รูปธรรมมาแล้ว สรรพากรรีดเลือดประชากร นโยบายการเก็บภาษีในปี
๒๕๖๓ เข้มมาก อธิบดีบอกต้องได้ ๒.๑๑ ล้านล้าน ตามเป้า เอาเทคโนโลยี่วิธีขูดมาใช้ให้ความสะดวกผู้เสียจ่ายได้ง่ายๆ
ชนิดถึงเลือดซิบก็ไม่รู้สึก
อธิบดีกรมนี้แจงเมื่อวาน (๔ พ.ย.) “จะเน้นการขยายฐานการเก็บภาษี”
จากบุคคลธรรมดา “ที่ตอนนี้มีผู้อยู่ในระบบภาษี ๑๑.๗ ล้านคน
เพิ่มขึ้น ๑๐% จากปีงบประมาณก่อนหน้า” ถึงอย่างนั้นยังไม่พอ
ต้องตามเก็บจากอีก ๓-๔ ล้านรายจากผู้ที่ควรอยู่ในระบบ
(ทั้งสิ้น ๑๔ ล้าน) แต่ ‘ลอดตาช้าง’ ไปได้ โดยจะใช้ทั้งวิธีโอ้โลมปฏิโลม (ไม้อ่อน) และขืนใจ (ไม้แข็ง)
ไม่จ่าย ‘เจ็บ’ นายเอกนิติ
นิติทัณฑ์ประภาศ ว่างั้น “ทุกคนต้องเสียภาษีให้ถูกต้องเป็นธรรมเท่ากัน”
เหมือนดังกรณีนิติบุคคล ซึ่ง “ส่วนใหญ่เป็นผู้เสียภาษีรายใหญ่ที่มีรายได้เกิน
๒,๐๐๐ ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน ๐.๔๖%” แต่คนเหล่านี้ “มีสัดส่วนการเสียภาษีถึง ๖๔%
ของภาษีนิติบุคคลที่เก็บได้ล่าสุด ๒.๔ แสนล้านบาท”
“จะเห็นว่าการเก็บภาษีส่วนใหญ่เป็นการเก็บภาษีได้จากรายใหญ่
ไม่ได้เป็นผู้ประกอบการรายเล็กหรือเอสเอ็มอี” ฉะนี้จะให้ ‘เป็นธรรม’ ก็ต้องไปไล่เก็บรายย่อยอย่างที่ว่า
แม้นว่าที่ผ่านมา “พบว่าผู้มีรายได้สูงได้ประโยชน์” ก็ตาม
จะว่านั่นคือตรรกะในการรีดภาษีของรับบาล
คสช.๒ ก็ได้ ฟังแล้วคลับคล้ายกับรีดรายใหญ่มามากแล้ว ‘ห่างตาเล็น’ อะไรทำนองนั้น
ต่อไปจะตามเก็บเล็กเก็บน้อยจากรายย่อยบ้าง ดูอย่างโครงการอีอีซีที่เอื้อกันและกันกับรายใหญ่
จนดูเหมือนเป็นโครงการอสังหาฯ มากกว่าอุตสาหกรรม
ตอนนี่ท่าจะไม่ไหว ที่ทางซึ่งบรรษัทเจ้าสัวไปจับจองดักหน้าและเริ่มโครงการพัฒนาของตนเองไปบ้างแล้ว
ปรากฏว่า “อสังหาฯ ๓ จังหวัดเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
(EEC) ยังชะลอตัวด้วยพิษเศรษฐกิจ”
อาคารชนิดต่างๆ ที่สร้างไว้ ‘เหลือขาย’
เป็นเบือ
ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์แจ้งว่า ‘มูลค่าเหลือขาย’ ในพื้นที่อีอีซีขณะนี้ ๒
แสนกว่าล้านบาท อ้างว่ามาตรการกำหนดอัตราสินเชื่อที่อยู่อาศัย หรือ ‘แอลทีวี’ ซึ่ง “ผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยคงจะต้องสำรองเงินเพิ่มขึ้นที่ราว
๑๑-๒๒ เท่า ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย” (เมื่อก่อนเพียง
๕-๑๑ เท่า) นั้น
“ทำให้สัญญาณการขายต่ำ ทั้งยังมีความสุ่มเสี่ยงเกี่ยวกับการขอกู้
เนื่องจากโรงงานในเขต EEC บางแห่งชะลอการผลิต
ออร์เดอร์ลด” อ้าวประชุมอาเซียนเพิ่งจบไปหลัดๆ เห็นโปรเฟสเซ่อโฆษกรัฐบาลบอกว่า มีผู้นำต่างชาติรับปากหัวหน้าทีมเศรษฐกิจประเทศไทย
จะมาลงทุนอีอีซีกันตรึมไง
ตอนแถลงนั่นยังไม่ทันดูตัวเลขมั้ง
ที่มีการจดแจ้งไว้แล้วว่า ในบรรดาตลาดอสังหาฯ พื้นที่อีอีซี ๓
จังหวัดอ้อทสุดชลบุรี ถัดมาเป็นระยอง และน้องเล็กกว่าเพื่อคือฉะเชิงเทรานั้น
บ้านจัดสรรในชลบุรีเหลือขาย ๕๘.๒% ส่วนของฉะเชิงเทราซึ่งตลาดอ่อนที่สุดเหลือขาย ๘๙.๕%
ขณะที่จังหวัดระยองกลับมีจำนวนบ้านจัดสรรเหลือขายถึง ๙๕.๙% เหล่านี้ขนาดที่รัฐบาลตู่ออกมาตรการ
ลดค่าโอน ค่าจดจำนอง มากระตุ้นแล้วนะ
ฟังจากการสาธยายของด็อกเตอร์วิชัย
วิรัตกพันธ์ ที่ว่า “โซนพัทยาก็เริ่มโอเวอร์ซัพพลายบ้างแล้ว เพราะระบายได้น้อยลง
กำลังซื้อของคนไทยโดน LTV ทั้งจีนก็ชะลอการซื้อตามไปด้วย”
ก็ต้องร้องเอ๊ะ ปุดโถ
‘ไอทู้บ’
อุตส่าห์โฆษณาสรรพคุณการเป็นผู้นำในภูมิภาคและคู่ค่ากับอาเซียนเสียใหญ่โตเลิศลอย
ปรัชญาของไทยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง แต่กำลังโดนทั้งเพื่อนทิ้งไว้ท้าย
ซ้ำมหามิตรใหม่จะไม่มีเยื่อใยเสียอีก
แบบนี้ต้องคิดแล้วละ
ที่เด็กนักเรียนเขียนป้ายต่อต้านบุหรี่แล้วมีแถมภาพปริศนา ‘ปลา’ + ‘stop’ “ทำลายประเทศ” น่ะ ท่าจะจริง