วันพุธ, มิถุนายน 19, 2562

โฆษกกลาโหมมั่นใจไม่มี 'ฮ่องกงโมเดล' น่าจะเพราะหัวหน้า คสช. ไม่เก่ง แต่อยู่มา ๕ ปี ไม่เกี่ยว 'กิเลส' รับเงินเดือนหลายทางต่างหาก


เป็นเพราะ ผบ.ทบ. แนะอีกมั้ยเนี่ย ให้ฟังเพลง กิเลสมนุษย์เลยทำให้การเจรจาต่อรองกลุ่ม ส.ส. พลังประชารัฐอีสานตอนบนและภาคใต้ จบง้ายง่าย 

เราไม่ได้เรียกร้องให้ตัวเองเป็นรัฐมนตรี” เสียหน่อย แกนนำคนหนึ่งอ้าง

เมืองไทยนี้ดี๊ดี ทั้งผู้นำทัพบกและนายกฯ ที่มาจากทหารมีอารมณ์สุนทรีย์ชอบดนตรีทั้งคู่ คนหนึ่ง “ไม่ได้เก่งมาตั้งแต่เกิด” แต่ก็ได้เป็นนายกฯ มาตั้ง ๕ ปี แต่งเพลงเองเพื่อให้คนทั้งประเทศฟัง อยู่มาห้าปีออกซิงเกิ้ล ๘ แผ่น

อีกคนชอบแนะนำเพลงให้ประชาชนฟัง เข้ามาบัญชาการทหารบกได้ไม่ถึงปี แนะเพลงเด็ดเป็นครั้งที่สองแล้วนี่ ก่อนหน้านี้เสนอเพลง หนักแผ่นดินคล้องจองกับกระแสตอนนั้นพอดี ไล่คนที่ไม่ชอบคณะรัฐประหารออกนอกประเทศ

คราวนี้เพลงเกี่ยวกับกิเลสหนา ผบ.ทบ.บอกว่าเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันเหมือนกัน ขณะมีการต่อรอง เรียกร้องตำแหน่งรัฐมนตรีจากกลุ่มต่างๆ ทั้งภายในพรรคของ คสช.เอง และพรรคร่วมรัฐบาล กันอย่างสับสนอลเวง
เลยทำให้เพลง กิเลสมนุษย์ ของธานินทร์ อินทรเทพ นี้กลับมาดังใหม่ แต่หลายคนก็แปลกใจไฉนทหารเอกวงศ์เทวัญ เคยผ่านศึกจ่อลูกซองไล่ยิงประชาชนที่ออกมาชุมนุมต่อต้านคณะรัฐประหาร ไม่เลือกอีกเพลงของธานินทร์มาควบกัน

อย่างไรก็ดี เพลง คนหนักโลก อาจจะย้อนกลับมาเข้าเนื้อตัวเองได้ แค่ กิเลสมนุษย์ นี่ก็มีเบื้องหลังต่างๆ ทั้งของตัวเองและบิดาผุดขึ้นมาอีกครั้ง เรื่องที่ว่าหลังจาก บิ๊กจ๊อด เสื้อคับ นักยึดอำนาจตัวยงถึงแก่กรรม เกิดศึกแย่งชิงสมบัติหลายพันล้านจ้าละหวั่น
 
ของ บิ๊กแดง เองก็ไม่เบา ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏเวลานี้ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รับเงินเดือนหลายทางจากงบประมาณที่ประชาชนจ่ายผ่านระบบภาษีอากร นอกจากรายได้ในตำแหน่งผู้นำเหล่าทัพเดือนละ ๑๒๐,๐๓๐ บาทแล้ว

ยังมีเงินเดือนในฐานะสมาชิก คสช. อีก ๑๑๙,๙๒๐ บาท กับค่าตอบแทนตำแหน่งวุฒิสมาชิกที่ คสช.แต่งตั้งให้ไปโหวต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกเดือนละ ๑๑๓,๕๖๐ บาท แถมมีเบี้ยประชุมในฐานะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติอีกครั้งละ ๖ พันบาท

เหนาะนั่นเกิน ๓ แสน ๕ พันต่อเดือนแล้ว ยังมีรายได้จากการเป็นกรรมการบอร์ดวิสาหกิจ (ดูเหมือนบิ๊กแดงเพิ่งหลุดจากหน้าที่กำกับกองสลากฯ ไปหมาดๆ) หรือแม้แต่กรรมการบรรษัทของเจ้าสัวที่ไม่เปิดเผยอีกบ้าง ไม่มากก็น้อย

ฉะนั้นการที่จะเที่ยวสั่งให้สาธารณะชนฟังเพลงที่มีความหมาย ไม่ให้โลภโมโทสันนั้น บางคนแอบสบถว่าออกจะย้อนแย้งตนเองเกินไปหน่อยมั้ง ถึงอย่างนั้นพวกคนที่ตกเป็นเป้าเพลงแนะนำของ ผบ.ทบ.ก็กลับลำกันได้ทันการ

ผลจากการที่พรรคพลังประชารัฐส่ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์ภาคเหนือไปเจรจากับกลุ่มด้ามขวานและอีสานตอนบน พวก ส.ส.พลังดูดของ พปชร.ทั้งสองกลุ่มร่วมกันออกแถลงไม่เอาตำแหน่งรัฐมนตรีกันแล้ว
 
“โดยภายหลังจากจัดตั้งรัฐบาล พรรค พปชร.จะมอบหมายให้นายเอกราช (ช่างเหลา แกนนำอีสาน) และพ.อ.สุชาติ (จันทรโชติกุล แกนนำภาคใต้) เสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอื่นๆ ต่อไป”

นายเอกราชกล่าวตอนหนึ่งว่า “การออกมาพูดก่อนหน้านั้นเพราะขาดคนเชื่อมโยงประสานงานด้านนโยบาย แต่วันนี้ทุกอย่างคลี่คลายแล้ว” ที่จริงตนไม่ได้เรียกร้องจะเป็นรัฐมนตรี “แต่เห็นว่าควรมีตัวแทนไปเป็นฝ่ายบริหารเพื่อขับเคลื่อนและพัฒนา”

ส่วน พ.อ.สุชาติ ยอมรับ “ตรงไปตรงมาว่า หลังเลือกตั้งพรรคค่อนข้างนิ่งกับเรา ทั้งที่ภาคใต้ ๒๔ ปี พรรคอื่นจึงจะแจ้งเกิดได้ แต่เมื่อเรานิ่งเพราะคิดว่ารอให้ความวุ่นวายจบก่อนจึงออกมาทักท้วงและทวงถาม...อย่างไรก็ตาม นายกฯได้พูดคุยกับตนเป็นที่เข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว”

พ.อ.สุชาติอ้างด้วยว่าที่เจรจาเข้าอกเข้าใจกันดี มิใช่เพราะตนเป็นเพื่อนซี้คนหนึ่งของ พล.อ.ประยุทธ์ ถ้างั้นคงเป็นด้วยความ “ไม่เก่ง แต่อยู่มา ๕ ปี” ของประยุทธ์มั้ง ว่าที่นายกฯ ครั้งที่สองไม่ได้คุย เพียงบอกว่า “ตอนนี้ก็พูดไม่ได้แล้วว่าไม่เคยเป็นนายกฯ มาก่อน”

บิ๊กตู่ร่ายต่อตามความเคยชิน “เพราะเป็นมา ๕ ปีแล้ว และใช่ว่าจะมาจากพลเรือนหรือทหารก็ใช่ว่าจะแก้ปัญหาทั้งหมดได้สักเมื่อไหร่ แต่วันนี้ผมถือว่าผมเองก็แก้ได้เยอะ” ทั้งที่มีคน “มองผมว่าไม่สันทัดทางการเมือง” นั่นละ

ความสันทัดการเมืองของหัวหน้าคณะรัฐประหารที่กำลังจะครองอำนาจต่อ ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้งที่มีการโกงอย่างบูรณาการตั้งแต่รัฐธรรมนูญถึงนับคะแนน นั่นเองทำให้โฆษกกลาโหมมั่นใจ ไม่มี ฮ่องกงโมเดลในไทย

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหมตอบคำถามนักข่าวที่ว่า “กลุ่มการเมืองที่พยายามปลุกม็อบให้ออกมาเคลื่อนไหวบนท้องถนน ว่าถ้าเป็นม็อบที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองก็เป็นสิ่งที่ดี” ดังนั้นฝ่ายทหารจึงไม่กังวลเรื่องการเคลื่อนไหว


ปัญหามีแค่ใครล่ะเป็นคนตัดสินว่าม็อบไหนดี ม็อบไหนไม่ดี เหมือนที่ผ่านมาม้อบที่เรียกร้องเลือกตั้งก็โดนสั่งใช้กระสุนจริงปราบตายเป็นเบือ แต่กับม็อบที่ต่อต้านการเลือกตั้งมีตายสองคนด้วยระเบิดของตนเอง กลับกลายเป็นโอกาสให้ทหาร ฉวย ยึดอำนาจ