สัญญานค่อนข้างแรง
นัดแสดงพลังของคนที่ทนไม่ไหว #กลัวที่ไหน กับการลุแก่อำนาจขององค์กรอิสระภายใต้อาณัติรัฐประหาร
อย่าง กกต. เมื่อ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประกาศ “ถ้าทุกท่านรู้สึกทนไม่ไหว
ไม่อยากทนกับภาวะสังคมแบบนี้ต่อไป อยากมาร่วมกันเปลี่ยนแปลง...ถ้าท่านเห็นด้วยกับผมว่าเวลานี้พวกเราประชาชนจะต้องลุกขึ้นสู้
ต้องลุกขึ้นทวงคืนความชอบธรรม ความยุติธรรม ความเสมอภาคในสังคมกลับคืนมา”
ตามที่หมาย สกายวอล์คปทุมวัน ๕ โมงเย็นวันนี้
(๑๔ ธ.ค.) แถมลูกพรรคดังๆ เช่น Taopiphop Lim
ย้ำเตือน @taopiphop ด้วยว่า “อยากให้ทุกคนออกไป #แสดงพลัง ในเวลาที่หน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้
เราจะเเสดงให้เห็นว่าเมื่อประชาชนจากออนไลน์มารวมตัวกันจริง
มันมีพลังเเค่ไหน เค้ามีอำนาจเถื่อน เราก็มีประขาชนคนรุ่นใหม่เป็น #อาวุธนิวเคลียร์ เช่นกัน ถ้าจะ #ยุบพรรค คุณก็ต้องเจ็บที่สุดเช่นกัน #กลัวที่ไหน”
ไม่เท่านั้น วันเวลาเดียวกัน “ทุกจังหวัด
ทุกอำเภอ ทุกตําบล ทุกหมู่บ้าน...นัดหมายรวมตัวกันเขียนข้อความ ส่งเสียง
ที่ไม่ยอมทนอีกต่อไป” ดร.ดำเนิน ยาท้วม @Dr Dumnern ประกาศเช่นกัน “ว่าเวลานี้ประชาชนต้องลุกขึ้นสู้” ไม่ยอมทนอีกแล้ว
ประจวบด้วยข้อมูลใหม่ iLaw ค้นเจอว่าประธาน
กกต.มีเอี่ยวกับการแต่งตั้ง สว. ๒๕๐ คน แม้ไม่ได้อยู่ในรายชื่อกรรมการสรรหา ๑๐ คน “จากเอกสารที่ได้รับมาในตารางรายชื่อผู้ที่เข้ารอบสุดท้าย
ที่มาจากการคัดเลือกโดยคณะกรรมการสรรหา”
พบว่าผู้ได้รับการเสนอในลำดับที่ ๒๓๕ นายลือชา
การณ์เมือง ปรากฏมีวงเล็บไว้ต่อท้ายว่า ประธาน กกต.เป็นผู้เสนอ
แม้นายลือชาจะไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็น สว. “มีรายชื่อติดเป็นลำดับที่ ๘ ของบัญชีสำรอง”
ข้อมูลส่วนตัวนายลือชาเป็นซีอีโอบริษัท SAL
Group ทำธุรกิจกับกองทัพอากาศ
และเคยเป็นเลขาณุการส่วนตัวของนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ
มิใย รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้ขู่แต่อยากให้ระวังตัวดีๆ
“เตือนว่าการกระทำลักษณะแบบนี้อาจหมิ่นเหม่ต่อการปลุกระดมต้องศึกษาข้อกฎหมายให้ดี
เพราะถ้ามีการดำเนินการทางกฎหมาย เดินหน้าไปแล้วถอยหลังไม่ได้”
(https://news.bectero.com/news/161311 และ https://www.facebook.com/iLawClub/photos/a.10150540436460551/10162901873245551/)
เหตุนี้ทำให้เกิดการปรารภสะดุดตาสะอึกใจ Thanapol Eawsakul โพสต์ไว้เมื่อวาน “ภายในเวลาไม่ถึง
๒๔ ชั่วโมง สถานการณ์เปลี่ยนไปเร็วมาก อะไรที่ไม่เคยเห็นก็จะได้เห็น อะไรที่เคยเห็นก็จะไม่ได้เห็นอีกต่อไป”
ที่ พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ ไปเติมว่า “หม้อต้มแรงดันอัดไว้นาน มันก็ระเบิดได้ง่าย ๆ”
ซึ่งบังเอิญแรงอัดภายใน ๒๔ ชั่วโมงดังกล่าว
อาจจะรวมหรือไม่รวมถึงเหตุการณ์ที่สำโรงเมื่อคืนวานก็ได้
อันเนื่องแต่โพสต์ของผู้ใช้นาม • 𝟷𝟶𝟹𝟽
° @BTTTTT37 เกิดเป็น ‘ไวรัล’
“มีขบวนเสร็จแถวสำโรงจ้า
ไล่คนเดิน คนนั่งตามป้ายรถเมล์นั่งพื้นหมดเลย ห้ามนั่งบนที่นั่ง
นั่งตรงขั้นบรรไดขึ้นห้างก็ไม่ได้นะ ตำรวจตะโกนด่าให้ลงไปนั่งพื้น เปนงอง”
ต่อด้วยว่า “รู้สึกไม่โอเคกับการที่ต้องมาโวยวาย
ตะโกนแหกปากใช้อำนาจใหญ่โตข่มขู่ประชาชนของเจ้าหน้าที่บางคนบางพวก
บางอย่างเราพูดด้วยเหตุผล พูดด้วยความเข้าใจ เราเชื่อว่าอย่างน้อยจะต้องมีคนพร้อมปฏิบัติตาม”
ปัญหาอยู่ที่การประพฤติปฏิบัติของตำรวจบนพื้นที่
ซึ่งมีคนเอออวยเห็นด้วย “เห็นว่าได้รับคำสั่งจากนายมาแบบนี้
อีกอย่างเค้าทำแบบนี้ต่อๆ กันมานานแล้วค่ะ แต่ตำรวจที่ตะโกนด่าพูดดีๆ ไม่ได้ก็สมควรโดน”
(@rinra098)
อันเจ้าตัวต้นตอย้ำ “อันนี้ก็หมายถึงตำรวจชั้นผู้น้อยนิสัยทุเรศๆ
ค่า” แต่ก็ไม่ทำให้อารมณ์บูดของปวงชนไซเบอร์เหือดหายไปได้ @gowentgone112 ออกอาการร้อน “แดกภาษีกูอยู่ พูดจากับพวกกูดีดีหน่อย”
นั่นละอุบัติการณ์ ‘ไวรัล’ จึงเกิด
@Let_wee_Go ว่า “นอกจากเดินไม่ได้ยังฟังเพลงไม่ได้อีก”
เพราะเคยถูกสั่งให้ถอดหูฟังออกขณะขบวนผ่าน ส่วน @KiwonnySitsKhun ก็เคยโดนเหมือนกัน “แต่ยังดีตรงที่ไม่ต้องนั่งขนาดนั้น (ครั้งที่ไปวิ่งรอบสวนจิตร)
นี้แหละข่มขืนให้รัก”
@Qme9Iqp5PxLc43z เลยใส่ “เราเป็นฝุ่น อย่าพูดมาก” @summerb06546572 โดดเข้าเสริม “เข้าใจลึกซึ้งคำนี้ 'ฝุ่น'” แล้ว @iveleftcountry ก็สรุป “คือเราถูกปกครองด้วยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชสินะ
#ขบวนเสด็จ”
@siouAva ต่อความยาว “ยุค 2000 แล้วยังเจออะไรที่โบราณคร่ำครึ
มิน่าประเทศไม่พัฒนา” @kukukiki331 สาวความยืด “เขาไม่รักไม่ได้แคร์
ปชช.จริงๆ ไง คงเห็นเป็นฝุ่นใต้ตีนที่นึกจะกดขี่ยังไงก็ได้” เลยเจอ @UPudra ชี้ให้ “ถ้าทำไม่ได้ก็ย้ายประเทศไปซะ”
มีคนไม่สิ้นไร้ตอบว่า “นี่ประเทศของคนคนเดียวหรอ”
เลยได้ @yihao ช่วยเฉลย “ถ้าเป็นพ่อเก้าไม่ต้องมีใครสั่ง
ต่อให้หมอบกราบผมก็ทำ ทำด้วยความเต็มใจยิ่ง” เช่นกันกับ @nuch_ding ขยาย “พอ ร.๙ สิ้น ก็เอาใหญ่แบบจัดหนักจัดเต็ม ทำแบบนี้จะให้ ปชช.
รักได้ยังไง”
แบบนี้เป็นครั้งที่สองนับแต่รัชกาลที่ ๑๐
ทรงครองราชย์ ครั้งแรกถ้าจำกันได้รถติดนานเพราะมีขบวน ขนาดว่ารถพยาบาลยังถูกสั่งให้หยุด
ว่ากันว่าเป็นการเสด็จกลับจากประเทศจีนขององค์ใดองค์หนึ่ง
แต่ครั้งนี้มันเริ่มจากตำรวจกร่างแท้ๆ
อันที่จริงมีคำบ่นของนักรบไซเบอร์รายหนึ่ง
น่าที่ในรั้ววังจะสดับฟังเป็นข้อคิดสำหรับปรับปรุง “ทำไมเค้าไม่นั่งฮอ จะได้จบๆ ไป
ชาวบ้านก็จะได้ไม่เดือดร้อน” ไหนๆ เหตุการณ์ครั้งนี้เห็นว่าไปรับเรือย้อร์ช เพิ่มเฮลิค้อปเตอร์อีกลำน่าจะดี
แน่ใจว่าเย็นนี้คงไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น
ดูแล้วคลื่นลมสงบสงัด แต่จะเป็นอาการเงียบงันก่อนสึนามิหรือไม่ ไม่ช้าก็รู้