สงสัยว่า คสช. จะขาลงจริงนะเนี่ย เดินสะดุด ก้าวพลาด
ตกหลุมพลางตัวเองไม่หยุดหย่อน เพิ่งโดนพรรคการเมืองทั้งสองฟากชี้หน้าหยกๆ ‘ไร้น้ำยา’
ฟื้นเศรษฐกิจ จนโฆษกไก่อูต้องรีบแก้ตัว ‘ขุ่นๆ’
ไม่พอ
ตอนนี้พวกนั่งห้างดั้งเดิม ‘พยาบาลของพระราชา’
(แต่ ‘ไข่แมว’ เขาว่าเป็นพวก
‘ลางานไปไล่อิปูว์’) ที่เคยออกมาเป่านกหวีดเปิดทางทหาร
คสช. ขึ้นครองเมืองนั้นน่ะ อารมณ์บ่จอยพากันขึ้งโกรธเป็นทิวแถว ประกาศ
“ไม่บรรจุ ลาออกยกกระทรวง ๓๐ กันยายน ๒๕๖๐” กับ “ขอบคุณรัฐบาลไม่เห็นความสำคัญของพยาบาล
๓๐ ก.ย. ๖๐ ลาออกทั้งประเทศ”
ทั้งสองข้อความเป็นประเด็น ‘Hot Share’
อยู่ตามโซเชียลมีเดียขณะนี้ หลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ ๙ พ.ค. “ไม่อนุมัติอัตราข้าราชการตั้งใหม่ตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพ
จำนวน ๑๐,๙๙๒ อัตรา
โดยให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
นำตำแหน่งว่างที่มีอยู่และตำแหน่งที่จะว่างในอนาคต มาบริหารจัดการเพื่อรองรับการบรรจุพยาบาลวิชาชีพตามความจำเป็น”
มิใย ‘เฟซบุ๊กเพจ Drama-addict ของ นพ.วิทวัส ศิริประชัย อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลเกาะลันตา จ.กระบี่’
“แสดงความเสียใจกับพยาบาลวิชาชีพทุกท่านที่รอบรรจุอยู่...
ส่วนพยาบาลท่านใดที่รอไม่ไหวอีกแล้ว
เอกชนก็เป็นทางเลือกที่ดีครับ อย่าคิดมาก อยู่เอกชนก็ช่วยเหลือคนไข้ได้เหมือนกัน”
ทั่นรองฯ วิษณุ เครืองาม รับหน้าเสื่อ ยืนยัน “เรื่องนี้คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ
(คปร.) ได้พิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบหลายครั้ง
ได้ผ่อนให้ไปจำนวนมากแล้วหลายอัตรา
ขึ้นอยู่กับกระทรวงสาธารณสุขจะเอาอัตราเหล่านั้นไปจัดสรรอย่างไร ซึ่งบางคนอาจสมประโยชน์
และที่ไม่สมประโยชน์เป็นเรื่องของทางกระทรวงสาธารณสุข...
ถ้าจะตอบว่าไม่จริง ไม่เกี่ยวกับการประหยัดมันก็ไม่ใช่
เพราะต้องประหยัด แต่ไม่ใช่เหตุผลใหญ่ ยังมีอีกหลายเหตุ
เพราะถ้าเอาตามอัตราที่แต่ละกระทรวงสาธารณสุขเรียกร้องให้บรรจุ
ก็ต้องเพิ่มอัตรากำลังอีกเป็นแสนคน”
ลงท้ายคลำหาทางออกไม่เจอ โยนไปที่ ‘ไอแม้ว’
ตามเคย “ตลอดสิบปียี่สิบปีที่ผ่านมาตั้งแต่รัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร
ทำปฏิรูประบบราชการในปี ๒๕๔๔-๒๕๔๕ สามารถตรึงอัตรากำลังไว้ได้ที่ประมาณ
๔ แสนคน ถือว่าน่าพอใจ”
ก็มีคนที่ ‘ความจำไม่สั้น’ และ ‘ลิ้นไก่ไม่บวม’ ไปค้นเจอความหลังสมัยอิปูว์เรื่องเกี่ยวกับ
‘เครือข่ายพยาบาลวิชาชีพ’ นี้ว่า
เมื่อต้นธันวา ๕๕ ได้มีการประชุมร่วมกันระหว่างตัวแทนเครือข่ายฯ
กับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ทำเนียบรัฐบาล
“ซึ่งได้ข้อสรุปแล้วโดยทุกฝ่ายถือว่าวันนี้เป็นวันแห่งความสุขของทุกคน”
โดย นายแพทย์ประดิษฐ สินณวณรงค์ รมว.สาธารณสุขขณะนั้น แถลงว่า
“จะดำเนินการทยอยรับตำแหน่งลูกจ้างชั่วคราวขึ้นมาเป็นข้าราชการประจำในอัตราปีละ
๗,๕๔๗ อัตรา เป็นเวลา ๓ ปี
ซึ่งในส่วนของลูกจ้างชั่วคราวที่ขณะนั้นมีอยู่ประมาณ ๓๐,๑๐๐
อัตรา
และในส่วนที่เหลือก็จะทำสภาพการจ้างขึ้นมาเป็นสภาพที่เรียกว่าพนักงานของกระทรวงสาธารณสุข”
ผลก็คือจะทำให้ได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ
นางสาววิจิตร ศรีสุพรรณ นายกสภาการพยาบาลขณะนั้นกล่าวว่า
“วันนี้ถือว่าเป็นวันที่มีความสุขมากที่สุด ที่พวกเรากลุ่มลูกจ้างชั่วคราวรอคอยมา
เพราะเราเริ่มร้องขอมันตั้งแต่ปี ๒๕๔๗”
แล้วก็ยังมีคนที่ความจำค่อนข้างยาวและลิ้นไก่ไม่สั้น ชี้ให้เห็นความเอาแต่ได้ของ
คสช. เมื่อเร็วๆ นี้เอง กลางเดือนที่แล้ว (เมษา) หลัดๆ
โฆษกไก่อูนี่เหมือนกันบอกว่า
“ครม. เห็นชอบการขอรับการพิจารณาเลื่อนชั้นเงินเดือนกรณีพิเศษ
๒ ขั้น (นอกเหนือโควตาปกติ) เพิ่มเติมอีกร้อยละ ๓
...ให้กับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานใน
คสช. ที่อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถนำมาพิจารณาบำเหน็จประจำปีได้ จำนวน ๗๒๑ ราย”
ไม่ใช่แค่นั้นนะ
มีมติ ครม. ก่อนหน้านี้ก็เคยอนุมัติเลื่อนชั้นเงินเดือนกรณีพิเศษ ๒ ชั้น
นอกเหนือโควต้าปกติมาแล้ว
“โดยในปี ๒๕๕๘ อนุมัติไปจำนวน
๑,๐๓๓ คน และในวันที่ ๓ พ.ค.
๒๕๕๙ ได้อนุมัติเพิ่มเติมอีก ๗๐๙ คน
นอกจากนี้สำนักเลขาธิการ
คสช. ได้แจ้งตัวเลขทหารที่ช่วยในการปฏิบัติการทั้งหมด ๒๒,๗๗๑ นาย ไม่อยู่ในเกณฑ์พิจารณาเพียง ๒๕๔ นาย”
แล้วอะไรอีกรู้ไหม ท่ามกลางกระแสยี้ ว้า เฮ้ย
เรื่องซื้อเรือดำน้ำ-รถถัง และช้อปปิ้งเครื่องบินขับไล่
ปรากฏสื่อนอกเกี่ยวกับยุทโธปกรณ์ ‘IHS Jane’s’ เผยว่า
หน่วยนาวิกโยธินไทยกำลังเล็งจะซื้อ “ระบบปืนใหญ่เคลื่อนที่ติดตั้งบนรถบรรทุก
จากกลุ่มบริษัท Elbit Systems ของอิสราเอล”
โดยที่ “ระบบดังกล่าว ‘จำนวนหนึ่ง’ จะถูกส่งไปเสริมศักยภาพป้องกันตนเองตามแนวชายแดนทางตะวันออกของไทย” นี่ไม่ได้หมายความว่าเตรียมไว้เฉพาะรบกับเขมร
ลาว และเวียตนาม เท่านั้นนะ
อีกจำนวนหนึ่งคงเก็บไว้ในกรุงเทพฯ แถวเกียกกาย หรือ มทบ.๑๑
อะไรแถบๆ นั้น สำหรับเข็นออกมารออีกจำนวนหนึ่งที่จะเป็นทัพหลวงเคลื่อนมาจากค่ายพหลโยธิน
พิบูลสงคราม ๗๑๒ และ ๗๒๒ ในลพบุรี