วันเสาร์, กันยายน 23, 2566

ศึก อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล vs ปีใหม่ newyear ใครคุกคามใคร ?และมีความผิดฐานเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลหรือไม่ ?


Jua Rattanapan
14h 
·
ศึก อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล vs ปีใหม่ newyear
ใครคุกคามใคร ?และมีความผิดฐานเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลหรือไม่ ?
………………………………………………………
เป็นกรณีพิพาทนอกศาลของบุคคล 2 คน แต่กลับขยายกลายเป็นการถือหางของคนการเมือง 2 กลุ่ม คือกลุ่มแนวคิดพรรคเพื่อไทยกับกลุ่มแนวคิดพรรคก้าวไกล
ในพรรคเพื่อไทย มีคนระดับผู้นำ อย่างนายเศรษฐา ทวีสิน นายภูมิธรรม เวชชชัย หมอพรหมมินทร์ เลิศสุริยะเดช ตำแหน่งสำคัญในรัฐบาล กด live กด love และล่าสุดผมได้อ่านเฟสบุค ของท่านสมคิด อุบล รองเลขานายกรัฐมนตรี กล่าวว่านางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล เป็นนักการเมืองไม่ควรคุกคามผู้มีความเห็นต่าง
ดังนั้นมาดูว่าการกระทำของนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล มีพฤติกรรมคุกคามบุคคลหรือไม่ รวมทั้งการกระทำนั้นผิด พรบ.การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลหรือไม่
กฎหมายอาญา มาตรา ๓๙๗ กำหนดให้การรังแก ข่มเหง คุกคาม หรือกระทำให้ได้รับความอับอายหรือ เดือดร้อนรำคาญ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท และหากกระทำในสาธารณสถาน ต่อหน้า ธารกำนัล หรือส่อไปในทางล่วงเกินทางเพศ รวมทั้งหากกระทำโดยผู้บังคับบัญชา นายจ้าง หรือผู้มีอำนาจเหนือ
มาตรา ๓๙๒ ผู้ใดทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ดังนั้นการคุกคามต้องมีพวกมีกำลังที่เหนือกว่า ใช้อาวุธหรือเครื่องทางสื่อหรืออำนาจหน้าที่ที่มีปฏิบัติถึงขนาดที่เป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างการ ต่อทรัพย์สิน ต่อชื่อเสียงที่ผู้ที่อ้างว่าถูกคุกคามได้รับ
การที่คุณอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล เดินทางคนเดียวไม่มีพวกไปหาที่บริษัทโดยปราศจากอาวุธ ขอบัตรผ่านเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลผู้รับผิดชอบ เป็นพฤติการณ์รุนแรงถึงขนาดเป็ันอันตรายหรือไม่ และโดยความจริงผู้ทีอา้างตัวว่าเป็นผู้ถูกคุกคามไม่อยู่เผชิญหน้า แล้วจะเกิดอันตรายได้อย่างไร
ส่วนการลงสถานที่บ้านนั้น เป็นเพียงลงสถานที่เรียกร้องให้บุุคลที่ถูกบูลลี่ทราบตัวตนที่คู่กรณีปิดบังอำพรางในเงามืดเพื่อทำร้ายคนอื่นผ่านสื่อ online ที่วไป ก็ไม่อันตรายถึงขนาดที่ทำให้เป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สินและรบกวนสิทธิส่วนตัวใดๆ
2 ถามว่าคุณอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล เป็นบุคคลสาธาธารณะที่บุคคลทั่วไปวิจารณ์ได้ไหม
ต้องตอบว่าวิจารณ์ได้ แต่การวิจารณ์นั้นต้องวิจารณ์ในหน้าที่ในทางสาธารณะที่เขาได้รับตามกฏหมายหรืออาจไปถึงคุณสมบัติส่วนบุคคลของเขาว่าสอดคล้องกับคุณสมบัติของหน้าที่การงานที่เขารับหรือไม่ ?
ตามที่ติดตามดู การที่กล่าวว่า
“คุณอมรัตน์ เป็นชู้กับคนขับรถ”
“คุณอมรัตน์ ถูกตัดต่อภาพว่าเป็นคนสนิทกับกำนันนก นครปฐม เพื่อให้คนเกลียดชังในเหตุที่กำนันมีคียิงตำรวจตาย”
หรือในทำนองปากอมเพชร มีอะไรบางอย่างปากกว้างเหมือนใช้งานมาก ดิฉันหมายถึงปากนะ”
ด่าแม้กระทั่ง นัฐวุฒิ ไสเกื้อ ที่ขอหยุดบทบาทว่าออกไปจากครอบครัวเพื่อไทยได้เลย เพราะเสร็จงานแล้ว มาเป็นลูกจ้างชั่วคราว
วิจารณ์ จาตุรนต์ ฉายแสงในทำนองว่า พรรคเพื่อไทยมาช่วยเพราะไม่รู้จะไปทางไหน
เป็นการวิจารณ์ในหน้าที่การงานหรือเป็นภาษาที่นักการเมืองแบบพวกคุณเรียกว่าการวิจาร์การเมือง
อย่าลืมว่า ตอนประท้วงนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ ผู้ต่อต้านเคยบูลลี่ พูดว่านายกหญิงยิ่งลักษณ์ไป”เอาอยู่ที่ขั้น 7 โฟร์ซีชั่น” หรือหมอจากหาดใหญ่พูดจะไปผสมพันธุ์กับนายก หรืออาจารย์จักร จากม ม.นเรศวร พูดเรื่องถ้าพบกับผมจะประทับใจไม่รู้ลืม หรือตอนที่นายกรัฐมนตรีหญิงไปเยี่ยมประเทศมองโกเลีย ชัย ราชวัตร การ์ตูนนิสต์ แห่งไทยรัฐ ถึงกับกล่าวว่า เป็นโสเภณีเร่ขายตัว
ถามว่าพฤติกรรมเช่นนี้ ฝ่ายนำพรรคเพื่อไทยรับได้หรือครับ? ใครผิดกันแน่ครับ คุณไม่เพียงไม่เคารพกติกาเลือกตั้ง แถมยังไม่รู้เรื่องการเคารพต่อสิทธิมนุษยชนด้วย
3 ผิดต่อ พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล PDPA ย่อมาจาก Personal Data Protection Act B.E. 2562 (2019)
พรบ. ข้อมมูลส่วนบุคลนั้น เป็นกฏหมายที่มีไว้ให้ฝ่ายบริหารบ้านเมือง หรือเจ้าหน้าที่ในองค์กรมีหน้าที่โดยตรงในการจัดเก็บความลับ ไม่ว่าเป็นชื่อ สถานที่ สัญชาติ กรุ๊ปเลือด อาชีพ ชาติกำแนิด สัญชาต เพศและข้อมูลทางด้านเศรษฐกิจเพื่อเป็นความลับและประโยชน์ของทางราชการและองค์กรที่เก็บข้อมูลนั้น ถ้าองค์กรรัฐหรือองค์ใดในทางกฏหมายเอาข้อมูลเหล่านี้ไปเปิดเผยอาจทำใเขาเสียหายได้ สามารถฟ้องร้องเอาผิดได้ และให้ระงับการกระทำนั้นได้
แต่เรื่อคุณอมรัตน์ กับคุณปีใหม่ newyear เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวอะไรกับการดำเนินงานทางด้านสาธารณะและไม่เกี่ยวอะไรกับหน้าที่ในนามพรรคก้าวไกลและในนามที่ปรึกษารองประธานสภาคนที่ 1
และคุณอมรัตน์ โชคสมิตต์กุลไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตาม พรบ.ที่เก็บความลับส่วนบุคคล ของ น.ส ปีใหม่ newyear ตามพรบ นี้ จึงไม่ต้องรับผิดตาม พรบ.ความลับส่วนบุคคล 2562 แต่อย่างใด ถ้าจะเป็นความผิดส่วนบุคคลก็จะต้องมีพฤติกรรมแฮ็คเจาะข้อมูลของราชการหรือองค์กรกฏหมายคุ้มครอง
การไปขอพบ พูดคุยต่อหน้าเจ้าของบริษัทและเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคล ถือเป็นการพูดคุยเพื่อระงับข้อพิพาทในทางส่วนบุคคล เบากว่า ง่ายกว่าการนำคดีขี้หมูราขี้หมาแห้งแบบนี้ไปฟ้องศาลให้เสียเวลาชีวิต ตกลง ยกเลิกไม่ทำต่อไม่เอาความกัน…..ก็จบแล้วครับ
ต่อคุณอมรัตน์ โชคปมิตต์กุลพรรคก้าวไกล
1ควรปูนบำเหน็จนักรบแถวหน้าและมอบเหรียญรางวัลให้
2 สนับสนุนให้ฟ้อง ผู้ที่บูลลี่คุกคามคุณอมรัตน์(ถ้ายังไม่ตกลงเลิกรากันไป)
3 คุณอมรัตน์ไม่มีความผิดเรื่อง พรบ. คุ้มครองความลับส่วนบุคคล PDPA Personal Data Protection Act B.E. 2562 (2019)
4 ถ้าทำโทษหรือจำกัดบทบาททางการเมืองคุณอมรัตน์ อีก เกมส์การเมืองของก้าวไกลจะพ่ายแพ้ไปตลอดทุกช็อต ….เชื่อกู!
แบ่งปันข้อมูล (โต้แย้งได้ เพิ่มเติมได้ครับ)
ขุนจัน พันนา

(https://www.facebook.com/jua.rattanapan/posts/pfbid02M2Zeq1sFCCuQuBkhnVqUtfpJ3FyaUqdhDVkr6Uij4bW1E9D8j8ZKWNJVoBzgLaWcl)