เมื่อเวลา 20.15 น. วันที่ 26 พฤษภาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวผ่านรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ตอนหนึ่งว่า พี่น้องประชาชนที่รักทุกท่าน รัฐบาลและคสช.ยืนยันว่า การเป็นประชาธิปไตยของไทยจะต้องไม่เป็นประชาธิปไตยที่ล้มเหลว จะต้องเป็นประชาธิปไตย ที่มีรัฐบาลซึ่งยึดมั่นใน “หลักธรรมาภิบาล” นำพาให้ชาติ “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน”ภายใต้ศาสตร์พระราชาให้ได้ ตนอยากฝากประเด็นคำถามไว้ 4 ข้อ เพื่อรับทราบความคิดเห็นของพี่น้องประชาชน และนำมาพิจารณาแนวทางการทำงานต่อไป คือ (1) ท่านคิดว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไป จะได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาลหรือไม่ (2) หากไม่ได้ จะทำอย่างไร (3) การเลือกตั้งเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของประชาธิปไตย แต่การเลือกตั้งอย่างเดียวที่ไม่คำนึงถึงอนาคตของประเทศ และเรื่องอื่นๆ เช่น ประเทศชาติจะมียุทธศาสตร์และการปฏิรูปหรือไม่นั้น ถูกต้อง หรือไม่ถูกต้อง และ (4) ท่านคิดว่า กลุ่มนักการเมือง ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในทุกกรณี ควรจะมีโอกาสเข้ามาสู่การเลือกตั้งอีกหรือไม่ หากเข้ามาได้อีก เกิดปัญหาอีก แล้วจะให้ใครแก้ไข และแก้ไขด้วยวิธีอะไร ขอให้ส่งคำตอบ และความคิดเห็น มาทางศูนย์ดำรงธรรมในทุกจังหวัด แล้วให้กระทรวงมหาดไทยรวมรวมส่งมาตนยินดีรับฟัง
ที่มา (https://www.matichon.co.th/news/568178)
สาวๆ บางชาตินิยมไว้ขนรักแร้ ไม่เพียงฝรั่ง
สาวจีน,ไต้หวัน,เกาหลี,และญี่ปุ่น ก็มีสาวนิยมไว้ขน
อาเสี่ย..หัวโบราณเจอสาวไร้ขน จึงบอกไม่อาวว...ฮา
..
วัฒนธรรมใหม่ หากสาวๆไว้ขนรักแร้ จะถูกมองว่าเป็นเรื่องประหลาด หาว่า..เธอไม่รักษาความสะอาด
มีเทคโนโลยีกำจัดขนรักแร้ด้วยแสงเลเซอร์ แทนการถอน-โกนหรือแว็กซ์ ในแบบดั้งเดิม
..
แต่..ขนรักแร้คือ..สัญลักษณ์ความเป็นชาย
หนุ่มไม่มีขน..ถูกทายทักว่า..อาภัพ ("อภพฺพ"=ไม่สมควร)
เหมือนกับไม่มีขนหน้าแข้ง
สิทธิการิยะว่า..ไม่มีวาสนา ปราศจากโชค ไม่ใช่ผู้ชายเต็ม 100
หนุ่มกำจัดขนรักแร้ จึงถูกสรุปว่ามีพฤติกรรมเกย์
..
จั๊กกะแร้..เป็นภาษาปาก จึงใส่วรรณยุกต์ให้ตรงเสียง
ฝรั่งเรียกว่า armpits
แต่เรียก ขนจั๊กกะแร้ ว่า Underarm hair..อ้าว!!
พากษ์ไทยว่า..ขน-ใต้วงแขน..(ว้าว)
ขนหยิก หรือ เหยียด มาจากพันธุกรรม
"คอเคซอยด์" จะมีขนดก เยอะสุดในเผ่าพันธุ์"แขก"
"นิกรอย" จะมีขนรักแร้น้อย-ขอดและสั้น
"มองโกลอยด์"จะมีบางหรอมแหรม จึงสอดคล้องกับที่สาวจีน,เกาหลี,ญี่ปุ่น นิยมไว้ขนให้เซ็กซี่
..
มีการอ้างว่า..
ขนรักแร้เป็นแหล่งชุมนุมแบคทีเรียขยายพันธุ์ขณะเหงื่อออก
เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์น่ารังเกียจ
แต่ไม่มีขน..ก็ใช่ว่า..จะไม่มีกลิ่น
กำจัดกลิ่นได้ด้วยทาสารส้ม-สเปรย์-ลูกกลิ้ง
แต่บางชาติบางคนก็ไม่นิยมใช้..
จั๊กกะแร้..คือแหล่งผลิตกลิ่นฉุนเหม็นหอมตุ่ยของแต่ละคน
เรียกว่า"ฟีโรโมน: pheromone"
พากษ์ให้เซ็กซี่ว่า กลิ่นเรียกรัก
บางทีก็กลายเป็น..กลิ่นไล่รัก
บางคนไม่รู้ตัวร๊อก..
..
รัฐบาลไม่ได้มากจากเลือกตั้ง คิดว่าชาวบ้านรัก-ชอบ
ใครไล่ก็ไม่ได้..ไล่ได้ก็ไม่ไป
แต่ก็มีพวกที่ชื่นชม..หอม"รัฐบาลจั๊กแร้"..ฮา
พงษ์ศักดิ์ เกษมพันธ์