18h·
อานนท์ขู่ตำรวจว่า
อย่าใช้กำลังสลายม็อบ
ไม่อย่างนั้นจะถือว่ากษัตริย์สั่ง
ตำรวจก็ไม่ได้บุกเข้ามา
จนกระทั่งคนกลับเกือบหมด
นี่ศาลถือว่าผิด 112?
.....
Somsak Jeamteerasakul
17h·
เป็นไปตามที่ อานนท์ นำภา คาดการณ์ไว้ ศาลตัดสินให้จำคุก 4 ปี ปรับ 20,000 บาท ไม่รอลงอาญา ข้อความต่อไปนี้โดนศาลตัดสินว่า "ผิด"
“ข้อที่ 3 มาเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ข้อเรียกร้องมีสามข้อเท่านั้น วันนี้ จะไม่เหมือนเมื่อวานเพราะพี่น้องที่มาจากต่างจังหวัดทยอยมาสมทบกันเรื่อยๆ และ นิสิตนักศึกษาก็ทยอยมาเรื่อยๆ ถ้ามีการสลายการชุมนุมวันนี้ คนที่จะสั่งสลายการชุมนุมมีเพียงคนเดียว คือในหลวงรัชกาลที่ 10 ถ้ามีการสลายการชุมนุม ไม่ต้องไปหาคนอื่นใด”
“อย่างที่ผมเรียนไว้ ถ้ามีการสลายการชุมนุม คนอื่นจะสั่งไม่ได้นอกจากในหลวงรัชกาลที่ 10”
“อย่างที่บอกถ้าวันนี้มีการสลายการชุมนุม คนที่จะสั่งได้คนเดียว คือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ให้รู้ไว้เช่นนั้น”
ให้ผมพูดอย่างตรงไปตรงมา ผมเห็นว่าคำพูดเหล่านี้เป็นที่ถกเถียงกันได้ อาจจะถูกหรือไม่ถูกก็ได้ แต่ไม่ควรถูกลงโทษถึงขนาดติดคุก อย่างมากเพียงแต่ตักเตือนและปรับแค่นั้น
https://tlhr2014.com/archives/59835