รอยเตอร์ชี้รัฐบาลทหารไทย พุ่งเป้า “บึ้ม รพ.” หวังป่วนคสช.!!!
BY SARA BAD ON MAY 23, 2017
ที่มา ispace thailand
เหตุการณ์วางระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ถูกจับตามองจากสื่อทั่วโลก โดยสำนักข่าวรอยเตอร์(Reuters) ได้รายงานข่าวเหตุการณ์ดังกล่าวโดยระบุว่า เกิดเหตุระเบิดที่โรงพยาบาลกลางเมืองหลวงของประเทศไทยเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 24 ราย เหตุระเบิดครั้งนี้เกิดขึ้นในวันครบรอบ 3 ปี การรัฐประหารของประเทศไทย โดยรัฐบาลทหาร และผู้บัญชาการกองทัพบกไทยชี้ว่าน่าจะเป็นฝีมือของผู้อยู่ตรงข้ามกับรัฐบาลทหาร
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ยังไม่มีการออกมารับผิดชอบจากกลุ่มใดกับการวางระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ผู้เข้ารับบริการส่วนใหญ่เป็นทหาร และครอบครัว
“เราพบชิ้นส่วนของวัสดุที่ใช้ในการทำระเบิดแล้ว” พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผกก.อีโอดี ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นฝีมือของกลุ่มใด โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดอยู่
ด้าน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 24 คน ส่วนใหญ่บาดเจ็บจากเศษตะปู และกระจก
ทั้งนี้ดูเหมือนว่าฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐจะพุ่งเป้าผู้ต้องสงสัยไปที่กลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ทางการเมืองซึ่งอยู่ตรงข้ามกับรัฐบาลทหาร และกลุ่มผู้ก่อการร้ายมุสลิมในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย
“ไม่เกี่ยวว่าจะเป็นวันครบรอบ 3 ปีการรัฐประหาร หากผู้ก่อเหตุมีโอกาสเขาก็จะทำ” พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบกไทยระบุ พร้อมเปิดเผยว่าได้มีการสั่งการให้เพิ่มเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบเพื่อเพิ่มการรักษาความปลอดภัยแล้ว
พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ระเบิดถูกซุกซ่อนไว้บริเวณใกล้กับทางเข้าห้องจ่ายยาของโรงพยาบาล
ย้อนกลับไปในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 กองทัพไทยได้ทำการยึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง หลังจากมีเหตุการณ์ประท้วงที่รุนแรงในประเทศไทย โดยกองทัพระบุว่ามีความจำเป็นต้องยึดอำนาจเพื่อความสงบเรียบร้อย และทำการปฏิรูปการเมือง
โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกยึดอำนาจจากการรัฐประหารในปี 2557 เพิ่งโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเมื่อวันจันทร์ เพื่อเรียกร้องให้มีการคืนประชาธิปไตยให้แก่คนไทย พร้อมระบุว่าเศรษฐกิจของไทยในวันนี้กำลังประสบปัญหาเป็นอย่างมาก
ปัจจุบันเศรษฐกิจของไทยยังคงย่ำแย่เป็นอย่างมาก แม้ว่าภาคการส่งออกจะมีแนวโน้มค่อยๆฟื้นตัวอย่างช้าๆ แต่ 3 ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยก็สั่นคลอนเป็นอย่างมาก จากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ย่ำแย่ และการค้าขายที่ตกต่ำ
ภายหลังจากการรัฐประหาร คณะทหารผู้ก่อการ หรือ ที่เรียกกันว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้เพิ่มการควบคุมต่อผู้ที่ไม่เห็นด้วย พร้อมทั้งมีการเพิ่มกฎหมายควบคุมการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง
นอกจากนี้รัฐบาลทหารของไทยยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าต้องการที่จะทำให้พรรคการเมืองต่างๆมีความอ่อนแอ และคงอำนาจอยู่เหนือรัฐบาลจากการเลือกตั้งในอนาคต จากรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เพิ่งประกาศใช้ไป และคาดกันว่าการเลือกตังจะถูกจัดขึ้นในช่วงสิ้นปี 2561
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์วางระเบิดโรงพยาบาลในครั้งนี้ ถือเป็นเหตุระเบิดครั้งที่ 3 ในรอบ 2 อาทิตย์ โดยเหตุการณ์แรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเป็นการวางระเบิดบริเวณห้างสรรสินค้า Big C ปัตตานี ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 61 ราย ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็ไม่มีผู้แสดงความรับผิดชอบ แต่เชื่อกันว่าน่าจะเป็นฝีมือของผู้ก่อการร้ายใน 3 จังหวัดชายแดนใต้
ต่อมาในวันที่ 15 พฤษภาคม ก็เกิดเหตุระเบิดที่บริเวณหน้าโรงละครแห่งชาติในกรุงเทพ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย และยังไม่ชัดเจนว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ
ไม่ว่าเหตุระเบิดทั้ง 3 ครั้งจะเกี่ยวข้องกันหรือไม่ ไม่ว่าใครคือผู้ก่อเหตุ หรือหวังผลอะไร ความรุนแรงในลักษณะนี้ก็ถือเป็นการก่อการร้ายที่สมควรถูกประณามทั้งสิ้น แต่หากจะคิดในมุมของเหตุและผล ถ้าการก่อเหตุครั้งนี้เกี่ยวข้องกับภาคใต้ ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ผู้ก่อการร้ายจาก 3 จังหวัดชายแดนมาก่อเหตุในกรุงเทพ
หรือหากจะมองเป็นเรื่องการเมืองก็ยิ่งน่าคิดว่าทำแล้วจะเป็นผลดีหรือไม่ เพราะรัฐบาลคสช.ก็ยังอยู่ ไม่ได้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองแต่อย่างใด พร้อมทั้งเกิดคำถามว่าเหตุใดต้องก่อเหตุในวันครบรอบ 3 ปีรัฐประหาร ในเขตพื้นที่โรงพยาบาลทหารเสียด้วย???
Reference
http://www.reuters.com/article/us-thailand-blast-idUSKBN18I0N8