วันอังคาร, สิงหาคม 16, 2559

เรื่องของคนดี




.....



โครงการร้านอาหารเพื่อคนจนในบราซิลที่เอาอาหารที่เหลือจากหมู่บ้านนักกีฬาโอลิมปิกส์ และอาหารที่ได้รับบริจาคอื่น ๆ มาปรุงใหม่ โดยหัวหน้าพ่อครัวเป็นเชฟระดับโลกจากอิตาลี เฟอร์นิเจอร์ เก้าอี้ โต๊ะ และสิ่งประดับประดาในร้านจัดทำโดยศิลปินเลื่องชื่อจากบราซิลที่ขายงานแต่ละชิ้นได้เป็นหมื่นเป็นแสน บริกรแต่งกายและให้บริการแบบเดียวกับร้านระดับห้าดาว คนจนที่ได้รับสิทธิมากินในร้านได้รับการปฏิบัติแบบอภิสิทธิชน แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต ฟังดูเหมือนงาน “สังคมสงเคราะห์” หรือ “โรงทาน” มั้ย?

ไม่หรอกครับ Massimo Bottura 54 ปี เชฟสามดาวของมิเชลลิน กับร้านอาหารดีสุดในโลกของเขาที่ Modena บอกว่า เขาต้องการให้คนจนในริโอเดอจาเนโร ได้รับการปฏิบัติแบบพระราชา “To be treated like Kings and Queens” เพื่อเป็นการฟื้นฟูศักดิ์ศรีของคนเหล่านี้ "we give dignity, rebuild dignity.” โบตตูราที่ชอบทำอาหารตั้งแต่เด็กบอก ดังนั้นในร้านอาหารของเขาซึ่งเปิดบริการให้เฉพาะคนจน ในช่วงโอลิมปิกส์และพาราลิมปิกส์ ห้ามนักข่าวมาทำข่าว ห้ามสัมภาษณ์หรือถ่ายรูป “แขกผู้ทรงเกียรติ” ของเขา แถมนักข่าวถ้าอยากสัมผัสประสบการณ์ในร้าน ยังต้องสวมผ้ากันเปื้อนเพื่อร่วมทำครัวเลี้ยงอาหารให้คนจนสุดในสังคม หนึ่งในสี่ของประชากรในเมืองที่อยู่ในย่านสลัม favelas ด้วย

"It is not a charity project, it is a cultural one." มันไม่ใช่งานการกุศลแต่เป็นกิจกรรมทางวัฒนธรรม โบตตูราขอความร่วมมือจากศิลปินหลายด้าน ๆ ในบราซิลให้มาช่วยตบแต่ง สร้างบรรยากาศในร้าน คนที่มาสิทธิมากินในร้านต้องผ่านการคัดเลือกจากชุมชนที่ยากจนสุดในเมืองใหญ่แห่งนี้ เพราะเขารับแค่คืนละ 70 คนเท่านั้น โบตตูราบอกว่า ทุกวันเขาเปลี่ยนกล้วยที่สุกงอมเกินไป มะม่วงที่หน้าตาไม่สวย และนมที่เกือบหมดอายุ ให้เป็นอาหารหรู เมนูสามคอร์สสำหรับคนจนเหล่านี้ เป็นการสร้าง “ความหวัง” ให้กับคนว่า เราสามารถเปลี่ยน “ของเหลือ” ให้เป็น “ของดี” ที่น่าอัศจรรย์ได้

เรียกว่าเป็นโครงการที่ดีด้านสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมศักดิ์ศรีของมนุษย์ โบตตูราบอกว่ายังเป็นการทำตามคติดั้งเดิมของวัฒนธรรมแม่บ้านในอิตาลี ซึ่งเวลาประกอบอาหาร จะไม่มีเศษอาหารเหลือทิ้งเลย เรียกว่าเอามาปรุงได้ทุกส่วน "We are going to bring back our grandmother’s way of thinking and are translating it into a contemporary work” กลับไปสู่ยุคปู่ย่าตายายเพื่อเอามาใช้ในสังคมปัจจุบัน ‘Do not throw away that piece of meat, don’t waste this Parmigiano-Reggiano crust’" ในการปรุงอาหาร ไม่เหลือเศษชีส ไม่เหลือเศษอาหารให้ทิ้งเลย โบตตูราบอก

ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทำร้านอาหารเพื่อคนจนที่ผลิตจาก “food waste” เช่นนี้ เขาเคยทำมาแล้วในงาน Milan Expo เมื่อปีที่แล้ว ออกจะเหลือเชื่อที่พ่อครัวระดับโลกแบบเขา เจ้าของร้านอาหารหรูที่เพิ่งจะเปิดร้านอาหารใหม่ที่นิวยอร์กกับ Robert De Niro จะมีความคิดก้าวหน้ามาก ทั้งเพื่อสิ่งแวดล้อม ทั้งเพื่อการกระจายโภคทรัพย์ในสังคม ทั้งเพื่อความสวยงามและศิลปะ ไม่ใช่พ่อครัวธรรมดาจริง ๆ

Master Chef Turns Leftovers Into Fine Dining For Brazil's Hungry http://n.pr/2b41CWP

https://www.theguardian.com/…/massimo-bottura-chef-best-res…

http://www.eater.com/2016/8/3/12347258/massimo-bottura-rio

ที่มา FB

Pipob Udomittipong