วันพุธ, พฤษภาคม 31, 2560

สูตรขนมจีนน้ำพริกผสมน้ำยาแบบสุราษฎร์ เร่งมือเลือกตั้งให้ประยุทธ์เป็นนายกฯ คนนอก

ผ่านไปชนิดเฉียดๆ พายุฝน โมร่าที่อาจจัดประเภทได้หลายอย่างตามแรงโหมกระแทก ตั้งแต่ไซโคลน มรสุม และดีเพรสชั่น

แต่ประเทศไทยก็ไม่พ้นฝนตกหนักช่วงปลายพฤษภา และจะตกอีกต่อไปจนถึงปลายอาทิตย์นี้ (๕ มิถุนา)


ผลก็คือหนีไม่พ้นเกิดน้ำบ่า น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำรอระบายหลายวัน ตามท้องถนนผิวจราจรและภายในบ้านเรือนร้านรวง ถ้วนทั่วทั้งหัวเมืองและในกรุง รวม ๓๘ จังหวัด

มันบ่งบอกสัจจธรรมแห่งชีวิตไทยๆ ภายใต้ คสช. ไหนจะหากินฝืดเคือง แล้วยังเผชิญกับผลกระทบที่ควรจะป้องกันและแก้ไขได้เฉียบไว ของภัยธรรมชาติซ้ำซาก

ชาวบ้านต้องหาทางออกกับความอึดอัดขัดสน ด้วยการพยายามสร้างอารมณ์ขันกับการ อยู่เป็น หรือไม่ก็ ทนอยู่ ในเมื่อถึงอย่างไรรัฐบาลทหารที่อวดเก่ง อวดดีนักหนา ก็ เอาไม่อยู่ เหมือนกัน

(ภาพเหตุการณ์เด็กๆ เล่นน้ำที่ไหลบ่าลงมาตามบันไดขึ้นภูเขาทองวัดสระเกศ หรือตำรวจจราจรจับปลาตัวเขื่องได้ตรงกลางถนนวิภาวดี เป็นตัวอย่าง)

หนักเข้าไปใหญ่ ในเมื่อสถานะการคลังของชาติทำท่าจะดิ่งลงเหว หลังจากที่ปรากกหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอุ้งมือของ คสช.

ล่าสุดมีตัวเลขจากการเปิดเผยของสำนักงานบริหารหนี้ หรือ สบน. ชี้ชัดว่าเมื่อสิ้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ปริมาณหนี้สาธารณะของประเทศมีจำนวนถึง ๔๒.๖๔ เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี คือทั้งสิ้นกว่า ๖ ล้านล้านบาท

แบ่งออกเป็น หนี้ในประเทศ ,๙๔๘,๔๗๗.๗๕ ล้านบาท หรือ ๙๔.๙๐% และหนี้ต่างประเทศ ๓๑๙,๔๔๓.๑๓ ล้านบาท (ประมาณ ,๓๒๔.๗๑ ล้านเหรียญสหรัฐ) หรือ .๑๐% ของหนี้สาธารณะคงค้างทั้งหมด


ด้านความมั่นคง ทั้งที่มีการผลักดันโพลออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า แจ้งว่าประชาชนพอใจการใช้อำนาจอย่างเกือบจะเบ็ดเสร็จของรัฐบาลทหาร แต่ก็มีเหตุก่อการร้ายไม่หยุดหย่อน ไม่เพียงในพื้นที่สามสี่จังหวัดติดชายแดนภาคใต้ แต่มันขยายขึ้นมาถึง ๗ จังหวัด และสูงถึงกะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ซ้ำในปีนี้ขยับเข้าไปในกรุงเทพฯ แล้วถึงสามครั้ง ไล่เรี่ยกันในระยะเวลาสองสามเดือน คือที่แยกคอกวัว หน้าโรงละครแห่งชาติ และที่โรงพยาบาลพระมงกุฏฯ หลังจากที่มีประปรายในปี ๕๗-๕๘ อาทิ ที่มินบุรี ปทุมวัน และราชประสงค์

ทั้งที่ คสช. พยายามปฏิเสธว่าการวางระเบิดไป๊ป์บอมบ์ที่ รพ.พระมงกุฏเกล้า ไม่ใช่เป็นปัญหาภายในสายการคุมอำนาจของ คสช. หรือเป็นการ จัดฉากให้สอดคล้องกับที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ หัวหน้า กปปส. ออกมาเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีคนนอก หลังเลือกตั้งที่คาดว่าอาจจะมีขึ้นได้ในราวกลางปี ๒๕๖๑

มิหนำยังไม่ทันไร ปรากฏมีผู้พบเห็นไป๊ป์บอมบ์ซ่อนอยู่ในพงไม้หลังศูนย์วัฒนธรรมแห่งชาติ ใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน “เป็นท่อเหล็กรูปทรงกระบอกสีดำมีฝาเกลียวปิดขนาดความกว้าง . เซนติเมตร ความยาว ๒๐. เซนติเมตร

ภายในบรรจุด้วยวัตถุระเบิดแรงต่ำประเภทดินดำหรือดินเทาน้ำหนัก ๒๒๐ กรัม"


ทีมสืบสวนแจ้งว่ามีเศษเหล็กตัด น็อตเกลียวและตะปูใส่กล่องวางอยู่ข้างๆ พร้อมที่จะบรรจุและต่อเชื่อมกลไกแสวงเครื่องจุดระเบิด สันนิษฐานว่าอาจเป็นผู้ถือครองนำมาทิ้งไว้

เพราะเกรงกลัวว่าถ้ายังเก็บกับตัวเจ้าหน้าที่จะไปตรวจพบ เนื่องจากอยู่ในระหว่างการสืบสอบคนวางระเบิด รพ.พระมงกุฏฯ ทั้งที่หลายวันแล้วยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้

ไม่ว่าจะเป็นกี่ครั้งกี่หน ทางการไม่เคยคลี่คลายคดีเปิดเผยตัวคนร้ายได้สักครั้ง อย่างดีก็มีระดับผู้บัญชาการตำรวจแถลงข่าวว่ารู้ตัวบุคคลที่ก่อการ แต่ก็ไม่ยอมเปิดเผยตัวว่าเป็นใครกันแน่

จนฝ่ายต่อต้าน คสช. ชักจะปักใจมองเห็นเป็นเลศนัยว่ามีการปกปิด เพื่อไม่ให้สาวไปถึงความเป็นไปได้ของการสร้างสถานการณ์ให้ คสช. ไม่ออกไปก็อยู่ยาว อย่างใดอย่างหนึ่ง

หรือทั้งสองทางรวมกันตามสูตรขนมจีนน้ำพริกผสมน้ำยาแบบสุราษฎร์ นั่นคือเร่งมือการเลือกตั้งให้พรรคพรรคการเมืองเข้าร่วมรัฐบาล อันมีประยุทธ์เป็นนายกฯ คนนอก ดังที่รัฐธรรมนูญปี ๖๐ ฉบับมีชัยออกแบบไว้

จึงได้เห็นอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กลุ่มแกนนำ กปปส. ๘ คนที่ลาออกไปเป่านกหวีดปิดกรุงเทพฯ จนร้อนระอุสุกงอมเปิดช่องคณะทหารเข้ายึดอำนาจเมื่อกลางปี ๕๗ 

คนเหล่านี้พากันเลียกลับน้ำลายที่บ้วนไว้ ยกขบวนหวนคืนสู่พรรค เตรียมตัวลงเลือกตั้งกันแล้ว