วันอาทิตย์, กุมภาพันธ์ 04, 2561

“ทหารทุกคนมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี" มีคนย้อน "จะโกงระบบโหวตทั้งที ทำให้เนียนหน่อยสิครับ"

โฆษกกลาโหมพูดซะเสียห-มา “ทหารทุกคนมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี...เรามีครอบครัว เราก็เป็นประชาชนคนหนึ่ง...มีสิทธิ์เหมือนประชาชน”

แต่ไหงมีทหารหลายคนสั่งโน่นสั่งนี่ สั่งแล้วไม่ทำ (ตามฉบับที่ ๓) ก็ลากตัวไปควบคุม อย่างดีแค่เรียกไปแจ้งโทษ เสร็จแล้วให้ลิ่วล้อใน สนง.ตำรวจจับกุมคุมขังอยู่ดี

เรื่องมีว่าเวลานี้โพลออนไลน์ไหนๆ ล้วนไม่เอาพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองหัวหน้า คสช. และ รมว.กลาโหมทั้งนั้น อย่างดี ๙๖ ต่อ ๔ (ทีพีบีเอส) หรืออย่างไม่ค่อยดี ๙๙ ต่อ ๑ (ซีเอสไอแอลเอ)

จนกระทั่งการรณรงค์ที่ change.org ของ ทิชา ณ นคร เวลานี้เข้าไป ๕ หมื่น ๘ พัน บอกทั่นรองฯ ออกไปเถ้อะ อยู่ต่อไปจะทำให้น้องตูบเสียห-มา แม้แต่ล้อเลียนการเมืองในฟุตบอลประเพณีพระเกี้ยว-ธรรมจักร ก็มีเรื่องนาฬิกาหรู ๒๕ เรือน คืนเพื่อนหมดแล้ว เป็นไฮไล้ท์

อันว่าสิ่งที่ พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ พูดถึงกรณีซีเอสไอแอลเอทำโพลออนไลน์แล้วมีคนส่งข้อความไปสนทนา อ้างตนเป็นทหารคนหนึ่งรับไม่ได้ที่มีต้นสังกัดสั่งให้นั่งกดไล้ค์รัวๆ เชียร์พล.อ.ประวิตรกัน 

ซีเอสไอแอลเอจึงเข้าไปตรวจทางอีเล็คโทรนิคถึงพฤติกรรมการโหวตโพลของตน พบว่าในช่วง ๕ โมงถึงสองทุ่มวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ “พบว่ามีผู้กดโหวต 14,987 ครั้ง อยากให้ลาออก 7,069 ครั้ง หรือคิดเป็น 47.2% ไม่อยากให้ลาออก 7,918 ครั้ง หรือคิดเป็น 52.8%

ซึ่งเป็นคะแนนโด่งอย่างผิดสังเกตุ เมื่อตรวจดูจึงรู้ว่า “มาจากการกดซ้ำจากไอพีแอดเดรสเดียวกัน” ตรงกับที่มีทหารเขียนไปคุยเปิดเผยพฤติกรรมของสายการบังคับบัญชา คสช.
“ผมเองเป็นนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล เเละระบบที่ผมสร้างขึ้นสามารถตรวจสอบได้ว่า ใครกดซ้ำๆ กันจาก IP เดียวกันเวลาไหนเมื่อไหร่ จะโกงระบบโหวตทั้งที ทำให้เนียนหน่อยสิครับ สมัยนี้เป็นสมัย Thailand 4.0 เเล้ว”


ทั่นโฆษกจะปฏิเสธว่า “กระทรวงกลาโหมไม่มีนโยบายให้ทหารมากดโหวตแบบนี้” ก็ว่าไปเป็นปกติวิสัยของทั่น แต่ถ้าจะอ้าง “ตอนนี้เราอยู่ในโหมดปรองดอง...

ไม่อยากให้เกิดการแบ่งฝ่าย หรือมีการพูดจาในลักษณะสร้างความแตกแยก” นั่นต้องถามตัวเองของพวกทั่น หยุดกร่าง หยุดคุกคาม เสียก่อนดีไหม

กรณีศิลปินทำ กราฟฟิตีศิลปะบนกำแพงในที่สาธารณะ บริเวณสะพานลอยย่านสุขุมวิท เป็นรูปนาฬิกาปลุกโบราณ บนหน้าปัดมีรูปใบหน้าพล.อ.ประวิตร ซึ่งเทศกิจทำการลบออกไปเมื่อ ๒ กุมภานั้น
 
เมื่อวานนี้ (๓ ก.พ.) ผู้ใช้นาม ‘Headache Stencil’ ลงข้อความบนเฟชบุ๊คแสดงตนเป็นศิลปินสร้างภาพดังกล่าว ว่ามีตำรวจเที่ยวตามไปเฝ้าจับตาความเคลื่อนไหวตามบ้านคนรู้จักของตนกลางดึก

“ผมเพียงแสดงสิ่งที่คิดด้วยงานศิลปะ ดังเช่นสากลโลกมีอยู่ทั่วไป ไม่ได้ไปฆ่าใครตาย ไม่น่าต้องไล่ล่ากันขนาดนี้ครับ”

จากนั้นเขาโพสต์ข้อความอีกครั้ง ระบุว่า “หนีออกมาเมื่อกลางดึกเมื่อคืน ตอนนี้ปลอดภัยแล้วนะครับ ขอบคุณทุกความเป็นห่วงและกำลังใจ”

รุ่งขึ้น วันนี้เขาโพสต์อีกครั้งว่า “ทำไมต้องมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบมาเปลี่ยนเวรเฝ้าที่คอนโดผม ตลอด ๒๔ ชั่วโมง...

เกินกว่าเหตุนะครับผมว่า ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำงานเพื่อประชาชนเถอะนะครับ เปลืองบุคคลากร เปลืองภาษีราษฎรครับ เว้นเสียแต่คนที่มาเฝ้าไม่ใช่ตำรวจ”


ถ้าไม่ใช่ตำรวจ (ลิ่วล้อ) ก็ทหาร (ลูกน้อง) ของ คสช. ทั้งนั้นไม่มีใดอื่น อย่างที่ทำกับ เอ็มบีเค ๓๙หรือกลุ่มผู้เข้าร่วมกิจกรรม อยากเลือกตั้ง ที่สกายว้อค สยามสแควร์ เมื่อ ๒๗ มกรา
คนเหล่านี้มีทั้งนักกิจกรรม นักศึกษา นักวิชาการ และประชาชนทั่วไป ถูกหมายเรียกตัวไปรับฟังข้อหาขัดขืนคำสั่ง คสช. และยุยงปลุกปั่น ซ้ำตำรวจขู่ว่าจะมีการนำตัวไปคุมขังทันทีหลังจากแจ้งข้อหา

ทำให้เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง หรือ คนส. ประกาศขอความช่วยเหลือจากบรรดานักวิชาการต่างๆ ช่วยกันทำหน้าที่เป็นนายประกันให้ผู้ต้องหาเหล่านี้

นักวิชาการที่ประสงค์เข้าร่วม “พร้อมที่ยืนเคียงประชาชนในการรักษาไว้สิทธิและเสรีภาพในทางการเมืองและหลักสิทธิมนุษยชน” ให้ติดต่อได้ที่ inbox fb ของ Chalita Bundhuwong หรือที่อีเมล์ chalita.bundhuwong@gmail.com

ส่วนผู้ที่ยินดีให้การสนับสนุนการระดมทุนสำหรับใช้เป็นหลักประกันตัวผู้ต้องหา สามารถโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาเซ็นทรัลพลาซ่า ปิ่นเกล้า ชื่อบัญชี นางสาวชลิตา บัณฑุวงศ์ และ/หรือ นางสาว ไอดา อรุณวงศ์ ณ อยุธยา หมายเลขบัญชี 264-271845-1