ถึงทีทั่นรองฯ ฝ่ายกฎหมายเอาบ้าง ลูกชายนายวิษณุ เครืองาม
เลยได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการที่ปรึกษาของ ป.ย.ป. (คณะกรรมการกำกับการปฏิรูป)
เป็นที่ฮือฮาด่าเช็ดเพราะมาสายธุรกิจแท้ๆ ไม่มี credentials คุณสมบัติใดๆ ในกิจการสาธารณะ นอกจาก “ประธานขอมา”
คงเห็นน้องนายกทำได้ (ที่อธึกกิต แสวงสุขบอกว่า “โธ่ถัง เดี๋ยวก็แบบลูกปรีชา วิษณุพูดเองว่าเอาผิดอะไรไม่ได้”)
ถึงแม้นายวิชญะ เครืองาม
ลูกชายหัวแก้วของนายวิษณุจะเรียนจบเนติบัณฑิตจากสำนักอบรมของเนติบัณฑิตยสภา แต่ก็ไม่ได้ทำงานด้านบริหารสาธารณะมาก่อน
มีตำแหน่งแต่ในบริษัทธุรกิจหลายแห่ง เช่นกิจการขนส่งสินค้าท่าเรือ
บริษัทนามยงซึ่งก็มีนายบวรศักดิ์เป็นประธานอีกนั่นแหละ
และเป็นผู้เชี่ยวชาญกิจการบรรษัทธุรกิจของทรู คอร์ปอเรชั่น ที่ซีพีเป็นเจ้าของ
เป็นต้น
“คณะกรรมการที่ปรึกษาเพื่อกำกับการปฏิรูปกฎหมายชุดนี้
มีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เป็นประธานกรรมการ”
และนายบวรศักดิ์ก็เป็นคู่หูคู่หางของนายวิษณุมาจากหาดใหญ่
สงขลา นายบวรศักดิ์มีศักดิ์เป็นอาของนายวิชญะ
นอกจากนั้นข่าวว้อยซ์ทีวียังบอกว่านายวิษณุมีน้องชายอีกสองคนนั่งอยู่ในสภาขับเคลื่อนการปฏิรูป
หรือ สปท. ด้วย คือนายดุสิต เครืองาม กับพล.อ.ต.เฉลิมชัย เครืองาม
หลังจากที่มีเสียงบ่นระงม
ทั่นรองฯ ชี้แจงว่านายบวรศักดิ์ผู้เป็นประธาน “เห็นว่าเป็นที่ปรึกษากฎหมายเท่านั้น
ไม่ได้ทำเรื่องปรองดองหรือเรื่องที่เป็นความลับ...แต่หากไม่เหมาะสมก็ลาออกได้”
อ้าว
แล้วก่อนตั้งไหงไม่คิดให้รอบคอบเสียก่อนว่ามันเหมาะสมไหม เป็นถึงรองนายกฯ
เรื่องอย่างนี้ต้องคิดล่วงหน้า ดูตาม้าตาเรือให้ดี
เผื่อไม่มีใครทักก็จะตีกินไปชิลๆ งั้นหรือ
เวลาทำง้ายง่าย พอถูกจับได้แค่แก้ตัวน้ำขุ่นๆ
แบบ ผบ. ตำรวจนครบาล ผุ้เชี่ยวชาญบริหารธุรกิจเบียร์ช้าง
วันก่อนบอกว่าเสียงระเบิดหน้าโรงละครแห่งชาติเป็นแค่แป๊พแตก
วันนี้แก้ตัวว่าที่จริงรู้แล้วว่าเป็นระเบิด
แต่แกล้งพูด “เป็นกลยุทธสับขาเพื่อหลอกให้คนร้ายตายใจ”
เอาอย่างหัวหน้าใหญ่กันเป็นพรวน ปากไม่มีหูรูด
พูดพล่ามและพูดพล่อย ล่าสุดนี่เอาอีกแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
พูดถึงการแถลงผลงานรัฐบาล คสช. ที่ต้องเลื่อนออกไปเป็นเดือนกันยายน
เพราะโดนชาวบ้านร้านช่องร้องระงม ‘จะอดตายกันหมดแล้ว’
ตรงเผงดังที่ ‘แม่น้องเกด’ พะเยาว์
อัคฮาด พูดในการเสวนา ‘๒๕ ปี พฤษภาประชาธรรม’ เมื่อ ๑๗ พ.ค. ว่าเกิด “ความตระหนักในสังคมวงกว้างถึงผลเสียของการกระทำรัฐประหารเนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี
กระบวนการปรองดองทุกวันนี้สำเร็จในขั้นหนึ่ง
คือประชาชนหลายฝ่ายเริ่มเห็นตรงกันแล้วเพราะท้องกิ่ว
คนที่ไม่เคยสนใจการเมืองเริ่มสนใจว่ารัฐประหารคืออะไร”
ประยุทธ์บอกว่า “จะเอาเงินที่ไหนไปอุดหนุน ปูพื้นให้คนเท่ากันหมด ผมยืนยันว่ารัฐบาลทำงานเต็มที่
ไม่เคยหยุด ผมทำงานมากกว่า ๒๐๐% หลายคนไม่พอใจ มองว่าเป็นการสืบทอดอำนาจ”
หลังจากนั้นเลยเถิดไปถึงการเรียกร้องให้บรรจุพยาบาล ๑๐,๙๙๒
คนประจำกระทรวงสาธารณสุขว่า
“อย่าออกมาชี้นำกันแบบนี้
ใครที่ทำแบบนี้มันก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ วันหน้าจะอยู่กันอย่างไร...ไม่นึกถึงกระทรวงอื่นบ้างหรือ
พยาบาลทำงานหนักคนเดียวหรืออย่างไร มันไม่ใช่”
อย่างไรก็ตาม
ท้ายที่สุดรัฐบาลประยุทธ์ก็ยินยอมพยาบาลครึ่งทาง จะมีการสรุปตัวเลขเสนอเข้า ครม.
วันที่ ๒๓ พ.ค.นี้ โดยนายวิษณุแจ้งว่า “ไม่สามารถบรรจุได้ภายใน
๑
ปี ตามที่เครือข่ายพยาบาลวิชาชีพต้องการ”
แต่ก็ “ยืนยันว่าจะบรรจุภายใน ๓ ปี...ขอให้เชื่อใจรัฐบาล เพราะมติคณะรัฐมนตรีจะมีผลผูกพันถึงรัฐบาลหน้า ไม่ใช่เรื่องการเมืองที่ต้องการเอาใจพยาบาล”