“วิษณุ”แจงพักหน้าที่ศาลดูความเสียหาย
ชี้ไม่เกี่ยวคดีมีมูลหรือไม่ ยก“ดอน”มาอ้าง
อ.กฎหมายชี้นำ! วิษณุ ชี้ศาล รธน. วินิจฉัยให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ปมถือหุ้นสื่อ ต้องดูความเสียหายเป็นหลัก ไม่เกี่ยวเรื่องมีมูลหรือไม่ รับ คกก.สรรหารู้ สว.ถือหุ้น ป้องไม่ใช่ความบกพร่อง
เมื่อ 24 มิ.ย. 2562 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ ยื่นสอบคุณสมบัติ 21 ส.ว.ถือหุ้นสื่อว่า เรื่องนี้เหมือนกับกรณีสอบคุณสมบัติ ส.ส.ที่ยื่นกันไปกันมา ส่วนจะกระทบกับการทำงานหรือไม่นั้น อยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญว่าจะมีคำวินิจฉัยอย่างไร ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ เพราะมีหลักเกณฑ์อยู่ ซึ่งเป็นดุลยพินิจของศาล
“โดยดูจากความเสียหายที่จะได้รับหากให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ถ้าไม่เสียหายศาลอาจให้หยุด แต่ถ้าหยุดแล้วทีหลังเกิดมีคำวินิจฉัยได้ความเป็นอย่างอื่น ศาลก็สั่งไม่ให้หยุด ต้องดูตรงนี้เป็นสำคัญ ไม่เกี่ยวว่าเรื่องจะมีมูลหรือไม่”
นายวิษณุ ยกคำวินิจฉัยของศาลกรณีนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จึงได้มีคำวินิจฉัยว่า ไม่ให้หยุด เพราะถ้าหยุดปฏิบัติหน้าที่จะมีผลกระทบ เพราะเป็นตำแหน่งหนึ่งเดียว เช่นเดียวกับหลักเกณฑ์การจะให้ความคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่ของศาลปกครอง
ทั้งนี้ ระหว่างการคัดเลือก ส.ว.คณะกรรมการสรรหารับทราบว่า เรื่องนี้เป็นปัญหา แต่เนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ต่อกรณีคุณสมบัติ ส.ส.ก่อนหน้านี้ มีผลเฉพาะตัว และเป็นเรื่องที่ไปร้องเรียนกันทีหลัง เมื่อพบจึงไม่ได้ทำอะไร หากจะไปตัดสิทธิ์ผู้ที่อยู่ในข่ายจะได้รับเลือกก็ต้องตัดเกือบจะทั้งหมด
แม้จะรู้ว่ามีกรณีนี้ แต่ว่าเมื่อยังไม่มีคำวินิจฉัยก็ถือว่าไม่เป็นปัญหา ส่วนคำวินิจฉัยที่มีอยู่ก่อน ไม่สามารถนำไปใช้กับคนอื่นได้ เพราะเป็นคำวินิจฉัยเฉพาะตัว ไม่เป็นบรรทัดฐานสำหรับคดีอื่น ไม่เหมือนคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่มีผลผูกมัดเป็นการทั่วไป ด้วยข้อเท็จจริงที่ไม่รู้เลยว่าต่างกันหรือไม่ และไม่มีโอกาสไปตรวจสอบว่ามีหุ้นแล้ว เลิกหรือยังขายหรือไม่
ตรงนี้ไม่ใช่ความบกพร่องของคณะกรรมการสรรหาส.ว. เพราะมีระบบสำรองเลื่อนขึ้นมาอยู่ จึงไม่มีความเสียหายอะไรเกิดขึ้น และคุณสมบัติส.ว.เหมือนกับส.ส. แต่ถ้าไม่รู้คำว่าถือหุ้นสื่อแปลว่าอะไร ถ้าพบว่าถือหุ้นตามความเป็นจริง แล้วสื่อนั้นมีกิจการทำหนังสือพิมพ์ ชื่ออะไร ออกเป็นรายวันหรือรายสัปดาห์ ถ้าเจอเช่นนี้ก็ไม่ให้อยู่แล้ว แต่การถือหุ้นสื่อที่มีวัตถุประสงค์ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ การจัดตั้งสื่อเป็นเพียงวัตถุประสงค์หนึ่ง แต่ไม่ได้ประกอบการจริง ตรงนี้ก็ไม่กล้าวินิจฉัยตัดสิทธิ์
อย่างไรก็ตาม นายวิษณุได้ตอบสวนกลับผู้สื่อข่าวทันทีที่ถามว่าคณะกรรมการสรรหาส.ว.มองว่าการถือหุ้นในบริษัทที่มีวัตถุประสงค์ทำสื่อแต่ไม่ปฏิบัติจริง ไม่ขัดคุณสมบัติว่า เป็นมุมมองเดียวกับพรรคการเมืองที่คัดคนลงสมัครส.ส. ความที่ยังไม่แน่ชัดว่ามันคืออะไร กกต.เองก็ไม่กล้าวินิจฉัย แต่บัดนี้เมื่อมีการยื่นร้อง ก็เป็นเรื่องดี ศาลรัฐธรรมนูญจะได้วินิจฉัยเป็นบรรทัดฐาน ยืนยันว่าคณะกรรมการสรรหาทำงานเรียบร้อย บริสุทธิ์ผุดผ่อง
ในส่วนของส.ส.ที่จะมีการยื่นตรวจสอบรวมกันแล้วกว่า 100 คน จะกระทบต่อการทำงานของสภาฯหรือไม่นั้น จะให้ทำอย่างไร มันจะกี่คนก็ตาม คนที่ยื่นตรวจสอบมีสิทธิ์ โดยยื่นผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ส่วนศาลจะสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ก็แล้วแต่ศาล ขั้นตอนที่ทำอยู่ถูกต้องตามกฎหมายที่เขียนไป แต่เวลาปฏิบัติจริงจะมีอะไรผิดพลาดหรือไม่ ตนไม่ทราบ ที่ตนพูดเพียงแต่อธิบายตามที่กฎหมายเขียนไว้
อย่างไรก็ตาม ตนไม่มีอะไรจะวิจารณ์ว่าการยื่นตรวจสอบส.ส.ขณะนี้ เหมือนเป็นการยื่นแก้เกี้ยวระหว่างกันหรือไม่ ส่วนที่ศาลสั่งให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่หยุดปฏิบัติหน้าที่กับกรณีการตรวจสอบคุณสมบัติส.ส.ที่เหลืออยู่นั้น อยู่ที่ศาล หากศาลจะสั่งก็คงมีเหตุผล ตนไม่สามารถตอบแทนศาลได้ และการทำงานในสภา หากส.ส.หายไปเกือบ 100 คนก็ยังทำงานได้ เข้าใจว่าไม่มีผลกระทบ ส่วนกรณีเช่นนี้จะเป็นการกดดันให้ศาลต้องเร่งพิจารณาหรือไม่ ตนไม่ควรออกความเห็น
PEACE NEWS
Peace News
