วันพฤหัสบดี, มิถุนายน 13, 2562

ครบหนึ่งเดือน ‘สยาม ธีรวุฒิ’ ผู้ลี้ภัยที่หายไป ไร้แววคืบหน้า แม่ลั่นยังไม่ถอดใจ



ภาพกัญญา มารดาของสยาม และเพื่อนๆ ยื่นหนังสือที่สถานทูตเวียดนาม เมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา


12 มิ.ย. 2562 หนึ่งเดือนกว่าที่ สยาม ธีรวุฒิ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหามาตรา 112 หายตัวไปพร้อมกับ ‘ลุงสนามหลวง’ หรือชูชีพ ชีวะสุทธิ์ และ กฤษณะ ทัพไทย หรือสหายยังบลัด หลังมีข่าวว่าพวกเขาถูกจับกุมตัวที่เวียดนามและถูกส่งตัวกลับไทยแล้วในวันที่ 8 พ.ค.

เดือนที่แล้วกัญญา ธีรวุฒิ มารดาของสยาม ธีรวุฒิ เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงผู้บังคับการกองปราบปราม ขอทราบผลการจับกุมตัวสยาม รวมถึงยื่นเรื่องต่อสถานทูตเวียดนามชี้แจงกรณีการหายตัวไป และยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนเรียกร้องให้ตรวจสอบกรณีการหายตัวไปดังกล่าว

ประชาไทสอบถาม มนทนา ดวงประภา ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนถึงความคืบหน้าของการยื่นหนังสือถึง 3 องค์กรดังกล่าว โดยมนทนาชี้แจงว่า การยื่นเรื่องที่สถานทูตเวียดนามยังไม่ได้รับการติดต่อกลับมา โดยทางสถานทูตบอกว่าถ้ามีความคืบจะติดต่อกลับมาเอง ส่วนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน มีหนังสือส่งมาให้ครอบครัวบอกว่า รับเรื่องไว้พิจารณาแล้ว แต่ยังไม่มีรายละเอียดการดำเนินการ และที่กองบังคับการปราบปราม ก็มีหนังสือส่งมาให้ครอบครัวเช่นกัน โดยตอบกลับมาว่า ไม่มีการจับกุม ควบคุมตัวสยามที่ประเทศไทย

มนทนาระบุว่าหลังจากนี้ก็จะติดตามการดำเนินการของทั้งสามองค์กรนี้ต่อไป

ขณะที่กัญญา มารดาของสยามให้สัมภาษณ์กับประชาไทว่า รู้สึกเครียดเพราะยังไม่มีความคืบหน้าทั้งที่ผ่านมาหนึ่งเดือนกว่าแล้ว โทรหาตำรวจก็บอกว่าเรื่องนี้ยาก เพื่อนก็ให้กำลังใจ เพิ่งไปดูหมอมาเขาบอกว่าลูกยังมีชีวิตแต่อยู่ในต่างประเทศ แต่บางคนก็บอกว่าอย่าไปหวังเลย มันก็มีตัวอย่างก่อนหน้านี้ให้เห็นแล้ว หรือบางคนก็บอกว่าลูกให้ร้ายกษัตริย์เอง แต่สำหรับตนสยามเป็นคนดี เป็นคนสุภาพ เรียบร้อย น่ารัก

“คิดถึงเขา ไม่ได้เจอมา 5 ปีแล้ว แต่ก่อนหน้านี้ยังคุยไลน์เห็นหน้ากันอยู่ แต่ไม่ได้คุยไลน์กันมา 5 เดือนแล้ว ไม่รู้จะทำยังไงต่อเหมือนกัน แต่ยังไม่ถอดใจ เขาเป็นลูกแม่จะถอดได้ยังไง ยังไงแม่ก็ยังอยากเจอเขา อยากรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน ถ้าเขาตายก็ขอเศษส่วนที่ยังบำเพ็ญกุศลได้” กัญญากล่าว

ด้านอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ระบุว่า ขณะนี้เรื่องของสยามอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะตรวจสอบอะไรยังไงได้บ้าง และดูว่าจะส่งเรื่องไปให้หน่วยงานใด ซึ่งยังบอกไม่ได้เพราะเกี่ยวข้องกับหลายส่วน เป็นประเด็นที่ไม่มีใครให้ข้อมูลได้ชัดๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่มีข้อมูลหลักฐาน มีเพียงข้อสงสัย เช่น คนพูดกันว่าน่าจะอยู่เวียดนาม หรือน่าจะถูกส่งกลับไทยแล้ว

อังคณาระบุว่า เคยมีกรณีมีคนร้องเรียนว่าถูกจับที่ต่างประเทศและถูกดำเนินคดี ซึ่งทางกรรมการสิทธิฯ ก็ประสานกับอัยการแผนกต่างประเทศว่าจะสามารถเข้าไปช่วยเหลืออย่างไร แต่ขณะที่เรื่องนี้ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าถูกจับที่ไหนอย่างไร กรรมการสิทธิฯ ก็ต้องหาข้อมูลเบื้องต้นก่อน

อังคณากล่าวว่า เรื่องนี้ไม่มีใครออกมาให้ข้อมูลเลย อาจจะต้องสอบถามทางหน่วยงานรัฐ อย่างตอนสุรชัยแซ่ด่าน เราก็ถามไปทางเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ขณะที่สุรชัยหายไป เราพบศพของเพื่อนเขาสองคน แต่กรณีสยามคือหายไปพร้อมกับเพื่อนอีกอย่างน้อย 2 คนโดยไม่ปรากฏว่าเสียชีวิต และไม่มีหลักฐานว่าถูกจับ ถูกปล่อย หรือถูกส่งกลับมา

“เรื่องแบบนี้ตรวจสอบไม่ง่าย แต่ก็เป็นหน้าที่ของรัฐที่หากมีคนไทยสูญหายก็ต้องพยายามหาคำตอบ” อังคณากล่าว

ที่มา ประชาไท