วันพฤหัสบดี, มิถุนายน 20, 2562

ทุกเส้นสาย คสช. มุ่งใช้อภินิหาร ตลก.ศาลรัฐธรรมนูญกำจัดขวากหนามและก้าง อย่างนี้เละแน่

พวกพ้อง คสช.เล่นแร่แปรธาตุกับกฎหมายและรัฐธรรมนูญมันมือเชียว ตั้งแต่ประธานวุฒิสภาลงมาถึง กปปส. นั่นเลย นี่พวกเขาทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของตัวบทกฎหมายที่เขียนใหม่โดย คสช.และตีความโดยลิ่วล้อ ชี้ถูกชี้ผิดอยู่แต่ฝ่ายเดียวเท่านั้น

พรเพชร วิชิตชลชัย สมุนรับใช้ คสช.ในสภาแต่งตั้ง แต่ครั้ง สนช.มาถึงสภา สว.ตู่ตั้ง พูดบ้างถึงการที่พรรคเพื่อไทยยื่นญัตติตรวจสอบ ว่าการตั้งกรรมการสรรหาวุฒิสภาชิกไม่ต้องตามรัฐธรรมนูญ เพราะไม่มีประกาศในราชกิจจานุเบกษา

และเพิ่งยอมเผยชื่อกรรมการเหล่านั้น หลังจากมีการโวยวายขึ้นว่าจะเป็นการมุบมิบตั้งตนเองและพวกพ้อง เสร็จแล้วพอเห็นชื่อก็ป๊งเช้ง กรรมการหลายคนได้เป็น สว.เสียเอง รวมทั้งพรเพชรที่อ้างว่าขอยุติปฏิบัติหน้าที่ระหว่างสรรหา คนอื่นๆ ที่ได้เป็น สว.ก็ไม่ได้เสนอตนเองแต่ให้เพื่อนกรรมการเสนอแทน

เห็นความผิดได้ชัดแจ้งขนาดนี้ยังมีแถกันอย่างด้านๆ พรเพชรนั้นบอกว่า ตามรัฐธรรมนูญการตรวจสอบคุณสมบัติ สว.หรือ ส.ส. แต่ละสภาไม่สามารถตรวจสอบไขว้ได้ สว.ตรวจ สว. ส.ส.ก็ตรวจ ส.ส.ต่างตรวจสอบกันเองในสภาของตนเท่านั้น

“หากจะตรวจสอบข้ามสายได้ ต้องยื่นญัตติผ่านประธานรัฐสภา เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยประเด็นความสงสัยคุณสมบัติของ ส.ว.” แล้วถ้าจะเลยไปถึงเรื่องที่พรรคฝ่ายคัดค้านการสืบอำนาจ คสช. ร้องว่าเมื่อการสรรหา สว.ไม่บริสุทธิ์แล้ว การเลือกนายกรัฐมนตรีย่อมส่อเป็นโมฆะ

พรเพชรยังแก้ปมไปน้ำขุ่นๆ ว่า “ยังเป็นเรื่องที่ไกลเกินกว่าจะตอบได้ ส่วนตัวเชื่อว่าการโหวตนายกรัฐมนตรีของ ส.ว. จะไม่เกี่ยวกับการเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ควรดูที่จริยธรรมในการทำหน้าที่” แล้วยังบอกอีกว่า ถ้าจะจี้เรื่องขั้นตอนสรรหาไม่ชอบมาพากลละก็ ต้องไปว่ากับ กกต. (เอาเอง)

ก่อนหน้านี้เมื่อตอนที่พรรคเพื่อไทยแถลงว่าจะยื่นญัตติตรวจสอบประเด็นดังกล่าว ฝ่ายกฎหมาย คสช.อีกคน วิษณุ เครืองาม เย้ยหยันไว้ว่า “เหนื่อยเปล่าๆ” ทว่าถูก นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.ดาวรุ่งของเพื่อไทยย้อนให้ว่า

“แม้ว่าจะถูกเสียงข้างมากปกป้อง คสช และ ส.ว ไม่ให้ตั้งกรรมาธิการสอบสวน แค่ฟังเนื้อหา เหตุผลความจำเป็นในญัตติ ก็หนาวแล้วครับ เวันแต่ ด้าน×ด้าน ครับ” ผลออกมาก็ ด้าน จริงๆ ไม่เพียงแต่ไม่แคร์ถูกเปิดโปงเรื่องเอาเปรียบ

ยังด้านต่อ “เตรียมยื่นขอคุ้มครองชั่วคราวไม่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่” ส.ส. ๒๗ คนที่โดนคดีถือหุ้นสื่อ ทศพล เพ็งส้ม ทนายพลังประชารัฐว่า “๒๗ ส.ส.ของพรรค พปชร.ไม่เหมือนกับกรณีอื่น จึงไม่ควรที่ศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่”

ว่ากันดื้อๆ อย่างนี้แหละ “เพราะถ้าหากศาลสั่งให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่ ก็จะได้รับผลกระทบกับการทำงาน เพราะไม่ใช่แค่กระทบถึงการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.เท่านั้น แต่ยังกระทบต่อการบริหารงานของรัฐบาลด้วย” อ้างว่า “เพราะว่ารัฐบาลยังไม่มีการแถลงนโยบายในรัฐสภา”

เขาจับเกี่ยวโยงกันได้ยังไงไม่รู้ละ แต่ทนาย พปชร. บอก “จึงจะไปเทียบกับกรณีของธนาธรไม่ได้ เพราะมันเป็นคนละเรื่องกันอย่าเอามารวมกัน” พูดง่ายๆ ว่ากรณีหุ้นสื่อของ “๔๑ ส.ส.ที่ถูกพรรคอนาคตใหม่ยื่นต่อประธานสภาฯ อาจจะคล้ายกันคือถือหุ้นสื่อ แต่ข้อเท็จจริงไม่เหมือนกัน”
 
ไม่เหมือนตรงไหน ชื่อหรือหน้าตาหรืออายุ ก็ในเมื่อ เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นศาลรัฐธรรมนูญไปแล้ว ตามมาตรา ๔๙ “เพื่อให้อัยการสูงสุดส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การเลือก ส.ว. ๑๙๔ คน ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่”

 
การจะยื่นร้องศาลรัฐธรรมนูญ “คุ้มครอง ไม่ให้สั่งพักงาน” แบบที่ทำกับ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หน.พรรค อนค. “จะเอาเปรียบกันมากไปมั้ย มีสปิริตบ้าง” ดังโฆษกพรรคเพื่อไทย ลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ ว่า แถม “พวกนี้จะยื่นขอคุ้มครองได้อย่างไร ในเมื่อศาล รธน.ยังไม่สั่งคดี” independence @redbamboo16 เสริม
แถเอาแต่ได้แท้ๆ ไม่แคร์ตัวบทกฎหมายว่าอย่างไร เหมือนพวกลิ่วล้อรัฐประหารอย่าง “กปปส.ที่โดนข้อหากบฏ ช่วงก่อม็อบปี ๕๖-๕๗ ได้ทำเรื่องยื่นต่อศาลอาญาขอให้ส่งคำร้องต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญ” โพสต์ของ ตระกองขวัญชี้ถึงการร้องของ แก้วสรร อติโพธิ
 
กระทั่งประธานสภาผู้แทนฯ ก็ทำเหมือนจะเอากับเขาด้วย พอ ๗ พรรคสัตยาบัน ยื่นกระทู้ด่วนตรวจสอบทั้ง คสช.และรัฐบาลตู่ เกี่ยวโยงระเบียบปฏิบัติรัฐสภา นายหัว ชวน ก็ หลีกภัยทันที “สมาชิกหลายคนยกมือ ก็ไม่อนุญาตให้อภิปราย ปิดไมค์ใส่บ้าง เร่งรัดตัดจบ” จนมีคนถาม “ท่านชวนจะรีบไปไหน” (@LP_movement)

“เล่นกันง่ายจัง...เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร ทั้ง ครม. ศาล องค์กรอิสระ หน่วยงานของรัฐ” ตามอำนาจที่มี แต่ขาดเหตุผลในการเชื่อมโยง “จะเล่นกันแต่ว่า กปปส.ชงศาลรัฐธรรมนูญ ตบ จบคดีอาญา จบบรรดาความผิดทั้งหลาย ง่าย ๆ ยังงั้นเหรอ”

“ดูแค่คดีนักการเมืองถือหุ้นสื่อในตอนนี้สิ วุ่นแค่ไหน ศาลฎีกานักการเมืองชี้แล้วว่าผิด ตอนนี้ถึงคราวศาลรัฐธรรมนูญบ้าง” ทำท่าจะชี้ต่างให้พวกตนรอด (พวกของ ตลก.และตะหาน) “ไม่รู้อิงหลักอะไรในการหาทางจบคดีแบบนี้ หลักนิติศาสตร์ไม่ใช่แน่ ๆ หลักรัฐศาสตร์ก็ไม่เกี่ยว”

แสดงว่าทุกเส้นสาย คสช. มุ่งใช้อภินิหาร ตลก.ศาลรัฐธรรมนูญที่ ตู่ตั้งกำจัดขวากหนามและก้าง รวมทั้งเอาตัวรอดถ่ายเดียว เล่นอย่างนี้ไม่พ้นได้เละแน่